072 - ชีวิตที่โรงตีเหล็กล่ะค่ะ



ก็ไม่รู้สินะ แต่ดูเหมือนฉันจะเกิดใหม่ที่ต่างโลกล่ะ
よくわからないけれど異世界に転生していたようです
แปล : Ayumin3310


ข้าสู่ช่วงบ่ายของวันที่สอง แต่ฉันก็โหมตีดาบตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ จากที่ก่อนหน้าตีได้แค่หนึ่งเล่ม ตอนนี้สามารถจบงานได้สามเล่มในระยะเวลาทุกๆ สองชั่วโมงแล้ว ดูเหมือนว่านี่จะเป็นผล จากการที่ระดับของสกิลสูงขึ้นล่ะมั้งนะ? และตอนนี้สกิล【งานตีอาวุธ】ก็เป็นระดับห้าแล้ว


นับจากวันนั้น กิจวัตรประจำวันของฉันก็จะเป็นแนวๆ ว่า ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ลงไปช่วยห้องครัวเตรียมอาหาร ตีดาบในตอนกลางวัน ทานมื้อค่ำ อาบน้ำ แล้วก็เข้านอน


…...เอ้อๆ ตอนที่อาบน้ำ ความร้อนและประกายไฟจากเตาไฟมันทำให้ผิวเสีย แสบแปล๊บๆ ไปหมด เพราะงั้นเลยสร้างเครื่องประทินผิว1 ขึ้นมาใช้

[1 skincare]

ว่าไปนั่น จริงๆ แล้วมันก็แค่โพชั่นฟื้นฟูธรรมดาน่ะแหละ แต่ด้วยความที่ผิวฉันยังนุ่มเนียนดึ๋งดั๋ง ขาวใสไร้รอยใดๆ  ห่างไกลจากการมีรอยแผลเป็น ทั้งที่ทำงานในสายงานของการตีเหล็กนี่ ดูเหมือนเรื่องโกหกไปเลยเนอะ…...


นอกจากนั้น ฉันก็โหมตีดาบต่อเนื่องไปเรื่อย จนเมื่อไหร่ก็ตามที่เหล็กที่เป็นวัตถุดิบหมด ฉันก็จะขอซื้อต่อจากคุณเจ้าสำนัก และในทุกอาทิตย์ จะมีหนึ่งวันที่ฉันออกไปหาเก็บสมุนไพรและหาตุนอาหาร แถมเป็นการพาโนรุนกับเบลไปออกกำลังกายด้วยในตัวล่ะ 


ขณะที่ชีวิตเดินไปตามครรลองนั้น สกิล【เก็บเกี่ยว】ของชั้นก็เพิ่มเป็นระดับ 10 แล้วล่ะ ฮืมม จะว่ายังไงดีล่ะ…...ดูเหมือนว่าค่า DEX ชั้นมันจะเพิ่ม ตอนที่ระดับของสกิลเพิ่มไปด้วยเลยล่ะ…...ช่างมันเถอะ ยิ่งสูงก็ยิ่งดีอ่ะเนอะ


นอกจากนั้นก็คือ สกิล【ดาบสื่อจิต1】ที่ใช้เพิ่มความแม่นยำของอาวุธทุกประเภทด้วยการหนุนพลังเวทย์เข้าไป กับสกิล【ความคิดคู่ขนาน2】ที่ใช้แบ่งการประมวลผลของสมองให้คิดอะไรได้หลายอย่างพร้อมกันนั้น จะเพิ่มระดับจนผลที่ได้เหมือนกับจะได้สกิลใหม่ขึ้นมาเลยล่ะ

[1 操剣魔法], [2 マルチタスク]

สกิลตัวแรกก็ทำให้มีดซัดมีความแม่นยำขึ้นจนผิดหูผิดตา แถม MP ยังลดลงอีก น่าดีใจชะมัด ส่วนอันหลัง ก็เหมือนจะทำให้ผลของสกิลเพิ่มขึ้นถ้าใช้งานสกิลพร้อมกันได้หลายตัว แล้วถ้าใช้เวทย์มนต์พร้อมกันล่ะผลจะเป็นยังไงนะ?  

ตอนนี้ ระดับของทั้งสองสกิลอยู่ที่ 3 ก็ไม่ได้คิดว่า คงดีกว่านี้ถ้าทั้งสองสกิลเลเวลสูงกว่านี้อีกซักหน่อย หรอกนะ งึมๆๆ


เช้าวันหนึ่ง หลังจากที่ตื่น แต่งตัวและลงมาที่โรงอาหาร ก็พบเข้ากับคุณแม่บ้านดูแลหอ กำลังบ่นงึมงำอะไรซักอย่างอยู่ ดูท่าทางไม่สบายใจ มีอะไรเกิดขึ้นนะ? 


“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ”


“หืม? อ่า คุณหนูนี่เอง คือว่า…...”


ดูเหมือนว่า ร้านขนมปังเจ้าประจำที่ทางนี้ไปอุดหนุนในช่วงเช้าบ่อยๆ มีแป้งที่เป็นวัตถุดิบในการทำขนมปังไม่พอ เพราะสายส่งมีปัญหา จึงไม่สามารถอบขนมปังได้ถึงจำนวนปกติที่เคยทำ เหตุนี้เลยทำให้เธอไม่สามารถหาขนมปังมาได้มากพอ หรือสรุปง่ายๆก็คือ คุณแม่บ้านกำลังกังวลว่าปริมาณมื้อเช้าที่ทำได้ จะไม่มากพอสำหรับทุกคนนั่นเอง


“มื้อเช้า เด็กพวกนั้นก็กินกันเยอะซะด้วยสิ”


สำนักนี้ก็ใหญ่มากซะด้วย แล้วก็ใช่ว่าจะแค่มื้อเช้าหรอกนะที่ทานเยอะน่ะ ทุกคนก็ทานกันเยอะตลอด เพราะงั้นไม่ว่ามื้อไหนก็เยอะทั้งหมดนั่นแล 

ฮืมม ขนมปังไม่พองั้นเหรอ หมายความว่าคาร์โบไฮเดรตไม่พอสินะ……


ตอนที่เงยหน้ามองไปที่เตา ก็เห็นซุปผักสองหม้อใหญ่ที่เห็นอยู่เป็นประจำทุกวัน แล้วก็เนื้อ เนื้อเป็นมื้อเช้าอีกแล้วเรอะ อืมม?


“ขอหนูทำอะไรซักอย่างกับซุปนี่ซักนิดได้มั้ยคะ? ”


“หืม? ได้สิจ๊ะ ว่าแต่จะทำอะไรกับมันเหรอ? ”


“หนูคิดจะใส่อะไรลงไปแทนที่ขนมปังที่มีไม่มากพอน่ะค่ะ”


“เหห? ถ้างั้นก็รบกวนด้วยนะจ๊ะ”


ตอนที่มองกวาดสายตา หาวัตถุดิบที่พอใช้ได้ ก็พบมะเขือเทศที่ซื้อมา โดยตอนแรกตั้งใจที่จะใส่ลงไปในสลัด เพราะงั้นก็จะใช้เจ้านี่แหละนะ


ฉันใส่มะเขือเทศลงไปในน้ำร้อนแล้วรีบตักขึ้นมาเพื่อตั้งใจที่จะลอกเปลือกออก แต่ด้วยเงื่อนเวลาที่ค่อนข้างบีบรัด ทางนี้เลยฝากให้คุณเมดเป็นคนช่วยลอกเปลือกแทน ที่ต้องถึงขนาดนี้ เพราะปริมาณมันมากกว่าปกติมาก ก็ตั้งสองหม้อใหญ่ๆ เลยนะ


ถัดมา ฉันลงมือนวดแป้งกับน้ำเปล่า ให้เป็นไซส์ขนาดพอดีคำ เป็นทรงเกี๊ยวแบนๆ โดยมีคุณแม่บ้านมาช่วยเป็นลูกมือ ก็ปัญหาเดิมนั่นแหละ ปริมาณที่ต้องทำมันเยอะมาก

ถ้าอยากให้อร่อยมากขึ้น ก็สามารถนึ่งมันฝรั่ง แล้วบดนวดผสมเนื้อลงไปในแป้งพร้อมกันไปได้เลย แต่คราวนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเวลาไม่พอ

มะเขือเทศลอกเปลือกเสร็จพร้อมๆ กับแป้งทรงเกี๊ยวเสร็จพอดี ฉันเลยบดมะเขือเทศ แล้วเทลงไปผสมกับซุปเดิมในหม้อ จากนั้นก็ปรุงรสด้วยพริกป่นเล็กน้อยเป็นวัตถุดิบลับ ขณะที่น้ำในหม้อเริ่มกลายเป็นสีแดงสดจากการที่มะเขือเทศละลายออกมา คุณแม่บ้านดูแลหอกับคุณเมดที่ไม่เคยเห็นซุปสีแดงมาก่อน ต่างก็ทำหน้าเหมือนกำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ยังไงยังงั้น แต่ฉันไม่สนหรอกนะ 

หากใส่มันฝรั่งลงไปตอนนี้เลย เนื้อมันจะละลาย แหลกเป็นแป้งเอาได้ ทางแก้ก็คือการนวดลงไปกับแป้งอย่างที่ว่าไป แต่หนนี้ไม่ได้ทำแบบนั้น เลยเคี่ยวซุปให้เข้าที่อีกหน่อยจึงค่อยใส่มันตามลงไปทีหลัง ด้วยวิธีการใส่มันฝรั่งลงไปในซุปตรงๆ จะทำให้สีของมันฝรั่งไม่สวย แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา เพราะเงื่อนเวลามันขมวดเข้ามาแล้ว เพราะงั้นก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้ไปก่อน หลังจากนั้น ฉันก็เริ่มลงมือช้อนฟองไขมันออก


พอแป้งทรงเกี๊ยวสุก ก็เข้าสู่ขั้นตอนการปรุงรสชาติ ฉันตักซุปขึ้นมาชิม ใส่พาสลีย์1 แห้งลงไปนิดหน่อยดีมั้ยนะ? ซุปซุยตัน2 สไตล์มิเนสโตรเน่3 ? …...หรือจะเรียกว่า ซุปมิเนสโตรเน่สไตล์ซุยตันดีล่ะ? แหม แบบไหนก็คงเหมือนๆกันแหละเนอะ

[1 Parsley : เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง ลำต้นเป็นพืชล้มลุก รูปร่างคล้ายผักชี ใบสดกับ แห้งมีกลิ่นต่างกัน]


Parsley : https://www.yates.com.au/plants/herbs/parsley/how-to-grow-parsley/


[2 すいとん : Suiton(ซุยตัน) ซุปชนิดหนึ่ง มีเอกลักษณ์ตรงที่แป้งในซุป ใช้วิธีการนวดขึ้นรูปด้วยมือ เป็นอาหารโบราณสมัยมุโรมาจิ นับเป็นต้นกำเนิดของ มิซุดังโงะก็ว่าได้ ]


Suiton : https://macaro-ni.jp/47522


[3 ミネストローネ : Minestrone(มิเนสโตรเน่) ซุปผักของอิตาเลี่ยน มีสีแดงสดจากมะเขือเทศ วัตถุดิบหลักๆ จะมีมะเขือเทศ มันฝรั่ง แครอท เซลารี่ ผักและธัญพืชต่างๆ หลายๆ สูตรจะชอบใส่เส้นพาสต้าลงไปด้วย ทีนี้ หนูเร็นไม่ใช้เส้นพาสต้า แต่ดันใช้แป้งที่ขึ้นรูปด้วยมือแบบซุยตันแทน เลยออกมาเป็นเช่นนี้แล; มิเนสโตรเน่แบบกระป๋องของแคมป์เบลมีขายในห้างใหญ่ๆ ด้วยนะคะ อร่อยมาก ♥ ]


Minestrone : https://www.simplyrecipes.com/recipes/minestrone_soup/


“อืมม น่าจะราวๆ นี้ล่ะนะคะ? ”


“......แดงจริงๆ นะคะ”


“ไม่เคยเห็นมะเขือเทศในซุปมาก่อนเลยอ่ะ…...”


หืมม เดาว่าบนโลกนี้ยังไม่เคยมีใครทำมิเนสโตรเน่มาก่อนเลยสินะ? นี่พลาดไปอีกแล้วใช่ป่ะเนี่ย? งึมๆๆๆ แต่ก็ทำไปแล้วนี่นะ ทำอะไรไม่ได้แล้วอ่ะ เดินไปข้างหน้าต่ออย่างเดียวแล้วล่ะ นอกจากนั้นคุณเจ้าสำนักยังช่วยชั้นมาตั้งเยอะแล้วด้วยล่ะนะ


ฉันตักซุปใส่จานเล็กๆ ส่งให้สองคนนั้น ลองชิมดูสิค๊าー


“นี่มัน…...อร่อย”


“อร่อยมากเลยล่ะค่ะ เพิ่งเคยกินอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยนะ…...”


“มะเขือเทศใช้ใส่ลงไปในซุปแบบนี้ได้ด้วยเหรอคะเนี่ย…...เอาไว้ต้องลองเอามาทำอะไรให้มากกว่านี้ดูแล้วสิ”


ลองได้เต็มที่เลย จะเอาเทคนิคไปใช้ก็ไม่ว่าหรอกน้า

ในเวลาไม่นานนัก ทุกคนก็เริ่มทยอยเข้ามารอทานมื้อเช้า


“คุณแม่บ้าน ทำไมขนมปังมันน้อยจังเลยล่ะ”


“ขอโทษด้วยนะจ๊ะ มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย แต่พวกเราเตรียมอย่างอื่นไว้เผื่อแทนแล้วนะ”


“......นี่มันอะไรเนี่ย...แดงชิบป๋งเลย”


“ซุปวันนี้เด็กคนนี้เป็นคนทำเองเลยนะ อร่อยมากเลยล่ะ ทำไมไม่ลองกินดูล่ะ? ”


“ไม่ล่ะ มันแดงเกิ๊น ไม่น่ากินเอาซะเลย”


“งั้นเหรอ? งั้นเอ็งก็ไม่ต้องกินนะ ข้าจะกินเผื่อเอง ของอร่อยขนาดนี้จะเหลือทิ้งก็น่าเสียดาย”


“......อร่อยขนาดนั้นเลยเรอะ? ”


“อะไร? ช้าไปแล้วต๋อย? ส่วนของเอ็งหมดแล้วเฟ้ย! ”


“โว้ว นี่มันอะไรเนี่ย โคตรอร่อยเลย! ”


“แกพูดถูก นี่มันของโคตรดีอ่ะ…..พอตักเข้าปากคำแรกก็หยุดมือไม่ได้เลยล่ะ! ”


อืมม ดูเหมือนผลตอบรับจะดีล่ะนะー


หลังจากการเติมใหม่เรื่อยๆ ของทุกคน มิเนสโตรเน่ในหม้อก็เกลี้ยง ลูกชายคนที่สองของเจ้าสำนักส่งสายตาปานจะกินเลือดกินเนื้อมา หมอนี่ปล่อยให้ตัวเองหิวโดยเลือกที่จะไม่กินซุปในหม้อ จากนั้นก็มาบอกว่าเป็นความผิดชั้นที่ซุปหน้าตาแปลกๆ นั่นไม่ใช่ความผิดชั้นซักหน่อย? โยนความผิดให้คนอื่นมันไม่ดีหรอกนาー




สองอาทิตย์ต่อมา สกิล【งานตีอาวุธ】ของฉันเพิ่มเป็นระดับ 5 แล้วล่ะ


หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณเจ้าสำนักก็มาขอให้ชั้นตีดาบให้ช่างฝีมือคนอื่นๆ ในสำนักดู ซึ่งทางนี้เครียดมากเลยอ่ะ  แต่ค่าตอบแทนเป็นแร่มิทริลหนึ่งก้อนล่ะ เลยรับปากไป


“มันจะเป็นแบบนี้นะคะ”


“......เร็วไปแล้ว”


“ไม่เข้าใจเลยง่ะ”


เฉพาะเที่ยวนี้ ฉันตีสดๆ โดยไม่ใช้【เวทย์รังสรรค์】เข้าช่วยเลย เลยทำให้ใช้เวลามากกว่าปกติ แต่ถึงกระนั้น นี่ก็ตีดาบเสร็จด้วยความเร็วสูงอย่างสมเหตุสมผล โดยไม่ได้พึ่งเวทย์มนต์ หลังจากนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะพุ่งเป้า เพิ่มสกิล【โลหศาสตร์】ให้เป็นระดับ 10 เลยละกันดีมั้ยนะ?


“พวกแกเข้าใจกันรึยังห้ะ? อายุไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เพราะงั้นก็หุบปาก แล้วทำงานเพิ่มฝีมือต่อไปซะ”


ก็รู้หรอกนะว่าพยายามจะทำให้พวกหนุ่มๆ ไฟติดน่ะ แล้วนี่ก็เป็นคนมาขอเช่าห้องนี่เอง เพราะงั้นเลยบ่นอะไรไม่ได้…...แต่ขอเรื่องนึงเหอะ เจ้าลูกชายคุณน่ะจ้องเขม็งเลย จ้องอยู่นั่น ปล่อยชั้นไปทีเห๊อะะะ


แต่ก็เพราะอย่างนั้น นี่เลยได้แร่มิทริลมาก้อนนึงล่ะนะถ้าเพิ่มระดับของสกิลอีกนิดนึง ก็จะสามารถตีดาบของตัวเองได้ซักทีล่ะ แต่ดูแล้วเป้าหมายยังอีกยาวไกล





จากนั้น เวลาอีกสองอาทิตย์ก็ผ่านไป ตอนนี้เข้าสู่เดือนแปดแล้ว

อย่างที่กะไว้ไม่มีผิด ตอนนี้เริ่มที่จะเหนื่อยกับการทำงานซ้ำๆ ตีเหล็กแบบนี้วนไปไม่หมดสิ้นแล้วล่ะ แหม นี่ก็ตีทั้งหอก, ขวาน, แล้วก็อะไรต่อมิอะไรตั้งหลายอย่างนะ แต่จะให้ทำแบบนี้วนไปมันก็อดที่จะเหนื่อยไม่ได้อยู่ดีง่ะ


นั่นเอง เป็นเหตุให้ฉันสร้างอย่างอื่นนอกจากอาวุธอยู่บ้างเหมือนกันนะ หลักๆ ก็พวกที่เป็นงานอดิเรก แล้วก็เครื่องทุ่นแรงทั้งหลาย

อย่างแรกก็คือ แท่นตัดเส้น หรือจะเรียกว่าเครื่องรีดพาสต้าก็ได้ เป็นเครื่องแบบแท่นมือหมุนเพื่อทำพาสต้าแบบเส้นยาวน่ะนะ ก็ใช้【เวทย์รังสรรค์】ทำพาสต้ามันเหนื่อยนี่นา แล้วทำไมไม่ใช้มือตัดเอาล่ะ เหรอ? ไม่เอาง่ะ ขี้เกียจ ต้องมานั่งใช้ที่ตัดเล็งให้มันตรง ยุ่งยากจะตายชัก

แล้วเจ้าเครื่องทำพาสต้านี่ ถ้าเปลี่ยนหัวตัด ก็ทำพาสต้าเป็นทรงอื่นๆ ได้อีกด้วยล่ะ

ต่อมาก็คือการพยายามสร้างนาฬิกาพก ชิ้นส่วนมันละเอียดแล้วก็ซับซ้อนมาก จนชิ้นส่วนพังคามือ สุดท้ายก็ยอมล้มเลิก เวลาที่ทุ่มเทไปเสียเปล่าหมดเลย นี่มันนาฬิกาที่เสียเวลาชัดๆ

จากนั้นก็เป็นเครื่องครัวทั้งหลาย อย่างที่ฝานบาง ที่ปอกเปลือก เรียบง่ายแต่ทุ่นแรงได้เยอะ แล้วก็ยังสร้างนั่นนี่นั่นอีกหลายอย่างเลยนะ แล้วก็ยังมีมีดทำครัวอีกด้วยล่ะ จะได้ใช้มีดพวกนี้เมื่อไหร่กันน้า…...


“อืมม ทำอะไรต่อไปอีกดีน้า? รู้สึกเหมือนจะทำสิ่งที่อยากทำไปจนหมดแล้ว แต่ว่า…...”


นอกเหนือไปจากเครื่องครัวแล้ว ก็ยังสร้างพวกเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆอีก อย่างที่ตัดเล็บ ของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ ตอนนี้น่าจะพอก่อนได้ละมั้ง? เนื่องจากช่วงนี้สร้างแต่อะไรที่ซับซ้อนๆ นับไม่ถ้วน นี่เลยเห็นค่า DEX เพิ่มขึ้นล่ะ แต่พอมองกวาดตารางสถานะ ค่า STR กับ VIT กลับไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว


แต่ก็นะ ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อมีสกิลไว้เพิ่มพลังกายแล้ว เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไรซักหน่อย ไม่ซีเรียส ไม่ซีเรียส


ขณะที่สร้างนู่นนี่หลายอย่าง นี่ก็หมั่นตีดาบแทรกเข้าไปเป็นประจำด้วยนะ เอ๋? ไม่ใช่ว่านี่มันกลับคำจากที่เคยพูดไว้ตอนแรกหรอกเหรอ เหรอ? ก็ เก็บรายละเอียดเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ถ้ามานั่งคิดมากกับเรื่องที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากๆ หัวจะล้านเอานะรู้มั้ย?


ช่วงสายวันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังออกมาหาอะไรทำเพื่อเปลี่ยนอารมณ์อยู่นั้น คุณแม่บ้านดูแลหอก็บ่นงึมงัมอะไรขึ้นมาซักอย่างอีกแล้ว


“มีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ? ”


“หืม? ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ แค่คิดว่าวันนี้จะทำอะไรเป็นมื้อเที่ยงดีนะ?”


อีกแล้วเรอะ คุณแม่บ้านเป็นคนที่ทำอาหารอร่อยอยู่นะ เพราะงั้นนี่ก็เลยตั้งหน้าตั้งตารอทานอาหารฝีมือเค้าอยู่ตลอดๆ แต่แม่คุณชอบบ่นเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ แหม จริงๆ ก็ไม่ได้บ่อยอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ก็พอเข้าใจแกอยู่อ่ะนะ ทำอาหารอยู่ทุกวัน มันก็ต้องเป็นปัญหาอยู่บ้างแหละ แถมถ้าทำซ้ำๆกันทุกวันก็ไม่ได้อีกใช่ม๊า? เพราะงั้นก็เลยบ่น ใครจะไปมีไอเดียทำอะไรใหม่ๆ ได้ทุกวันกันเล่า

อืมม แต่ในเมื่อเค้าเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินให้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี่นะ เพราะงั้น……


“งั้นวันนี้ให้หนูทำอะไรให้มั้ยคะ? ”


“......หนูจะทำเหรอ? อืมม…...หนูมีไอเดียว่าจะทำอะไรแล้วเหรอจ๊ะ เด็กๆ พวกนั้นตะกละใช้ได้เลยนะ? ”


“บางทีนะคะ แต่ไม่น่าจะเป็นไรค่ะ”


เครื่องครัวที่อุตสาหะสร้างขึ้นมาจะได้เวลาเฉิดฉายแว้ว!


เอ๋? ไม่ใช่ว่าฉันควรจะเก็บสูตรอาหารไว้เป็นความลับหรอกเหรอ? แหม ก็คุณเจ้าสำนักเล่นลดแลกแจกแถมอะไรให้ตั้งเยอะแยะ…...เพราะงั้นถ้าจะเอาอะไรดีๆ ให้ซักอย่าง-สองอย่างก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้งนะ?


เพราะงั้น ฉันเลยตัดสินใจที่จะเอาเครื่องทำเส้นพาสต้าที่สร้างขึ้นมาเมื่อหลายวันก่อนออกมาใช้  คราวนี้จะทำสปาเก็ตตี้มีทซอสล่ะ แล้วก็ ช่วงนี้ได้ทานสลัดมะเขือเทศอยู่บ่อยๆ ตอนนี้เลยดูเหมือนว่าจะมีมะเขือเทศเหลืออยู่เพียบเลย เพราะงั้นเอามาใช้ก็คงไม่น่าจะเป็นไรเนอะ? แล้วก็มีเนื้อหมูเพียบเลยด้วย หรือจะเรียกให้ถูกก็เนื้อออร์ค แต่จะเนื้ออะไรก็ไม่ผิดหรอกเนอะ เอามาเป็นวัตถุดิบได้ก็พอ


Spaghetti Meat Sauce : https://park.ajinomoto.co.jp/recipe/card/705705/


อันดับแรก ก็วานให้คุณเมดทำเนื้อบด ถึงจะพูดแบบนั้นแต่นี่ก็ไม่ได้คิดจะใช้แรงงานคุณเมดให้มานั่งสับ นั่งบดเนื้อด้วยมีดทำครัวหรอกนะ เพราะทางนี้สร้างเครื่องบดเนื้อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพิ่งสร้างเสร็จไม่นานนี้เองด้วยนะ ส่วนวิธีใช้ก็แค่หมุนอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนงานที่ต้องทำซ้ำๆ อย่างการนวดแป้งโดว์ ก็ให้เป็นหน้าที่ของคุณแม่บ้านดูแลหอล่ะ ฉันล่ะเหรอ? ก็ใช้เจ้าเครื่องทำเส้นพาสต้าจากแป้งที่คุณแม่บ้านนวดเอาไว้ให้นี่แล้วไง จากนั้นก็ตั้งน้ำหม้อใหญ่ขึ้นต้ม เอาไว้ต้มเส้นน่ะ

ขณะที่รอนั่นให้เข้าที่ ฉันก็เริ่มต้นกระบวนการทำมีทซอส ในเมื่อมันต้องทำในปริมาณมาก ฉันเลยต้องสอนสูตรและวิธีทำให้กับทั้งสองคนเพื่อที่จะได้มาช่วยทำได้โดยไม่ต้องรอ

สูตรนี้จะอร่อยมาก ถ้าทานคู่กับสลัด และสูตรนี้ยังประยุกต์ แผลงไปได้อีกหลายรูปแบบ พอสองสาวได้ยินตามนั้นก็ตาเป็นประกายหลังจากที่ได้รับฟัง เห็นแบบนี้คงไปนั่งแปลงสูตรกันสนุกสนานทีหลังแหงแซะ?

หลังจากที่เริ่มลงมือทำซอสปริมาณมหาศาลแล้ว ฉันก็หันมาลงมือต้มเส้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลามากโขอยู่ เพราะปริมาณเส้นที่ต้องต้มมันเยอะบ้าบอคอแตกมากด้วยเช่นกัน หลังจากที่ต้มเส้นเสร็จ ใส่รอลงในถาด ก็ราดซอสลงไป

เสิร์ฟคู่กับสลัดผักสด แถมด้วยเดรสซิ่งทำเองอีกด้วย แต่นี่เก็บสูตรของเดรสซิ่งไว้เป็นความลับนะ แต่พอมองไปแล้วเห็นว่ามื้อนี้ไม่มีซุปแล้วมันเหงาๆ ยังไงชอบกล ทางนี้เลยลงมือต้มซุปหอมหัวใหญ่ให้ด้วย และแน่นอน นี่ก็เป็นความลับด้วยล่ะ อ่ะ แต่หนนี้ไม่ได้ใส่ไข่ลงไปในซุปหรอกนะ โอเค๊? ก็ในเมื่อไข่มันนับเป็นวัตถุดิบสำหรับอาหารระดับสูงสำหรับที่นี่นี่นะ


“อืมม นี่น่าจะดีพอแล้วล่ะเนอะ”


“......นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำอะไรแบบนี้เลยนะเนี่ย”


“คุณแม่บ้านคะ ซุปนี่อร่อยมากเลยค่ะ”


“ว่าแต่ เราจะกินเจ้านี่ยังไงจ๊ะเนี่ย? ”


“เราสามารถทานได้ด้วยส้อม แบบนี้ค่ะ…...”


ดูเหมือนว่าพาสต้าเส้นยาวแบบนี้จะไม่มีที่นี่นะ อย่างน้อยก็ในระแวกนี้ เพราะงั้นนี่เลยต้องสอนวิธีทานให้ดู……


ขณะที่ทุกคนมาถึงโรงอาหาร แล้วเริ่มลงมือทาน ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้น ทุกคนก้มลงรีบทานโดยไร้ซุ่มเสียง จากนั้นก็ขอเติมกันยกใหญ่ ไม่นาน ทุกคนก็อิ่มท้องกลม จนภาพที่เห็นตรงหน้าประหนึ่งฝูงสิงโตทะเลนอนเกยตื้นบนหาด 


“......โคตรอร่อยอ่ะ นี่มันเรียกว่าอะไรกันเนี่ย”


“มื้อเที่ยงวันนี้เด็กคนนี้ทำน่ะ ทั้งหมดนี่เลย”


“นี่เป็นครั้งแรกที่เคยได้กินอะไรแบบนี้เลยนะเนี่ย แถมยังอร่อยมากอีกตะหาก”


“ซุปนี่ก็รสจัดจ้านมาก เยี่ยมไปเลย! ”


“แล้วก็ เจ้าซอสบนสลัดนี่? มันอะไรกันน่ะ? เหมือนว่าสลัดวันนี้จะอร่อยกว่าปกติเพราะเจ้านี่เลยนะ”


หลังจากที่ทุกคนทานกันเสร็จ ก็ยังคงนั่งถกถึงอาหารมื้อนี้กันต่อ ไม่ยอมลุกไปไหน เลยทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดพื้นที่กันต่อได้


“เฮ้ย พวกแก! ขอบคุณก่อนจะนั่งโม้กันต่อสิฟะ! ตามความเป็นจริงแล้ว คุณหนูไม่ควรจะต้องลงมาทำอะไรแบบนี้ให้พวกแกกินเลยด้วยซ้ำนะว้อย!”


“ “ “ ขอบคุณสำหรับอาหารคร้าบ/ค่า! ” ” ”


อ่า ไม่เป็นไรค่ะ?1

[1 ตรงนี้เร็นตอบว่า 御粗末様でした (โอโซมาสึซามะเดชิตะ) แปลตรงตัวว่า “ขออภัยสำหรับอาหารชั้นเลว” ค่ะ เป็นคำพูดแบบถ่อมตัวของคนปรุงอาหาร ใช้ตอบเวลาที่ทุกคนทานเสร็จแล้วกล่าวขอบคุณ แต่ใส่ลงไปแบบนี้จะได้อ่านแล้วลื่นตามากกว่า]


แล้วก็ ปลื้มใจอยู่หรอกนะ แต่ถ้ากระโชกโฮกฮากกันแบบนั้นชั้นก็แอบกลัวอยู่หน่อยๆ เพราะงั้นจะเสียงดังก็เอาแต่พอดีดีกว่าเนอะ? ส่วนเจ้าลูกชายลำดับที่สองที่ปกติจะแผ่ออร่าหงุดหงิดตลอดกาล ก็กำลังก้มหัวขอบคุณพร้อมกับคนอื่นๆ อยู่ด้วย  อาหารอร่อยๆ นี่มันยอดมากเลยเนอะ 

หลังจากความวุ่นวายช่วงพักเที่ยง ตอนที่ทุกคนกำลังจะ แยกย้ายกลับไปทำงาน คุณแม่บ้านก็ส่งเสียงเรียก


“เจ้าเครื่องจักรที่ใช้ทำเส้น กับเจ้าเครื่องที่ใช่บดเนื้อนั่นน่ะ หนูจะว่าอะไรมั้ย ถ้าเราจะเอาไปตั้งขายน่ะ? ”


ด้วยเหตุผลที่ว่า อาหารที่ทำวันนี้ออกมาดีมาก คุ้มกับแรงที่ลงไป…...ช่วยย่นระยะเวลาทำได้มาก แถมว่าเจ้าเครื่องพวกนี้น่าจะเอาไปประยุกต์ทำอะไรได้อีกมาก เพราะงั้นถ้าเอาไปวางขายน่าจะไม่เป็นไรล่ะมั้ง?


“อืมม นั่นคงขึ้นอยู่กับราคาที่จะเจรจากันนะคะ?”


หลังจากนั้นฉันก็ถูกลากไปที่กิลด์การค้า ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกิลด์ ส่งพิมพ์เขียวของเจ้าเครื่องนี่ แล้วก็ยื่นขอสิทธิบัตร อื้ม ใช่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ต่อไปนี้ก็จะได้เงินเข้ามาเรื่อยๆ แล้วจากนั้น? รวยเรอะ?


…...เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ




TL note : เดี๋ยววววววววว


Comments

  1. Ren Say " I"m RICH!!!" //but i'm not batman

    ReplyDelete
  2. “หืม? ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ แค่คิดว่าเย็นนี้จะทำอะไรเป็นมื้อเที่ยงดีนะ?”

    ไม่ใช่วันนี้เหรอครับ


    แซวเล่นเฉยๆน้า

    ReplyDelete
  3. ไหนๆแล้ว ก็จด ปั้มน้ำคันโยก มือ ลูกสูบ ไอน้ำ ระบบเกียร์ กลไก เพลาขับเคลื่อน ไปด้วยเลย lol

    ReplyDelete
  4. มิเนสโตรเน่นี่ของอิตาลีซินะ และที่เอาซุยตันใส่ไปก็ถือว่าไม่แปลก เพราะมิเนสโตรเน่อิตาลีเองเพื่อเพิ่มความหนักท้องก็จะใส่พวกพาสต้า(คำเรียกรวมพวกแป้งสาลีนวดแล้ว)อย่างสปาเก็ตตี้ มักกะโรนี ราวิโอลี(เกี๊ยวอิตาลีมีทั้งต้ม ทอด)ลงไปตามชอบแทนการกินกับขนมปัง นางเอกใช้ซุยตันแบบญี่ปุ่นลงไปแทน
    - สูตรมิเนสโตรเน่ไม่มีตายตัวนัก เพราะแต่เดิมเป็นซุปจับฉ่ายที่เอาของเหลือๆมาทำรวมๆกันให้พวกแรงงาน และต่อมาก็กลายเป็นอาหารครอบครัว

    ReplyDelete

Post a Comment