069 - ติดสินบนในที่เกิดเหตุล่ะค่ะ



ก็ไม่รู้สินะ แต่ดูเหมือนฉันจะเกิดใหม่ที่ต่างโลกล่ะ
よくわからないけれど異世界に転生していたようです
แปล : Ayumin3310



   วันถัดมาหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง ตอนนี้พวกเราก็กำลังเดินอยู่ในย่านช่างฝีมือค่ะ


   ด้วยว่า วันนี้เราจะมาพบกับช่างตีเหล็กที่คุณอาริสะเคยรับปากไว้ ว่าจะพามาทำความรู้จักกันเมื่อหลายวันก่อน โดยมีคุณลิลลี่ร่วมทางมาด้วย 


      “บรรยากาศของย่านช่างฝีมือนี่ ต่างกับย่านการค้าบนถนนสายหลักมากเลยนะคะ”


      “นั่นสิ…...จะว่าไปแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยได้มาพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองบ่อยนักน่ะค่ะ…...”


      “ต่อให้ลิลลี่มาแถวนี้ ก็ขลุกอยู่แต่แค่แถวที่มีร้านที่ขายอุปกรณ์เวทย์มนต์อยู่ดีล่ะน้า~”


   พื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองหลวงนี้ มีโรงเรือนช่างฝีมืออยู่มากมายหลากหลายประเภท ด้วยว่ามันเป็นย่านช่างฝีมือด้วยล่ะนะ โดยทั่วไปแล้วโรงเรือนงานแถวนี้ก็จะมีตั้งแต่ ช่างตีเหล็ก, ช่างเย็บหนัง, อุปกรณ์เวทย์มนต์, โรงทอผ้า, ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า อะไรราวๆ นั้น

   บรรดาโรงเรือนช่างตีเหล็กทั้งหลายก็อยู่ในพื้นที่บริเวณนี้เหมือนกัน ได้ยินเสียงเหล็กที่ถูกตีดังมาไกลๆ เลยล่ะ แต่ว่านะ บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบจนน่าตกใจเลยล่ะ


      “โรงเรือนช่างตีเหล็กที่เรากำลังจะไปนี่ เป็นหนึ่งในสำนักที่ดีที่สุดที่นึงในเมืองหลวงเลยนะคะ~”


      “แต่เห็นว่าไม่ถูกกับสำนักที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกันใช่มั้ย? ”


      “พวกเค้าเคยอยู่ร่วมสำนักเดียวกันมาก่อนน่ะ แล้วก็แบ่งตัวกันออกมาทีหลัง~”


      “แต่สำนักเก่านั่นก็ไม่อยู่แล้วนี่นา หมายความว่าสำนักนั่นเป็นต้นทางงั้นเหรอ? ”


      “อะไรอย่างนั้นแหละ~ แต่ว่านะ ดูเหมือนว่าโรงเรือนฝั่งตรงข้ามที่ไม่ถูกกัน ช่วงนี้จะเอนเอียงไปทางอาวุธเวทย์มนต์แทนแล้วล่ะ~”


      “แต่ที่ๆ เราจะมุ่งหน้าไปกันตอนนี้ คือสำนักที่มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการตีดาบโดยตรงเลยใช่มั้ยคะ? ”


   ไม่ว่าที่ไหนๆก็เหมือนจะมีการเมืองอะไรแบบนี้แหละเนอะ…...ถึงนี่จะสนใจในสกิลที่เกี่ยวกับการสร้างอาวุธพลังเวทย์อยู่ก็เถอะ แต่ตอนนี้อยากเน้นไปที่สกิลตีดาบมากกว่า เพราะงั้นก็นับว่าโชคดีแล้วล่ะที่ได้เจอที่นี่ ที่เน้นไปที่สกิลการตีดาบ


      “ถึงแล้ว ที่นี่ล่ะ~ ”


      “โอ๊~ ”


  แอบสัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมของร้านเลยแฮะ กระจกที่หาได้ยากบนโลกใบนี้ถูกตั้งวางกั้นหน้าร้านไว้เป็นแผงดิสเพล ภายในมีวางบรรดาอาวุธและชุดเกราะมากมายเรียงรายอยู่ และพอมองเข้าไปด้านในร้านยังเห็นอีกเพียบเลย แต่ว่านะ ดาบที่โชว์อยู่ในตู้นี่ดูไม่น่าใช้งานได้แบบถนัดถนี่เท่าไหร่เลยแฮะ หรือเจ้านี่อาจจะเน้นไปที่ความสวยงามเพื่อใช้ในงานพิธีสินะ? ดูสวยดีนะ แต่ตัวใบดาบนี่คนละเรื่องกับรูปลักษณ์เลย เพราะดูเหมือนจะถูกตีขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อสู้แบบจริงจังได้ด้วยล่ะ ที่รู้ได้ทั้งหมดนั่นเพราะใช้【ประเมินค่า】น่ะนะ


      “งั้น เข้าไปกันเลยน้า~ สวัสดีตอนกลางวันค่า~ ”


   เสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านลั่นกริ้งกร๊างขณะที่เราเดินเข้าไป ก็พบเข้ากับหนุ่มน้อยพนักงานต้อนรับที่กำลังนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์หน้าร้าน โดยมีโถงทางเดินอยู่ด้านข้าง นำไปสู่โรงเรือนอยู่ด้านหลังอีกที


   นั่นเสียงดังมาจากค้อนที่กำลังตีเหล็กอยู่สินะ? ทางโน้นมีดาบห้อยโชว์เต็มไปหมดเลยด้วย ในห้องก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของเหล็กและน้ำมัน นี่แหละ โรงเรือนตีเหล็กของจริง! ความรู้สึกแบบนี้แหละ


      “อ่า คุณฮามิลตัน กับคุณหนูท่านนี้ วันนี้มีอะไรให้กระผมรับใช้หรือครับ? ”


      “เจ้าสำนักอยู่มั้ยคะ? มีเรื่องอยากจะปรึกษาน่ะค่ะ~”


      “เจ้าสำนักอยู่ด้านหลังน่ะครับ เดี๋ยวกระผมขอตัวเข้าไปเรียกให้ เชิญนั่งรอก่อนก็ได้นะครับ ”


   พวกเราจึงพากันนั่งลงรอ ขณะที่พนักงานเด็กหนุ่มเดินผ่านพวกเราเข้าไปด้านหลังร้าน 


      “ฉันคิดว่าเค้าคงไม่ออกมาทันทีหรอก~”


      “ที่นี่มีดาบเยอะแยะเลยเนอะคุณเร็น ”


      “ก็เป็นสำนักตีดาบนี่เนอะ”


   ไม่อยากแค่นั่งรอเฉยๆ เลยอ่ะ อยากลุกขึ้นไปดูดาบที่ห้อยแขวนอยู่ฆ่าเวลาอ่ะ 


      “ขอลุกขึ้นไปดูดาบที่ห้อยโชว์ไว้หน่อยได้มั้ยคะ?”


      “ได้สิ~”


   งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ พอคิดได้ตามนั้น ฉันก็เลิกฮู้ดออก เดินไปหยิบดาบที่วางอิงอยู่กับแท่นวางดาบที่อยู่ติดกับกำแพงเล่มหนึ่งขึ้นมา แล้วชักดาบออกมาพิจารณา อืมม……

   จากนั้นก็เก็บดาบเล่มนั้นลงไปแล้วหยิบดาบเล่มอื่นขึ้นมาดูต่อ ทำแบบนั้นซ้ำๆ กันอยู่หลายต่อหลายหน


      “ดาบพวกนั้นใช้วิธีตีขึ้นรูปสินะ? เป็นเหล็กตีขึ้นรูป ไม่ใช่เหล็กหล่อ”


      “ใช่แล้วล่ะ~ ถึงจะเป็นของที่ผลิตปริมาณมากแต่ทั้งหมดที่ผลิตในสำนักตีเหล็กนี้เป็นเหล็กที่ตีขึ้นรูปทั้งหมดเลย~”


      “แล้วเค้าจะได้กำไรเหรอเนี่ยอาริสะ?”


      “ของผลิตปริมาณมากของที่นี่เป็นที่ต้องการของตลาดมากจนน่าตกใจเลยล่ะ เพราะคุณภาพดีน่ะ~”


      “อย่างงั้นเหรอ? ”


      “เป็นอย่างงั้นแหละ~”


   …...เจ๋งไปเลยนะ ที่นี่อ่ะ หลังจากไล่ใช้ทั้ง【ประเมินค่า】และ【วิเคราะห์】คุณภาพของดาบเท่าที่เห็น ที่ไม่เลวเลย คุณภาพห่างชั้นกับร้านอาวุธอื่นๆที่เคยเข้าไปดูมาแบบหลายช่วงตัว ถ้าบอกว่าอาวุธที่นี่ ตีขึ้นรูปด้วยมือทั้งหมดก็หมายความว่าเจ้าสำนักคนที่ว่า ต้องค่อนข้างใส่ใจกับเรื่องนี้พอสมควรเลยนะสินะ?


      “......เจ๋งมากเลยนะเนี่ย”


      “ใช่มั้ยละค๊า~? ”


      “ฉันไม่เคยเจอร้านที่ของผลิตปริมาณมากมีคุณภาพโดยรวมดีขนาดนี้มาก่อนเลยนะคะ ทั้งโครงสร้างของตัวใบดาบเอง ทั้งคุณภาพของเนื้อเหล็ก รวมไปจนถึงวิธีการตีก็ดีมากด้วย ”


   แม้ว่าจะมีจุดให้ติอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็เถอะ แต่ถ้าคำนึงถึงวิทยาการโลหวิทยา กับระดับของเทคโนโลยีในการขึ้นรูปโลหะของโลกใบนี้แล้ว นี่มันถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียวล่ะ


      “โอ้โอ้ ตัวเล็กกระเปี๊ยกเดียวแต่พูดเอาๆ เลยนะ”


      “อ๊ะ เจ้าสำนัก~”


      “โอ้ ยัยเด็กที่มากับอาเบลบ่อยๆ นี่ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลยนี่นา ไปอยู่ไหนมาล่ะ? ”


      “หนูไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ที่ฮาลูร่าค่ะ~ ”


      “ไปไงมาไงถึงเป็นงั้นล่ะน่ะ? ”


      “ก็หนูอายุ 14 แล้ว ต้องออกไปหางานแล้วนี่คะ~”


      “แล้วไปเป็นสาวเสิร์ฟงั้นเหรอ ตั้งใจทำงานดีมั้ยเนี่ย? ”


   คนๆ นี้เองเหรอ เจ้าสำนัก? ดูแล้วอายุคงราวๆ 45 ล่ะมั้งนะ? ไม่สูงเท่าไหร่ แต่ก็ยังสูงกว่าชั้น ส่วนกล้ามเนื้อนั่นตรงข้ามกัน ดูล่ำสมคนที่ทำงานตีเหล็ก ผมตัดสั้นสีแดง-ดำ แต่เริ่มมีสีเทาขึ้นแซมบ้างนิดหน่อยแล้ว ผิวสีเข้มกร้านแดด หนวดเคราโกนเกลี้ยงดูสะอาดตาดี แววตาดูดื้อดึง คนแคระ…...สินะ? น่าจะนะ ดูสนิทสนมกับคุณอาริสะดีอยู่ แต่ว่านะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน…...


      “......คุณลิลลี่คะ คุณลิลลี่ก็อายุ 14 เหรอ?”


      “เอ๋? ฉันยังไม่ได้บอกเหรอคะ? วันเกิดชั้นเดือนหน้านี้แล้ว ปีนี้พวกเราทั้งคู่อายุ 14 ล่ะ”


      “ฉันหลงคิดว่าคุณลิลลี่อย่างน้อยก็ต้องมี 15 แล้วนะเนี่ย เพราะเห็นดูเป็นผู้ใหญ่เอามากเลย ”


      “เอ๋ นี่ฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ!? ”


   เปล่านะ พูดว่า เป็นผู้ใหญ่ ตะหาก ไม่ได้พูดว่าแก่ซักกะคำนาจา? ยิ่งไปกว่านั้นคือ เดือนหน้าเป็นเดือนเกิดแล้ว? จะให้อะไรเป็นของขวัญดีล่ะ? อืมม?


      “แล้วไงล่ะ มาหนนี้มีอะไรจะมาของั้นรึ? คำร้องขอตลกๆ อีกแล้วรึไง?  ”


      “ป่าวน้า~ ไ่ม่ได้ตลกซักหน่อย~? เพื่อนหนูเค้าอยากจะมาขอยืมโรงเรือนไว้ตีเหล็กน่ะ นี่เลยพามาลองดูว่าจะขอได้มั้ย? ”


      “นั่นล่ะตลก อยู่ดีๆ จะมีโรงตีเหล็กที่ไหนให้ยืมกันง่ายๆ ฟรีๆ ล่ะหะ? แล้วก็ที่ว่าเพื่อนน่ะ หรือว่าเป็นยัยเด็กตัวกระเปี๊ยกตรงนั้นกัน? ”


      “ใช่แล้วล่ะ~”


      “โอ้ ยัยคุณหนูตัวกระเปี๊ยกนั่นน่ะ! รู้ตัวมั้ยว่ากำลังขออะไรอยู่? สำนักตีเหล็กไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะรู้มั้ย? แล้วก็ จะถือค้อนด้วยร่างกายแบบนั้นน่ะเหรอ? ”


      “ค่ะ ดิฉันทราบดี แล้วก็คิดว่าใช้ค้อนไหวด้วยค่ะ”


      “คิดว่างั้นเรอะ…...แล้วก็ คิดจะเช่านานแค่ไหนกันล่ะ? คงไม่ใช่แค่วันเดียวหรือสองวันสินะ? มีเงินพอรึเปล่า?”


      “ดิฉันคิดว่าจะขอเช่าสักครึ่งปีค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ส่วนเรื่องเงินคิดว่าน่าจะมีมากพอ แต่ถ้าไม่พอขึ้นมาจริงๆ ดิฉันสามารถหามาได้อีกค่ะ”


      “......หา นี่อาริสะ จากที่คุณหนูนี่พูด จะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ยน่ะ?”


      “อืมม ถ้าแค่เรื่องเงินล่ะก็หนูคิดว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ~? แล้วก็ถ้าบอกว่าหามาเพิ่มได้ ก็หามาเพิ่มได้จริงๆ น่ะค่ะ~? นอกจากนั้น หนูก็ไม่คิดว่าเค้าจะเป็นคนประเภทที่พูดในสิ่งที่ทำไม่ได้ด้วยล่ะ~? ”


      “รับรองกันขนาดนั้นเลยเรอะ…...อืมม…...คุณหนู ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเช่าโรงตีเหล็กไปทำอะไร แต่ข้าให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่มีเงินแต่ไม่มีความสามารถเช่าง่ายๆ ไม่ได้หรอก ยัยหนูพอมีสิ่งที่ตีขึ้นมาด้วยตัวเอง ให้ข้าดูมั้ยล่ะ? ”


   ถ้าเป็นไอ้ที่ สร้าง ขึ้นมาเอง ก็คงเป็นดาบสั้นที่ห้อยอยู่ที่เอวตอนนี้ล่ะมั้ง? ควรเอามีดซัดให้ดูด้วยมั้ยเนี่ย? แต่ว่าเจ้ามีดพวกนี้เป็นแค่ของที่ซื้อมา แล้วเอามาปรับปรุงเสริมพลังเข้าไปเฉยๆ นี่นะ

   ฉันปลดดาบสั้นที่ติดอยู่กับเข็มขัดแล้วส่งให้


      “ดาบเล่มนี้ แล้วก็อันนี้ด้วยค่ะ”


      “ฮืมม งั้นขอข้าดูหน่อย? ”


   เจ้าสำนักชักดาบสั้นออกจากฝัก หลังจากใช้เวลาเพ่งพินิจใบดาบอยู่ครู่หนึ่ง บรรยากาศรอบๆก็ค่อยๆตรึงเครียด อารมณ์ของคนแคระผมแดงก็ค่อยๆ เคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?


      “จะว่าอะไรมั้ยถ้าข้าจะขอ…?”


   แท่งเหล็ก? เจ้าสำนักหยิบแท่งเหล็กขนาดเล็กที่มีปลายเป็นตุ้มเหล็กทรงกลมขึ้นมายื่นให้ดู อาา เจ้านี่คงเป็นอะไรซักอย่างที่ใช้เคาะเพื่อฟังเสียงแล้วจำแนกวัสดุในเนื้อโลหะจากเสียงที่ได้ยินสินะ


      “เชิญเลยค่ะ”


   คนแคระผมแดงเคาะแท่งเหล็กกับใบดาบ แล้วทำหน้่านิ่ว จากนั้นก็ทำแบบเดียวกันกับมีดซัดด้วย


      “......เจ้าพวกนี้น่ะ คุณหนูเป็นคนตีเองอย่างงั้นเหรอ? ”


      “ใช่ค่ะ”


      “ฮืมม…...ใช้วิธีไหนในการตี…..ไม่สิ...ฮืมม….”

   

    อ่า~ ก็คงเป็นเพราะใช้ทามะฮากาเนะ1 ที่หลอมขึ้นมาจากเหล็กทรายล่ะมั้ย เลยทำให้มันดูต่างจากเหล็กดัชนีคาร์บอนต่ำ2ธรรมดาที่ใช้กันทั่วไปที่นี่ แถมยังใช้วิธีขึ้นรูปโลหะด้วยเวทย์มนต์เสียอีก เลยทำให้อนูเนื้อเหล็กจัดเรียงกันได้เป็นระเบียบขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเลยน่าจะไม่สามารถดูวิธีตีเหล็กออกสินะ

[1玉鋼(ทามะฮากาเนะ) : เป็นเหล็กดัชนีคาร์บอนต่ำของญี่ปุ่น โดยมากมักนำไปใช้ตีมีดหรือคาตาน่า]

[2鍛鉄 (wrought iron) : จริงๆ เหล็กนี่ไม่มีชื่อเฉพาะภาษาไทยค่ะ เป็นเหล็กโบราณที่วิธีการถลุงยังไม่พัฒนามากนัก เป็นเหล็กดัชนีคาร์บอนต่ำชนิดหนึ่ง แต่คุณภาพยังด้อยกว่าเหล็กกล้า(Steel) และทามะฮากาเนะตอนแปลเลยใช้คำว่าเหล็กดัชนีคาร์บอนต่ำแทน]


Tamahagane : https://honeycom.co.jp/hirotaka-takeuchi/archives/783/


      “อยากลองดูเจ้านี่ด้วยมั้ยล่ะคะ? ”


   ฉันแกล้งทำเป็นควักอะไรซักอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับเจ้าสำนัก สิ่งนั้นคือก้อนโลหะทามะฮากาเนะที่อยู่ใน【มิติกักเก็บ】นั่นเอง


      “......จะดีเหรอ? ”


      “ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”


   คนแคระรับไป พร้อมกับเคาะดู เสียงก๊องแก๊ง ดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าครุ่นคิด


      “......เจ้าก้อนนี้เธอก็หลอมเองด้วยงั้นเหรอคุณหนู? เจ้านี่น่ะ ดูเหมือนโลหะ แต่ว่า…...มันมีอะไรที่ต่างออกไป…...”


      “เจ้านี่ทำมาจากเหล็กทรายค่ะ ดิฉันเก็บจากริมแม่น้ำ แล้วทำการหลอมมันขึ้นมา”


   แต่ด้วยเวทย์มนต์น่ะนะ


      “เหล็กทราย เหล็กทราย…...ถ้าข้าจำไม่ผิด วิธีการหลอมเจ้านี่มันเป็นวิธีที่ใช้กันในสมัยโบราณ อย่างนี้นี่เอง…...เพราะงั้น…...แต่ว่าส่วนผสมมัน…...”


   ส่วนผสม? คาร์บอนที่ผสมอยู่ในเนื้อเหล็กสินะ?


      “......ฮืมม ตกลง ถ้าเธอสามารถสร้างเจ้าพวกนี้ขึ้นมาได้ นับว่ามีความสามารถ ข้าจะให้ยืมโรงตีเหล็กนะ”


      “ได้หรือคะ? ”


      “ได้สิ มีคนที่มีความสามารถขนาดนี้มาอยู่ จะได้เป็นแรงบรรดาลใจให้เจ้าพวกเด็กๆ มันด้วย แล้วก็ยังมีโรงเรือนตีว่างอยู่ เธอใช้มันได้เต็มที่เลยนะ”


      “ขอบคุณมากค่ะ! ”


   ได้แล้ว! หาโรงเรือนไว้ทำงานตีเหล็กได้แล้วล่ะ! ปกติแล้ว นี่มันไม่ใช่ว่าเดินดุ่มๆ สุ่มๆ เข้าไปแล้วจะขอยืมได้นะเนี่ย ดังนั้นแล้ว…...


      “นี่อาจจะไม่ได้มีค่าอะไร แต่เพื่อเป็นการขอบคุณ ถ้าคุณชอบ จะก็เก็บไว้เลยก็ได้นะคะ”


   หลังจากจบประโยค ฉันก็ยืนก้อนเหล็กทามะฮากาเนะที่ดูกันอยู่เมื่อครู่นี้ให้ ถ้าทำให้คนๆ นี้ชอบใจได้ อะไรๆ หลายๆ อย่างก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะนะ


      “......แน่ใจเรอะ? ไม่ใช่ว่านี่มันเป็นความลับของเจ้าเหรอ? ”


      “ดิฉันไม่กังวลหรอกค่ะ คุณถึงขนาดให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาขอยืมใช้โรงเรือนตีเหล็กเลยนะคะ”


   คนๆ นี้ดูมีฝีมือมาก ซึ่งถ้าเขามีตัวอย่างอยู่ในมือ แล้วคิดจะลงมือทำของที่คล้ายกันขึ้นมาก็ไม่น่าใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ฉันไม่คิดว่าจะทำให้เทคนิคโดยรวมก้าวข้ามกระโดดอะไรไปไกลได้ขนาดนั้น เพราะงั้น ก็ไม่น่าจะเป็นไรหรอกมั้งนะ?


      “......เข้าใจแล้ว ข้าจะยินดีรับไว้ แต่ว่า นั่นสินะ…...เธอว่าอยากจะขอเช่าอย่างน้อยครึ่งปีใช่มั้ย งั้น 1 เหรียญทองเล็ก ต่อวัน ก็น่าจะพอ ข้าจะจัดการเรื่องเชื้อเพลิงสำหรับการตีเหล็กเอาไว้ให้ด้วย ”


      “นั่นโอเคแล้วจริงๆ เหรอคะ? ”


   แค่อนุญาติให้คนแปลกหน้ามาขอเช่าใช้ที่ก็น่าปลื้มใจจะแย่อยู่แล้ว ยังจะให้เช่าในราคาถูกจนน่าตกใจซะอีก ยอมรับตรงๆ เลยว่าใจจริงเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ว่าน่าจะแพงกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าค่าเช่าถูกยังไม่พอ นี่ยังมีแถมค่าเชื้อเพลิงให้อีก ข้อเสนอเหลือเชื่อเกินไปแล้วล่ะ


      “ไม่ต้องคิดมากเลย เมื่อเทียบกันแล้ว แค่เจ้าก้อนเหล็กนี่ก้อนเดียวที่ให้มา ก็สามารถสอนอะไรให้กับข้าได้มากมายแล้ว ถึงจะใช้เวลาหน่อยแต่ข้าก็จะค่อยๆ ศึกษามัน แล้วถ้าสร้างสิ่งที่คล้ายๆ กันขึ้นมาได้ ก็จะทำให้สำนักตีเหล็กแห่งนี้ก็จะรุ่งเรืองขึ้นอีก ในระยะยาวแล้วข้าต่างหากที่จะได้ประโยชน์มากกว่า…...เมื่อเอาไปเทียบกับค่าเช่าถูกแล้วไม่เท่าไหร่หรอกนะ”


   อ่า- นั่นสินะ…...ไม่ทันคิดถึงข้อนั้นเลยล่ะ มุงืออ


      “ว่าแต่ว่า…...คุณหนูคิดว่าจะพักที่ไหนล่ะ? ”


      “ฉันคิดว่าจะพักอยู่ตามโรงแรมน่ะค่ะ”


   อย่าที่คิดไว้ก่อนหน้าล่ะนะ จะเอาแต่พึ่งพาครอบครัวคุณลิลลี่หลังจากนี้ก็คงไม่ดี เพราะเดี๋ยวเจ้าตัวก็จะกลับไปที่ฮาลูร่าแล้ว แต่ถึงคุณแม่ของคุณลิลลี่จะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ แต่แอบรู้สึกว่าถ้าอยู่นานๆ ไปเราอาจจะเสร็จคุณแม่มิเรียมเข้าให้1 เพราะงั้นจึงปฏิเสธไป

[1 ตรงนี้เร็นพูดว่า ถ้าอยู่นานไปอาจจะโดนถมคูเมือง(外堀を埋め) มีความหมายว่าโดนล้อมเมืองแบบไร้ทางหนี]


      “ถ้าอย่างนั้น เราก็มีห้องพักคนงานอยู่นะ เธอจะมาใช้งานก็ได้ แล้วยังมีอาหารให้อีกถ้าต้องการ ส่วนห้องอาบน้ำก็แยกชาย - หญิง เพราะงั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”


      “เอะ...นั่นน่ะ- ”


      “ไม่ต้องเหนียมหรอก! ตกลงตามนั้นนะ! เอาล่ะ จะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ? วันนี้? พรุ่งนี้? ”


   โอ๊ยยー กดดันเก่ง มีทางเลือกให้ปฏิเสธมั้ยฟะเนี่ย? มุววววว


      “เอาล่ะ งั้นดิฉันก็ขอรับข้อเสนอเรื่องห้องพักเอาไว้นะคะ ส่วนเรื่องจะเข้าพักเมื่อไหร่เนี่ย…...เอาเป็นพรุ่งนี้สะดวกมั้ยคะ? ”


      “ได้ พรุ่งนี้เลยนะ! ข้าจะให้คนทำความสะอาดให้เอี่ยมรอเอาไว้เลย เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเลย! ”


   มีเรื่องให้ต้องกังวลน้อยลงไปอีกเรื่องก็นับว่าเป็นเรื่องดีสินะ? มีกระทั่งที่ให้โนรุนกับเบลอยู่ได้ด้วย นั่นช่วยได้มากเลยล่ะ


   หลังจากนั้น พวกเราสามคนก็ออกจากสำนักตีดาบและตรงกลับบ้านของคุณลิลลี่กัน

   ด้วยว่า พวกคุณลิลลี่จะเดินทางกลับฮารูล่าด้วยรถม้าในวันพรุ่งนี้แล้ว เพราะงั้นฉันเลยเข้าครัว ลงมือทำมื้อเย็นเลี้ยงทุกคน โดยชวนคุณอาริสะมาร่วมโต๊ะด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูแลมาจนถึงตอนนี้ พร้อมกับถือว่าเป็นการให้ของขวัญวันเกิดกับคุณลิลลี่ล่วงหน้าไปในตัว


   แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรพิศดารหรอกนะ แค่ข้าวผัดไข่, กุ้งผัดซอสพริก, ซุปหอมใหญ่, สลัดผักสดราดเดรสซิ่ง ซึ่งหมดนั่นคือสิ่งที่ฉันเลยทำให้สองสาวเคยกินมาก่อนหน้านี้แล้วระหว่างที่เดินทางมาเมืองหลวง สาเหตุที่ไม่ทำอะไรใหม่ๆ ก็เพราะนี่เริ่มจะสำนึกตัว ถึงความโกลาหลตอนที่ฉันนำเสนออาหารจานใหม่แล้วน่ะ

   อย่างไรก็ตาม คุณพ่อ - คุณแม่ของคุณลิลลี่ต่างหากที่ต้องสำนึกน่ะ

 

      “มาเป็นลูกบ้านนี้มั้ยจ๊ะ? ดีมั้ย? ดีมั้ยจ๊ะ!? ”


   ม๊ายยยย พอทีเถ๊อะ





Comments

  1. ส่วนraw web novel คนแต่งลงเพิ่มอีกหน่อยแล้วน้า

    ReplyDelete
  2. สาระขนาดนี้ แปลไปด้วยได้ความรู้ไปด้วย ล้ำลึกๆ เลื่อมใสๆ.......
    ใช้เวทย์มนต์รังสรรค์........... ปั้ดโถ่วววพังหมด อ่ะๆสร้างมาแล้วก็สร้าง

    ReplyDelete

Post a Comment