071 - วันที่สอง

 



ก็ไม่รู้สินะ แต่ดูเหมือนฉันจะเกิดใหม่ที่ต่างโลกล่ะ
よくわからないけれど異世界に転生していたようです
แปล : Ayumin3310



ก้าวเข้าสู้วันที่สองของการฝึกตีเหล็กแล้วล่ะค่ะ

เริ่มต้นวันแต่เช้าตรู่ในสำนักตีเหล็กอาโนลด์แห่งนี้ล่ะ อ่ะ อาโนลด์เป็นชื่อของคุณคนแคระผมแดง ที่เป็นเจ้าสำนักตีเหล็กแห่งนี้ การที่มีชื่อเดียวกันนับเป็นข้อดีนะ เพราะมันก็ช่วยให้จำได้ง่ายล่ะ


เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเนอะ


พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็แต่งตัว ลงกลอนประตูแล้วออกจากห้องไป จากนั้นก็ลงไปที่โรงอาหาร และตามที่ตกลงกันไว้ ค่าอาหารรวมเข้าไปในค่าเช่าแล้ว เพราะงั้นก็ขอรับข้อเสนอเอาไว้แต่โดยดีล่ะนะ


จะหุงหาอาหารเองก็ได้แหละ แต่จะแยกตัวออกมาตั้งแต่วันแรกเลยมันก็ออกจะเกินไปหน่อยใช่มั้ยล่ะ? นอกจากนั้นก็ยังอยากรู้ ว่าอาหารที่ทำเลี้ยงคนหมู่มากในบ้านใหญ่ๆ มันเป็นแบบยังไง ซึ่งเอาจริงๆ นั่นก็เป็นเหตุผลหลักล่ะ


ตอนที่ลงมาถึงโรงอาหาร ดูเหมือนว่าอาหารยังตระเตรียมกันไม่เสร็จ คุณแม่บ้านดูแลหอกับคุณเมดแลดูกำลังงานล้นมือกันอยู่ จะว่าไปชั้นก็ว่างอยู่นี่นะ จะลงไปช่วยดีมั้ยหว่า?


“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ให้หนูช่วยนะคะ”


“อรุณสวัสดิ์! ดีเลยจ๊ะ ทางนี้กำลังยุ่งเลย”


ดีจัง ที่ไม่ทำหน้ายุ่งใส่ ไม่ตั้งแง่กับคนนอกอ่ะ โล่งใจชะมัด


นี่อาจจะดูเหมือนจุ้นจ้านสอดไม่เข้าเรื่อง และก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้อยู่ในฐานะของคนที่มีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น เพราะงั้นนี่เลยไม่ใช่สิ่งที่ไร้เหตุผลซะทีเดียวถ้าพวกเค้าจะมองฉันในแง่ร้ายน่ะนะ แถมนี่อาจจะยังดูเหมือนฉันกำลังพยายามประจบประแจงอยู่ซะอีก แต่ก็นะ การพยายามทำดีไม่ใช่เรื่องแย่ซักหน่อย

นอกจากนั้น ก็ยังไม่มีใครจะมาเฉดหัวฉันออกไปได้หรอกนะ ตราบใดที่อยู่ในฐานะคนเช่าน่ะ ขอใช้สิทธิ์ให้เต็มที่หน่อยเถอะ! 


เงยหน้ามองขึ้นมา พบเจอเข้ากับสองคนที่ฉันเข้ามาช่วยเตรียมอาหารอยู่
คุณแม่บ้านดูแลหอดูเหมือนจะอยู่ในช่วยวัยสามสิบกลางๆ ? ดูอ่อนวัยกว่าเจ้าสำนักมากพอดู เป็นคนที่ให้อารมณ์เหมือนคุณแม่ผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง พูดดังฟังชัด กระฉับกระเฉง ซึ่งดูเหมาะเจาะลงตัวกับภาพลักษณ์ของหอพักขนาดใหญ่แบบนี้พอดี

ส่วนคุณเมดน่าจะราวๆ วัยรุ่นปลายๆ ? แหม สกิลการเดาอายุชั้นมันก็ไม่ได้เป๊ะ ไม่ได้เชื่อถือได้ขนาดนั้นหรอกนะ…….

และดูเหมือนว่าคุณเมดจะพักอยู่ระแวกนี้ล่ะ


มื้อเช้า เป็นกองภูเขา ขนมปัง, เนื้อออร์คย่าง, สลัดผัก และซุปผัก ทานเนื้อเป็นมื้อเช้าเนี่ยนะ…...แล้วยังภูเขาขนมปัง ก็เข้าใจหรอกนะว่าที่นี่ประหนึ่งสนามรบไว้ปลดปล่อยความบ้าพลังน่ะ แต่นี่จะไม่หนักเกินไปหน่อยสำหรับมื้อเช้าเรอะ?


“นี่มันเยอะมากสำหรับมื้อเช้านะคะ”


“นั่นเพราะว่า ความพร้อมของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดยังไงล่ะจ๊ะ! ถ้าเหนื่อยหมดแรงก็ทำอะไรไม่ได้กันพอดีน่ะสิ! ”


“นั่นมันก็จริงนะ”


แต่ถ้ากินอิ่มเกินไปก็ทำให้ขยับตัวไม่ได้อยู่ดีไม่ใช่เร้อ?


“ว่าแต่ เธอนี่คล่องใช้ได้เลยนะเนี่ย วันนี้เสร็จเร็วกว่าปกติซะอีก! ”


“หนูเป็นนักผจญภัยน่ะค่ะ เลยต้องทำอาหารเองให้เป็น”


“เหห! นักผจญภัยงั้นเรอะ! แต่ตัวกระเปี๊ยกขนาดนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ น่ะเรอะ? ”


หลังจากที่เตรียมมื้อเช้าเสร็จ เจ้าสำนักก็เดินเข้ามาร่วมวง พูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่หนึ่ง จนบรรดาช่างคนอื่นทยอยเข้ามาในโรงอาหาร


“โอ้ คุณหนูตื่นเช้าดีนี่”


“ชื่อเร็นค่ะ อรุณสวัสดิ์”


“นั่นสินะ ชื่อเร็นนี่เอง อรุณสวัสดิ์”


หืมม? จำชื่อฉันกันไม่ได้หรอกเรอะ? เมื่อวานก็แนะนำตัวไปตอนรวมตัวกันแล้วนี่นา? 

จากนั้นช่างฝีมือคนอื่นก็ล้อมวงเข้ามา


ไล่ไปก็มี คุณเจ้าสำนัก คุณหัวหน้าช่างตีเหล็ก ช่างตีเหล็กชำนาญการสามคน ทั้งสามเก่งมากพอที่จะให้ทำงานเองได้อย่างอิสระ จากนั้นก็จะเป็นช่างตีเหล็กอีกสามคน ที่มีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้ช่วยสามคนข้างต้น ถัดมาเป็นช่างตีเหล็กฝึกหัดอีกสองคนที่เพิ่งได้รับอนุญาติให้ลงค้อนได้ คนเฝ้าหน้าร้านสองคน ช่างเย็บหนังที่มีหน้าที่รับผิดชอบฝักดาบและสายสะพายสองคน รวมคุณแม่บ้านดูแลหอ กับคุณเมดเข้าไปด้วยทั้งสิ้น 16 คน ที่ทำงานอยู่ในสำนักตีดาบแห่งนี้


หลังจากแนะนำตัวเบาๆกันอีกรอบ ช่วงเวลาแห่งเริ่มมื้อเช้ากันแล้ว พอเห็นทุกคนรุมเข้าไปแย่งอาหารกันชุลมุนก็อดที่จะแอบกลัวนิดๆ ไม่ได้ แต่ในเมื่อฉันกินได้ไม่เยอะอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องรีบเข้าไปตะลุมบอนกับเค้าก็ได้เนอะ พอทุกคนได้อาหารกันก็ลงมือทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แลดูเจริญอาหารกันดีแม้จะเป็นมื้อเช้าก็ตาม  ว่าแต่ เลิกมองมาทางนี้ซักทีเถอะ มันน่าอึดอัดน่ะ


“ว่าแต่ อาหารวันนี้อร่อยกว่าเมื่อวานใช่มั้ยฟะน่ะ? ”


“โอ้ ข้าก็คิดแบบเดียวกันเลย”


“เพราะเด็กคนนั้นช่วยด้วยน่ะสิ! คล่องมากเลยนะขอบอก แถมยังช่วยปรุงรสชาติด้วยนา ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะ!”


ช่วยหยุดอวยกันซักทีเถ๊อะแม่คุ๊ณ ยิ่งอวยยิ่งโดยมอง ยิ่งน่าอึดอัดเข้าไปใหญ่ ฉันเลยก้มหัวให้เบาๆ แล้วแกล้งหัวเราะแก้เก้อคลุมเครือๆ ออกไปเบาๆ  ความสามารถในการปัดทิศทางของความสนใจออกไปได้แบบเนียนๆ นี่แหละข้อดีของการที่เคยเป็นคนญี่ปุ่นมาก่อน


หลังจากที่มื้ออาหารเช้าจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง 

ตอนที่คิดว่าจะเข้าไปช่วยคุณแม่บ้านดูแลหอกับคุณเมดเก็บกวาด คุณแม่บ้านดูแลหอก็บอกให้ฉันไปทำงานเหล็กของตัวเอง นี่เลยตัดสินใจที่จะไปทางนั้นแทน

ด้วยคำบอกกล่าวที่ว่า ไม่ต้องกังวลหรอก ในเมื่อเธอจ่ายเงินค่าเช่า ซึ่งนั่นมันก็จริงอ่ะ แต่นี่มันแค่วันแรกเองนะ จะดูดายก็จะพลอยรู้สึกแปลกๆ นิดนึงน่ะ?


แต่ในเมื่อถูกบอกมาแบบนี้ ก็คงต้องเริ่มเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์แต่เช้าเลยล่ะสินะ?


พอไขปลดกลอนประตูด้วยกุญแจเข้าไป ลงกลอนไล่หลัง แล้วเริ่มจุดไฟเตาเผา 

ขณะที่รอให้อุณหภูมิในเตาเผาไต่ระดับอยู่นั้น ฉันก็เอาดาบที่ตีเสร็จเมื่อวานออกมาเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์ต่ออย่างพวก ลับคมดาบ, สร้างฝักแล้วสวมใบดาบใส่ลงไป


อื้ม นี่แหละดาบ


ผลงานที่เสร็จออกมาเป็นดาบสั้นมาตรฐาน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยาวเกินกว่าที่ฉันจะใช้ได้อยู่ดีล่ะนะ ตอนที่สร้างดาบขึ้นมาใช้เอง ถึงกับต้องลดความยาวของใบดาบลงอีกเลยล่ะ แต่ว่านะ นี่ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ใช้อะไรมากมายขนาดนั้นหรอก แต่ว่านะ ถ้าดาบทรงนี้ยาวขึ้นอีกเป็นดาบยาว จะเป็นดาบที่ใช้บนหลังม้าล่ะ ว่าแต่ ลองดาบในห้องนี้ไม่ไหวล่ะมั้งนะ?

นั่นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ดูท่าว่าอุณหภูมิในเตาเผาที่ทำงานรอจะได้ที่แล้ว เพราะงั้นก็จะเริ่มลงมือตีดาบใหม่ต่อเลยล่ะนะ






ฟู่วว~

ตอนนี้ฉันกำลังนั่งพักอยู่ในลานกว้างล่ะ ด้วยว่าวันนี้ตีดาบตลอดช่วงเช้า เพราะงั้นก็เป็นเรื่องปกติที่จะเหนื่อย

ในพื้นที่ลานกว้างของสำนัก มีต้นไม้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด บริเวณใกล้ๆ นี่มีม้านั่งให้พัก ส่วนตรงมุมโน้นมีบ่อน้ำไว้ตักน้ำมาใช้อยู่ อย่างพวก การลดความร้อนของดาบ หรือว่าทำอาหาร

จนถึงเมื่อตะกี้ มีช่างฝีมือเดินมาตักน้ำจากบ่อ มองมาทางฉันด้วยสายตาแปลกๆ แต่ไม่ยักกะเรียกทักทายแฮะ เอาเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าสนใจอยากคุยอะไรอยู่แล้วนี่นะ…...


โนรุนกับเบล กำลังนอนงีบอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ ฮืมม สงบดีจริงๆ

ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศ ขณะที่กำลังจิบน้ำเย็นที่สร้างขึ้นมาจากเวทย์ทนต์อยู่นั้น คุณเจ้าสำนักกับช่างฝีมือหลายคนก็เดินเข้ามาหา


“โอ้ คุณหนู พักเบรคอยู่เหรอ? ”


“เร็นต่างหากค่ะ และใช่ กำลังพักเบรคอยู่”


“เอ้อ นั่นสินะ เร็น นั่นสิ เห็นว่าเมื่อวานเธอตีดาบตลอดวัน เพราะงั้นก็เดาว่าตอนนี้น่าจะพอมีงานที่ใกล้เสร็จเร็วๆ นี้อยู่บ้างแล้วใช่มั้ย? ”


“ฉันตีดาบเสร็จไปบ้างแล้วล่ะค่ะ แต่มีที่ลับคมสมบูรณ์แล้วแค่เล่มเดียวค่ะ ใส่อยู่ในฝัก”


“......นั่นเร็วมากเลยนะ”


“เฮ้ยๆ แกน่ะ เพิ่งเริ่มตีเมื่อวาน กับวันนี้เช้าเองไม่ใช่เหรอ อย่าโกหกนะ! ”


“เฮ้ย เอ็ด หยุดนะ”


“แต่ว่า ลูกพี่ครับ! ”


“เค้าเป็นลูกค้านะเฟ้ย จำใส่กระโหลกไว้ด้วย”


“เฮ้ออ…...เจ้าลูกชายบ้านี่…...ขอโทษแทนด้วยนะคุณหนู ว่าแต่ขอดูงานที่ตีเสร็จแล้วนั่นหน่อยได้มั้ย?”


“ไม่เป็นไรค่ะ อ่ะนี่”


ฉันยื่นดาบเล่มที่เสร็จสมบูรณ์แล้วส่งให้กับคุณเจ้าสำนัก ดีที่ไม่ได้เก็บดาบไว้ใน【มิติกักเก็บ】เพราะหมายใจว่าจะเอาดาบออกมาลอง เลยหยิบติดมือออกมาด้วย

…...แหม ยังดีนะที่ดาบยังห้อยอยู่ที่เอวได้ไม่ลากกับพื้น แต่ก็ยังเฟลอยู่ดี เพราะแขนสั้นเกินกว่าที่จะชักดาบออกมาได้ ตามที่คิดไว้จริงๆ นั่นแหละ ถ้าจะใช้งานเองจริงๆ ต้องทำให้ใบดาบสั้นลงอีก


“นี่มันดีมากเลยนะ…...”


“......เพิ่งเริ่มตีเมื่อวาน แล้วเสร็จเช้าวันนี้ สุดยอด”


“นี่มัน…...ไม่จริงน่า…...”


โดนหาว่าโกหกมันน่าอึดอัดนา หรือถ้าจะให้มานั่งตีเหล็กแสดงให้ดูโต้งๆ ก็ยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่ ก็วิธีของชั้นมันปกติที่ไหน เล่นใช้เวทย์มนต์เข้ามาประกอบซะอีก

แต่เจ้าสองคนนี่เป็นพี่น้องกันเรอะ? เจ้าสำนักเรียกว่าลูกชายบ้า เพราะงั้นแล้วหมอนี่ก็เป็นลูกชายของเจ้าสำนัก? เจ้าคนน้องก็เฝ้าเพียรจ้องเขม็งมาแบบจริงจัง อยากบอกให้หยุดชะมัดเลยวุ้ย ส่วนคนที่ดูเหมือนพี่ชายก็มองเหมือนกัน แต่มองแบบสนใจในตัวฉัน บุคลิกแบบคนช่างสังเกตสินะ?


“ได้ยินเสียงเธอลงค้อนไม่หยุดจนถึงเมื่อสักครู่นี้เลยนะ เธอตีเสร็จไปกี่เล่มงั้นเหรอ”


“อืม ถ้าเฉพาะแค่ตัวใบดาบก็สองเล่มค่ะ”


จริงๆ แล้วฉันตีดาบได้หนึ่งเล่ม ทุกๆ สองชั่วโมงล่ะมั้งนะ? แต่เป็นดาบที่ยังไม่สมบูรณ์นะ แต่นี่มันเป็นการฝึกนี่นา


“เหอ สองงั้นเหรอ? ”


“ไม่ๆ นั่นมันเร็วเกินไปแล้ว”


“แกโกหกใช่มั้ย! นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก! ”


ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ~ จริงๆ แล้ว ถ้าไม่พึ่งเวทย์มนต์มันก็คงใช้เวลามากกว่านี้จริงๆ นั่นแหละ


“ตอนนี้กำลังรอให้เหล็กเย็นตัวลงอยู่ที่ห้องตีเหล็กนะคะ อยากดูมั้ย? ”

แหม ตอนโดนหาว่าโกหกนี่เคืองนะ


“......ถ้าอย่างนั้น ขอรบกวนด้วยนะ พวกแกน่ะ ไปดูให้เห็นกับตาซะ! ”


พอเป็นแบบนั้น คนมากมายเลยตามมาที่ห้องตีเหล็กของฉันกับเป็นขบวนเลยค่ะ พอไขกลอนประตูและเข้าไปด้านในแล้ว พวกเราก็เดินตรงไปใบดาบวางทิ้งไว้รอให้เย็นบนแท่นตีเหล็ก


“นี่ค่ะ”


“โฮ่…...นี่ก็ดูดีเหมือนกัน…...”


“......นี่มัน ยอดเยี่ยมมาก”


“โกหกน่า…...จะเป็นไปได้ยังไง…...”


“ตอนนี้เข้าใจรึยัง? ถ้าแกมีเวลามานั่งบ่น นั่งจับผิดคนอื่น เอาเวลาไปฝึกลงค้อนให้มากกว่านี้เถอะ เจ้าบ้า! ”


จะดีมากเลยถ้ารีบๆ ยอมแพ้ เลิกตีโพยตีพาย แล้วรับความจริงซะทีน่ะนะ?

บรรดาช่างฝีมือตอนนี้กำลังรุมดูใบดาบที่แท่น เข้าใจว่าติดลม แต่นี่มันใกล้มื้อเที่ยงแล้ว ไม่ใช่ว่าควรอพยพไปที่โรงอาการกันได้แล้วเหรอ? ฉันหิวแล้วนะ 


หลังมื้อเที่ยง ทุกคนก็แยกย้ายกันออกไปพักผ่อน รอเวลาเข้างานช่วงบ่าย บางคนก็พักผ่อนอยู่ในโรงอาหารนั่นแหละ ในขณะที่บางคนก็ออกไปงีบที่ลานกว้างด้านหลัง ส่วนฉันก็ใช้เวลาพูดคุยกับคนในสำนักแทน ในวงสนทนามีคนอยู่อีกสองคน หนึ่งในนั้นคือช่างเย็บหนังหญิงที่ชื่อว่าเดเลีย คนๆนี้เป็นคนช่างพูดช่างจา ส่วนอีกคนเป็นคนแก่ บุคลิกแบบคุณลุงสุดเท่ห์ ที่ฉันแทบไม่เคยเห็นเค้าพูดเลย เพราะงั้นคงเป็นคนประเภทสุขุมพูดน้อยล่ะมั้ง



“ว้าว หนูเร็นนี่ยอดไปเลยนะ! ตีของแบบนั้นออกมาได้ทั้งที่อายุยังแค่นี้เอง นี่เธอฝึกด้วยวิธีไหนกันเนี่ย? ”


“เอ่อ ความลับ...มั้งคะ?”


“อ่ะฮ่ะฮ่ะ นั่นสินะ! ”


เดเลียคือคนที่นั่งคุยด้วยบนโต๊ะกินข้าวเมื่อวานตอนค่ำล่ะ ยิ่งไปกว่านั้น เด็กฝึกงานคนที่จ้องแบบกินเลือดกินเนื้อเมื่อวาน ตอนนี้กลับมองด้วยสายตาที่แสดงความนับถือ เปลี่ยนไปแบบพลิกฝ่ามือ อื้ม โดนจ้องแบบนั้นก็ยังอึดอัดอยู่ดีล่ะ หยุดซักทีเถ๊อะ!


“ว่าแต่ ตอนที่เธอพักอยู่อยู่ที่ลานด้านหลังก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะมีอะไรผสมอยู่ในแก้วน้ำเธอด้วย นั่นน่ะ มันคืออะไรเหรอ? ”


“น้ำแข็งน่ะค่ะ ร่ายขึ้นมาจากเวทย์ธาตุน้ำแข็ง”


“ “ “เวทย์ธาตุน้ำแข็ง !? ” ” ”


เอ๋? ทำไมต้องตกอกตกใจกันขนาดนี้ล่ะ? 


“เดี๋ยวนะ เธอจะบอกว่าเธอใช้เวทย์มนต์ธาตุน้ำแข็งได้เหรอ!? ”


“ใช้ได้ถึงระดับไหน!? ”


“แล้วตอนนี้ยังใช้ได้อยู่มั้ย!? ”


“เอ่อ ช่วยใจเย็นกันหน่อยเถอะค่ะ”


ขนาดคุณแม่บ้านดูแลหอก็เป็นไปกับเค้าด้วย จะว่าไปแล้ว เวทย์ธาตุน้ำแข็งมันหายากขนาดนั้นเลยเหรอ?


หลังจากนั้น ผลก็ลงเอยด้วยการที่ฉันร่ายสร้างน้ำแข็งจนเต็มอ่าง แหม ก็เข้าเดือนหกมันร้อนแล้วนี่เนอะ แถมปีนี้ก็เหมือนจะร้อนกว่าปกติอีกด้วย เพราะมันเริ่มร้อนขึ้น มาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วล่ะ…...เพราะงั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจหรอกนะ แต่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ ทำไมมันแอบทำให้ชั้นรู้สึกว่า พรุ่งนี้ก็ทำน้ำแข็งแบบนี้อีกนะ เลยล่ะ?


“จะจ่ายเงินให้ด้วย เพราะงั้น พรุ่งนี้ช่วยทำแบบนี้อีกนะ! ตกลงนะ? นะ? ”


เอาจริงอ่ะ แต่ถ้าจ่ายให้ล่ะก็นะ…






Comments

  1. กลายเป็นตู้เย็นไปแล้ว

    ReplyDelete
  2. เปิดโรงงานขาย น้ำแข็งคงมีกินตลอดชาติ lol

    ReplyDelete
  3. เปิดร้านน้ำแข็งใสโลด

    ReplyDelete
  4. ป่วนอีกแล้วเธอ

    ReplyDelete

Post a Comment