061 - ประสบการณ์ครั้งแรกอันแสนตื่นเต้นล่ะค่ะ
ช่วงบ่ายของวันที่สาม หลังจากที่พวกเราเดินทางออกจากหัวเมือง มุ่งหน้าเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง อากาศก็แจ่มใสเสียจนชวนให้แอบงีบหลับกลางวัน ทุกอย่างช่างแสนเป็นใจ ยกเว้นเสียแต่ว่า ดันมีศพกองเกลื่อนไปทั่วอยู่ตรงหน้าแบบนี้น่ะสิ
เหตุผลที่ว่าทำไมเป็นแบบนี้ก็คือ มีโจรดักปล้นแต่พวกเราสู้กลับน่ะ และใช่ค่ะ ฉัน...ฆ่าคนเป็นครั้งแรก
เอาจริงก็เตรียมใจมานานแล้วล่ะนะ ว่าต้องมีเจอประสบการณ์แบบนี้เข้าซักวัน และ วันนั้น ที่คิดไว้ก็มาถึงแล้ว แต่ถึงจะเตรียมใจว่ามือจะต้องเปื้อนเลือดไว้ขนาดไหนก็เถอะ มันก็ยังเครียดอยู่ดีล่ะค่ะ
นี่นะ มันไม่เหมือนกับอะไรที่คิดไว้เลย คือมันก็ไม่ได้ถึงขนาดที่จะเอามานั่งเป็นอารมณ์ขนาดนั้นหรอก หรือจะให้ถูกก็คือตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย…...จะอธิบายยังไงดีนะ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้? ใช่มั้ยนะ? อะไรยังไงก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันซับซ้อนจนอธิบายไม่ถูกแล้ว
ตอนที่เห็นศพคนตาย สมัยที่รถเทียมม้าตกจากหน้าผานั่นขวัญเสียแทบแย่ เพราะ ความเป็นคนญี่ปุ่น ที่เพิ่งระลึกขึ้นมาได้นั่นยังเข้มข้นอยู่ แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เพราะศพพวกนี้ตายด้วยน้ำมือของฉันเอง ซึ่งมันน่ากลัวตรงที่ ฉันกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย น่ะสิ…...อืม ก่อนอื่นต้องใจเย็นลงกว่านี้สินะ
ว่าแต่ นี่เพิ่ง เปิดซิงความเป็นหนุ่มน้อยฆาตรกร1 ไปสดๆ ร้อนๆ เลยสินะ? ไม่สิ ตอนนี้ใช้คำนี้คงไม่ได้ เพราะตอนนี้เป็นเด็กผู้หญิงแล้ว ต้องเป็น เปิดซิงความเป็นสาวน้อยฆาตรกร2 ไปแล้วมากกว่า? ง่ะ นี่มัน ประสบการณ์ครั้งแรก3 เลยนี่นะ! เดี๋ยวๆ นั่นไม่น่าใช่ประเด็น มาเล่นมุขอะไรแบบนั้นตอนนี้กันล่ะ โอเค หายใจเข้า...หายใจออก...ใจเย็น ๆ...
[1 殺人童貞切っ : 殺人 = ฆาตรกร, 童貞 = ผู้ชายที่ยังซิง, 切っ = ตัด/ฟัน/ทำให้อะไรซักอย่างขาด]
[2 殺人処女 : 殺人 = ฆาตรกร, 処女 = สาวน้อย]
[3 初体験 : ประสบการณ์ครั้งแรก(กิจกรรมอะไรก็ได้)/ประสบการณ์ทางเพศครั้งแรก (ย่อหน้านี้ เล่นมุขคำสองแง่สองง่ามเพียบเลยค่ะ) ]
อืมม ถึงจะเป็นเพราะระลึกความทรงจำเก่าๆ จากชาติที่แล้วมาได้ก็เถอะ แต่ก็มีสามัญสำนึกพื้นฐานที่สั่งสมมา 10 ปีที่อาศัยอยู่ในชาตินี้อยู่ เพราะงั้นการฆ่าโจรที่จู่โจมเข้ามาเพื่อป้องกันตัวนั่นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าจะบอกว่าความคิดแบบนี้เป็น เรื่องปกติ ก็คงไม่เป็นไรใช่มั้ยนะ?
นอกจากนั้น 『ฉัน』น่ะ เกลียดการถูกบังคับขู่เข็ญที่สุด เพราะงั้น นั่นอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ไม่รู้สึกผิด แม้ว่าจะฆ่าคนไปก็ตาม แต่ก็เป็นคนที่เข้ามาทำร้ายก่อน...สินะ? งือ ไม่เข้าใจตัวเองเอาซะเลย
แต่นะ ถ้าปกป้องชีวิตตัวเองไม่ได้ ก็รอดอยู่บนโลกนี้ไม่ได้หรอก แล้วก็การที่ไม่รู้สึกอะไรเลยแบบนี้ก็ยังดีกว่ามานั่งรู้สึกผิดจนเกินเหตุล่ะมั้งนะー?
มุงืออออ แต่ไม่ว่าจะมอง จะคิดจากมุมไหน มันก็อดรู้สึกว่ามันพิลึกไม่ได้ง่ะ…..
ถ้าจะย้อนเล่าทั้งหมดถึงรายละเอียดที่โดนโจรดักปล้นแล้วก็มานั่งอึนอยู่นี่ล่ะก็ เรื่องมันเกิดตอนที่รถเทียมม้าของพวกเราเดินทางได้สักพักหนึ่ง จนถึงถนนช่วงที่มีป่าขนาบสองข้างทาง
ขบวนรถของพวกเราต้องหยุดลงกลางป่า เพราะถนนถูกปิดด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางทางอยู่
และในระหว่างที่ฉันกำลังลงจากรถเพื่อมาจัดการเคลียส์ที่ทางนั้นเอง กลุ่มโจรที่ดักซุ่มรออยู่แล้ว ก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ทั้งสองฝั่ง
ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้จะมากัน 6 คน แต่สกิล【ตรวจจับ】ของฉันก็มีปฏิกิริยา ตรวจเจอพวกที่ดักซุ่มอยู่ในป่า ฝั่งขวาและซ้ายไม่ไกล อีกจุดละ 1 คน ท่าทางคงเป็นพวกใช้ธนู พลซุ่มยิงสินะ?
แล้วสิ่งที่เจ้าพวกนี้พ่นออกมาก็คือ มอบของมีค่าออกมาให้หมด รถม้าก็ด้วย ไม่สิ ดูดีๆ แล้วแกเป็นผู้หญิงไม่ใช่รึไง งั้นก็จะเอาแกไปด้วย ใช่...บทพูดลอกเทมเพลทของโจรตามสูตรเป๊ะเลยล่ะคะ
แน่นอนว่าใครจะไปยอม ต้องต่อสู้ขัดขืนแหงๆ อยู่แล้ว แต่จะให้พูดจริงๆ นี่ไม่ใช่การต่อสู้กัน แต่เป็นการฆ่ากันฝ่ายเดียวมากกว่า
เริ่มด้วย คุณลิลลี่ร่าย【บาเรียเวทย์มนต์1】ซึ่งเป็นไพ่ตายที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้า ล้อมรอบรถเทียมม้าเอาไว้ ทำให้ไม่มีใครหน้าไหนทำอันตรายอะไรพวกเราที่อยู่ในข่ายม่านบาเรียได้
[1 結界魔法]
ต่อมาก็คือ โนรุนและเบลกระโดดโผแยกกันเข้าป่าไปทั้งซ้ายและขวา พุ่งเข้าไปจัดการพลธนูที่ดักซุ่มอยู่ นอกจากนั้นก็ยังทำให้ขบวนโจรที่ล้อมหน้าล้อมหลังแตกฮือ
จากนั้นคุณอาริสะก็กระโดดออกมาจากข่ายบาเรีย ลงดาบใส่พวกโจรที่ยังตั้งตัวไม่ติดเพราะล้มจากโนรุนและเบล ส่วนคุณลิลลี่ก็ยิงเวทย์มนต์โจมตีจากภายในบาเรีย ส่วนฉันที่ถูกบอกให้หลบ ก็ถอยออกมา ก้มตัวต่ำหมอบหลบ
ใช่แล้ว ถูกปฏิบัติเหมือนเด็กชัดๆ เลยล่ะค่ะ...ไม่สิ ก็ยังเด็กอยู่จริงๆ นั่นแหละ
จากนั้นก็คือการทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวอย่างที่ว่า คุณอาริสะฟันโจรล้มลงไปอีกหนึ่งคน ในขณะที่คุณลิลลี่ก็ยิงเวทย์มนต์ใส่ไปเรื่อยๆ และดูเหมือนหัวหน้าโจรจะโผล่ออกมาแล้ว และกำลังจะเข้าประมือกับคุณอาริสะ
อืมมม อาจจะเพราะว่าไม่ได้ลงไปสู้ประจันหน้าตรงๆ ล่ะมั้ง มีแต่ลอบโจมตีทั้งนั้นเลย ฮืมมม
ภาระทางใจ ทำให้หนักใจงั้นเหรอ….หรือว่า? เพราะเจ้าสกิล【ต่อต้านการโจมตีทางจิตใจ】นั่น?
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ คุณเร็น? ”
“อ่า ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ว่านี่เป็นหนแรกที่ฆ่าใครสักคนตายน่ะ เลยแบบว่า…...”
“เรื่องนั้นเองเหรอคะ...แต่ว่านะ ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ...นะ? เพราะคนพวกนั้นน่ะ เป็นอาชญากร มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่สู้กลับ เราต่างหากที่จะเป็นฝ่ายถูกฆ่าเสียเอง”
“ใช่แล้วค่ะ~ การป้องกันตัวเองเป็นเรื่องปกตินี่นา~ ”
“อ่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก คือฉันไม่ได้คิดมาก อย่างที่คาดว่าควรจะเป็นน่ะー...เลยไม่รู้ว่า ทั่วไปแล้วเป็นแบบนี้กันมั้ยนะ? ที่เป็นอยู่นี่มันปกติมนุษย์รึเปล่า? ”
“อย่างนี้นี่เอง ครั้งแรกของฉัน จิตใจก็สงบจนน่าตกใจแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
“ส่วนกรณีฉัน ตอนนั้นไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องนั้นเลยซักกะนิดล่ะมั้งนะ~? แล้วก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นอีกเลยนับแต่นั้นล่ะ~ ”
อย่างนี้นี่เองสิน้าー ไม่ได้กังวลไปเองสินะ แต่ว่าเอาไว้วันหลังเช็คเจ้าสกิลต้องสงสัยอันนั้นไว้สักหน่อยก็ดี
บทสนทนาดำเนินไปอย่างนั้น จนคุณแม่โนรุนและลูกสาวเดินเตาะแตะออกมาจากป่า พร้อมกับลากศพของพลธนูผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองออกมาด้วย
“ว่าแต่ เราจะจัดการกับศพยังไงดีล่ะ? ”
“ถ้าเราสามารถเอาศพเจ้าพวกนี้ไปที่ศาลากลางของเมืองได้ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับไปจัดการให้ล่ะ แต่ว่ากันตรงๆ นะ จะให้เอาศพเจ้าพวกนี้ใส่รถม้าไปด้วยมันก็ออกจะ…... ”
“นั่นสินะคะ…….”
เอาจริงๆ ถึงแม้ว่าทางนี้จะยัดลงไปใน【มิติกักเก็บ】ได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่อยากจะทำเหมือนกัน
“ปล่อยทิ้งไว้ข้างทางก็ไม่เป็นไรมั้งคะ ถึงยังไงก็เป็นศพอาชญากร ใครเห็นก็คงไม่ว่าอะไร ”
“......มันจะไม่เน่าส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่วเหรอคะ? ”
“พอถึงเมืองถัดไปค่อยบอกพวกคนเฝ้าประตูเมืองก็ได้มั้ง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการกันเอง แถมเผื่อมีรางวัลนำจับให้ ก็ค่อยไปเอาทีหลังค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง งั้นก็เอาตามนั้นแหละเนอะ”
หลังจากที่ฉันย้ายเอาศพพวกโจรไปกองๆ ไว้ข้างทาง...จริงๆ คือโนรุนเป็นคนทำน่ะ ฉันก็ออกเดินเก็บรวบรวมมีดซัด และใช้【มิติกักเก็บ】เก็บต้นไม้ที่ล้มขวางทางเข้าไป จะว่าไปแล้วเก็บซากต้นไม้นี่ไว้ก็ดีนะ เผื่อเอาไว้ใช้เป็นฟืนได้ด้วย
“ว่าแต่ว่า คุณเร็นใช้การโจมตีแบบไหนกันคะนั่น? มีดถึงได้ปักลึกเข้าไปในหัวได้ขนาดนั้น…...”
“เอิ่มม...ความลับล่ะมั้ง? แต่ฉันว่า เขตแดนบาเรียของคุณลิลลี่ยังน่าประทับใจมากกว่าอีกนะคะ”
เวทย์มนต์บาเรียนี่ ดูแล้วสะดวกดี แล้วก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้มากมายเลยล่ะ แต่เห็นว่าเจ้าเวทย์มนต์บทนี้ หาคนใช้ได้ยาก เนื่องจากความละเอียดอ่อนของมัน จนแม้แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ได้มั้ย แต่ก็นับเป็นโชคดีที่มีสกิล【วิเคราะห์】ทำให้จับการไหลเวียนและรูปแบบการเรียงตัวของพลังเวทย์มนต์ ที่ไหลเวียนตอนที่คุณลิลลี่ร่ายเอาไว้ได้ เพราะงั้น…...เอาไว้ลองร่ายเองทีหลังดูดีกว่า
“ก็นั่นเป็นหนึ่งในข้อดีไม่กี่อย่างของลิลลี่นี่นา~”
“อาริสะ! ชั้นโกรธแล้วนะ! ”
“เอ๋~? ”
“แหม แต่เวทย์มนต์โจมตีที่คุณลิลลี่ใช้ก็น่าทึ่งเหมือนกันนะคะ ”
อื้ม บรรดาเวทย์มนต์ตะกี้ก็น่าทึ่งตามที่พูดออกไปจริงๆ แต่บังเอิญว่าไม่ได้จำเอาไว้เลย เพราะงั้นคงต้องไปหาที่ร่ำเรียนเอาทีหลังล่ะ
“เอ๋? คุณเร็นใช้เวทย์มนต์สายโจมตีไม่ได้เลยเหรอ? ”
“ไม่กระดิกเลยล่ะค่ะ กะเอาว่าพอไปถึงเมืองหลวงค่อยไปหาที่เรียนเอาทีหลัง”
“อ่ะ ถ้าอย่างนั้นให้ฉันสอนดีมั้ยคะ? ”
“เอ่อ จะดีเหรอ? ”
“สบายมาก! อยากเรียนรู้เวทย์มนต์บทไหน ก็ถามมาได้เลยนะคะ! ”
“อืมม งั้น อยากรู้เวทย์ไร้ธาตุ ความมืด แล้วก็สายฟ้า…...”
“ไร้ธาตุ, ความมืดแล้วก็สายฟ้าสินะคะ รับทราบ! ฉันใช้เวทย์มนต์ไร้ธาตุกับความมืดได้ ถึงแม้ว่าจะใช้เวทย์สายฟ้าไม่ได้ แต่ไว้ค่อยไปหาหนังสือมาศึกษาเอาทีหลังก็ได้ ฉันน่ะได้เรียนรู้เวทย์มนต์จากพี่สาวของฉันเอง เพราะงั้นไม่ต้องห่วง เชื่อมือได้เลยค่ะ! ”
โอ้ ดูท่าทางจะได้เรียนทั้งหมดที่อยากได้เลยแฮะ...อ่ะ จะว่าไปแล้ว….
“อ่า แล้วศาสตร์ในการเล่นแร่แปรธาตุล่ะคะ?”
“ขอโทษด้วยนะ ถ้าเป็นเล่นแร่แปรธาตุล่ะก็ฉันไม่ถนัดเอาซะเลย...แค่สกิลพื้นฐานอย่าง【เล่นแร่แปรธาตุ】เนี่ย ยังเรียนรู้เองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งมีคนมาสอนนั่นล่ะ มีคนบอกเหมือนกันว่าควรเรียนรู้ไว้ แต่มันไม่มีเวลาเลยล่ะค่ะ ”
“อย่างนั้นเหรอ ไม่รู้มาก่อนเลยนะคะ ว่ามันจะยากขนาดนั้น”
“มีสิ่งที่แม้แต่คุณเร็นก็ยังไม่รู้ด้วยเหรอเนี่ย~? ”
“แหงสิคะ มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้และไม่เข้าใจอีกเยอะแยะเลยล่ะ ”
“ไม่บอกก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะเนี่ย”
“ใช่มั้ยล่า~”
ทำไมแอบรู้สึกว่าโดนค่อนแคะเบาๆ ล่ะเนี่ย แต่สงสัยตอนนี้คงต้องพักเรื่องเล่นแร่แปรธาตุไว้ก่อนล่ะー ว่าแต่ อยากรู้เรื่องของศาสตร์นี้ให้ลึกกว่านี้ชะมัด จะได้เอามาต่อยอดใช้กับ【ศาสตร์มนุษย์กล】ได้
“พวกเธอสองคนน่ะ~ ออกเดินทางกันเลยดีมั้ย~? ยืนคุยกันข้างกองซากศพมันไม่ค่อยน่าพิศมัยเท่าไหร่อ่ะน้า~”
“......นั่นสินะ”
“......งั้นก็ออกเดินทางกันต่อเถอะเนอะ?”
ว่าแต่...คุยกันจนลืมไปว่ายืนอยู่ข้างศพที่กองเป็นภูเขาเนี่ยนะ เอะเฮะ~
Trace on!!!
ReplyDeleteH h headshot !!
ReplyDelete