057 – เรื่องนี่มันไม่ใช่เรื่องการทำอาหารของผู้กล้าที่กลับชาติมาเกิดที่ต่างโลกหรอกนะคะ...คิดว่านะ
หลังจากที่ซื้อขายไข่กันเสร็จ คืนนั้นพวกเราเลือกตั้งแคมป์พักแรมกันอยู่ที่นอกหมู่บ้านล่ะ
ครั้นจะดันทุรังเดินทางต่อให้ถึงลานพักแรมอื่นที่อยู่ไกลออกไปก็อาจจะลำบากไปสักหน่อย ด้วยเงื่อนเวลาที่ไม่ลงตัว คุณหัวหน้าหมู่บ้านก็ชวนให้พักที่บ้านเขาอยู่หรอกนะ แต่ปฏิเสธไป
จะพูดให้ตรงๆ ถึงเหตุผลก็คือ คุณลิลลี่กับคุณอาริสะยืนกรานอยากที่จะนอนบน เตียงเรียบง่าย ในรถม้าน่ะสิ......ส่วนตัวแล้วอยากนอนในห้องหับเป็นเรื่องเป็นราว มากกว่าจะไปนอนขดกันบนรถน่ะนะ ซึ่งถ้าอยากนอนเตียงดีๆ ใช้สกิลเปลี่ยนสลับกันซะก็หมดเรื่อง
ว่าแต่ นี่ก็ได้เวลาแล้ว เตรียมข้าวเย็นเลยดีกว่า ใช่ วันนี้จะทานข้าวที่เป็นข้าวจริงๆ
วันนี้ได้ไข่มาแล้ว ต่อไปนี้ก็ทำได้หลากหลายเมนูมากขึ้น เพราะงั้นวันนี้จะทำ คัตสึด้ง1 ล่ะ
[1 カツ丼(Katsudon) : ข้าวหน้าหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดราดน้ำซุปและไข่ ]
Katsudon : https://cookpad.com/recipe/3896776
สองคนนั้นน่ะ ทำงานอยู่ในโรงแรม เพราะงั้นก็ควรจะชินกับทงคัตสึอยู่แล้ว แต่ว่านะ เจ้านี่จะทำให้สิ่งที่เคยพบเห็นที่โรงแรม เป็นอีกเรื่องไปเลยล่ะ
อันดับแรก ก็ต้องเริ่มจากการทอดทงคัตสึก่อน เสียงฉ่าที่เกิดจากน้ำมันเดือดเรียกความสนใจจากเด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างๆ ให้เดินเข้าหา
“หรือว่า จะทำเจ้าเนื้อทอดอันนั้นเหรอคะ!? ”
“ของแท้ต้นฉบับ จานที่ลิลลี่เท่านั้นที่เคยได้ลิ้มลอง......! ”
เสียใจด้วยนะ ไม่ใช่เมนูนั้นหรอก
วันนี้จะทำอะไรที่เหนือกว่านั้นอีก คัตสึด้งน่ะ
ฉันใช้กระทะอีกใบขึ้นมาตั้งไฟ
ตามปกติแล้วคัตสึด้งมักที่จะปรุงทีละชาม แต่ในเมื่อฉันไม่มีกระทะขนาดเล็กพอ จะให้ทำขึ้นมาเฉพาะงานเลยก็แลดูรุงรังเกินไป เพราะงั้นจึงใช้กระทะไซส์ปกติ แล้วทำทีเดียวสามที่พร้อมกันไปเลย
ฉันโรยหอมใหญ่ซอยลงในกระทะที่ตั้งไฟแรงไว้ ผัดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเบาไฟลง ราดดาชิลงไป1 จากนั้นเบาไฟ รอจนดาชิเดือด
[1 ดาชิ : น้ำซุปที่ต้มจากปลาโบนิโตะตากแห้ง กับสาหร่ายคมบุ อาจจะมีเห็ดหอม กับหัวไชเท้าด้วยก็ได้ ตามชอบ]
ฉันขยับไปหั่นทงคัตสึที่พักไว้เมื่อสักครู่ให้เป็นขนาดพอดีคำ หันไปพอเห็นดาชิเดือด ฉันก็นำทงคัตสึใส่ลงในกระทะ จากนั้นก็ตามด้วยไข่ตี และใบมิตสึบะ1 เบาไฟลงจนเหลือแค่ไฟตุ๋น
[1 ใบมิตสึบะ : ผักชีญี่ปุ่น]
พอราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ทุกอย่างก็พร้อมเสิร์ฟ กลิ่นหอมสุดๆ ที่โชยออกมานั่น ทำเอาซะท้องร้องเลยล่ะ
วันนี้เสิร์ฟพร้อมซุปหอมใหญ่ที่เพิ่งทำไปรอบนึง เมื่อบ่ายล่ะ ก็ทั้งสองคนดึงดันที่จะกินให้ได้ขนาดนั้น......จริงๆ แล้วอยากทำซุปเต้าเจี้ยวมากกว่า ว่าแต่ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบเลย ถ้ามีผักกาดดองไว้กินแกล้ม แต่ในเมื่อของมันไม่มี จะบ่นไปก็ป่วยการ เพราะงั้นหนหน้าดองผักเก็บไว้ดีกว่าเนอะ
หลังจากที่จัดเรียงชามคัตสึด้งประจำที่เรียบร้อย เพื่อร่วมโต๊ะทั้งสองนางก็ตาเบิกโพลงนั่งจ้องชามอาหารตรงหน้า
“อะไรง่ะ? เจ้านี่......ไม่ใช่อันเดียวกันกับที่ยัดใส้แซนวิช ไม่ใช่แบบเดียวกับที่ใช้ขนมปังสองอันประกบกันนี่นา......? ”
“อะไรก็ไม่สนใจล่ะ~ แต่หอมขนาดนี้~ อดใจไม่ไหวแล้วอ่ะ~! กินเลยได้มั้ยค๊า~? ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ทานให้อร่อย”
““ทานล่ะนะคะ! ””
ในขณะที่ฉันใช้ตะเกียบ ทั้งสองคนหยิบช้อนที่เป็นอาวุธคู่กายขึ้นมา ตักคัตสึด้ง ค่อยๆ ป้อนเข้าปากไป
“ฟุว๊าา....อร่อย......! ”
“นี่มันยอดไปเลย~! เนื้อนี่ ไข่นี่......! ”
“พอราดลงไปบนข้าวแล้วมันเข้ากันได้ดีมากอีกด้วยล่ะ! นี่หยุดมือไม่ได้เลย! ”
“ไม่แฟร์เลยอ่ะ ทำไมมีแต่ลิลลี่ที่ได้กินอะไรอร่อยๆ แบบนี้มาก่อนล่ะ~ ขอโทษมาเดี๋ยวนี้นะ! ”
“ที่ได้กินก่อนหน้า เป็นแค่เนื้อทอดอันนี้ใส่ในขนมปังเท่านั้นเอง นี้ก็เพิ่งได้ครั้งแรกนี่แหละย่ะ!? เพราะงั้นไม่นับ! ”
ร่าเริงกันจังเลยน้าー ทั้งสองคน อื้ม อร่อยจัง นี่ก็ไม่ได้ทานมานานขนาดไหนแล้วนะ
“ซุปนี่ก็อร่อยมากด้วยล่ะ! ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณหัวหน้าหมู่บ้าน ถึงได้ชมนักชมหนา! ”
ทั้งคัตสึด้ง และซุปหอมใหญ่นี่ ต่างก็มีหอมใหญ่และไข่เป็นวัตถุดิบหลักร่วมเหมือนกัน ซึ่งพอทานด้วยกันแล้วมันก็ไม่ได้แย่นักหรอก......รสชาติเข้ากันดีทีเดียว แต่ว่าในทางกลับกันแล้ว รสชาติเข้มข้นทั้งสองจานแบบนี้ทานมากเกินไปจะทำให้เลี่ยนเอาได้ กรณีนี้จานหลักเป็นคัตสึด้ง เพราะงั้นซุปเต้าเจี้ยวที่ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชืนตัดกัน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ทั้งสองนางสวาปามอาหารตรงหน้าตนลงไปจนหมดอย่างรวดเร็ว แล้วทั้งคู่ก็ค่อยๆ เบือนหน้า ส่งสายตาเว้าวอนเบาๆ มา ไม่ให้หรอกนะ นี่มันส่วนของฉัน แล้วก็ไม่มีจานสองให้เบิ้ลด้วย ที่เหลือนั่นเป็นของโนรุนกับเบลนะ เพราะคุณแม่งอนมาตั้งแต่บ่ายแล้ว......แต่ไม่ใช่ว่าจะทำดีเอาใจหรอกนะ! อ่ะ แบบว่าแค่ทำเกินน่ะ ยังมีให้เติมได้อีกนะ! แล้วก็ช่วยอารมณ์ดีขึ้นด้วยนะ! อะไรประมาณนั้นล่ะ
ว่าไปนั่น
…...จริงๆ ฉันแอบคิดว่า ทั้งคุณลิลลี่และคุณอาริสะทานเยอะไปหน่อยมั้ย? มากกว่าที่ฉันทานไปราวๆ 1.5 เท่าเลยนะ? ไม่ใช่ว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทั้งสองนางจะทานเยอะเกินไปหน่อยเหรอ? ถ้าไม่ระวังจะอ้วนเอาได้นะ รู้มั้ย?
หลังจากที่แจงออกไปแบบนั้น ทั้งคู่หน้ามุ่ยแลดูแอบเคืองอยู่เบาๆ นี่มันความผิดพวกเธอไม่ใช่เร้อ? ทำไมมาเคืองทางนี้ล่ะ?
“นี่มันอร่อยจริงๆ นะ! ”
“ฟินง่ะ~”
“ถ้าอาหารมื้อนี้ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ1 ”
[1 ต้นฉบับใช้ お粗末様です(osomatsusamadeshita) : แปลตรงตัวว่า “ขออภัยสำหรับอาหารชั้นเลว,อาหารแย่ๆ” จริงๆ เป็นคำพูดตามมารยาทของคนที่ทำอาหารมาเสิร์ฟ แสดงถึงการถ่อมตัวค่ะ]
“แต่ฉันว่าฉันพอเข้าใจแล้วล่ะ ”
“อะไรเหรอ~? ”
“ที่คุณเร็น ใหญ่ ได้ขนาดนี้เพราะกินแต่ของอร่อยๆ แบบนี้ไงล่ะ”
ฉันเนี่ยนะ ใหญ่...ตัวใหญ่? เอาจริงๆนะ เพิ่งมารู้ตัวเอาช่วงหลัง ว่าเร็วๆ นี้ตัวฉันยืดแนวดิ่งน้อยมากเลยไม่ใช่รึ ฮ่าฮ่าฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...
“อ่า....อย่างนี้นี่เอง~ ”
คุณอาริสะส่งสายตาทำนองเหมือนคิดตกอะไรสักอย่าง พลางมองมาแล้วพยักหน้าหงึกๆ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ มองแค่เฉพาะส่วน อ่า ที่ว่า ใหญ่ เนี่ยหมายความแบบนี้นี่เองเรอะ
“ถ้าเรากินอาหารที่คุณเร็นทำต่อไปเรื่อยๆ ซักวันพวกเราก็จะเป็นแบบนี้ด้วยสินะ......! ”
คุณลิลลี่ยกมือขึ้นทาบอก แล้วบ่นงึมงัมอะไรซักอย่างกับตัวเอง
......เดี๋ยวนะ ไอ้การที่จะโตเฉพาะส่วนแบบนี้ไม่น่าใช่เรื่องอาหารซักหน่อย แต่มันเกี่ยวกับกรรมพันธุ์ต่างหาก แล้วโลกนี้น่ะ มันก็มีบางอย่างที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถไขว่คว้ามาได้ ซึ่งบังเอิญว่าฉันก็ไม่ได้ใส่ใจว่ามันจะใหญ่หรือเล็กซะด้วยสิ....จริงๆ นะ อยากให้ส่วนสูงงอกมากกว่า ขนาดหน้าอกอ่ะ
ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่มันแสดงออกทางสีหน้าหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้คุณลิลลี่กำลังส่งสายตาน่ากลัวมาล่ะ
“......คุณเร็นไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่
ไม่มี
หรอกนะ!
คนอย่างเธอที่เหวี่ยงเจ้า
ของมหึมา นี่
ให้มันเด้งไป-ดึ๋งมาแบบนี้น่ะ!
”
“ฮย้าาาาาー!?
”
อยู่ๆ
คุณลิลลี่ที่กำลังเกรี้ยวกราดก็คว้าหมับที่หน้าอกของฉัน
เดี๋ยว หยุดก๊อนน!
จับมากไปกว่านี้มันจะอันตรายนะ!
“เนี่ย! เจ้าก้อนเนื้อมหึมานี่น่ะ! ”
สาวน้อยผู้คับแค้นใจบ่นไป มือก็ขยำหนุบหนับไม่หยุด ถ้ายังทำแบบนั้นต่อไปล่ะก็..!
“ฮย๊าา...! อ-อย่า..นะ..คะ..อื้ออ~!”
แย่แล้ว เผลอส่งเสียงแปลกๆ ออกไปซะแล้วล่ะ!
“......”
อยู่ๆ คุณลิลลี่ก็หยุดมือทันที แล้วรีบถอยกรูดออกไป ร-รอดแล้ว
“ข-ข-ข-ข-ข-ข-ขอโทษค่ะ! ”
“ฮาา...ฮะ...ไม่-ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรค่ะ...”
เผลอส่งเสียงแปลกๆ ออกไปในที่ธารกำนัลซะแล้วสิ น่าอายชะมัด ร่างกายนี้มันไวต่อความรู้สึกเป็นบ้า เพราะงั้นอย่าทำแบบนั้นอีกเลยนะ ได้โปรดล่ะ แต่ว่า ที่มันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ไม่ใช่เพราะกิจวัตรหรอกนะ! มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วต่างหากล่ะ!
“ได้โปรดอย่าทำอะไรแบบนั้นอีกเลยนะคะ”
“ขอโทษนะคะ จะไม่ทำอีกแล้วล่ะ แต่ว่า คุณเร็น.....?”
“อะไรเหรอคะ? ”
“ก็...พูดไปแล้วอย่าโกรธกันนะ แต่ถ้ายังหน้าแดงแล้วจ้องฉันด้วย สีหน้าแบบนั้น ต่อไป มันจะให้ผลตรงกันข้ามนะคะ......แถมตัวฉันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ด้วยแล้วล่ะ เพราะงั้นช่วยหยุดเถอะนะ”
“!?”
พอรู้สึกตัวแล้ว ก็รีบดึงฮู้ดขึ้นมาปิดทันที เอ๋ นี่ฉันทำสีหน้าแบบไหนอยู่นะ!?
ฉันแอบมองลอดผ่านฮู้ดไปที่สองคนนั้น ทั้งคู่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง ส่วนสีหน้านั้น บ่งบอกว่ากำลังรู้สึกซับซ้อนเสียจนยากจะบรรยาย พอตาของพวกเราสบกัน พวกเธอก็รีบหันหลบมองไปทางอื่น ดวงตาเหม่อออกไปแบบไม่มีจุดหมาย
อว๋า...คืนนี้พวกเราทั้งสามคนยังต้องนอนด้วยกันอีกใช่มะ…? ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตรายล่ะ...หรือจะพูดให้ถูกก็คือ พวกเรายังต้องนอนด้วยกันอีกหลายคืน ตลอดจนกว่าจะจบทริปเลยล่ะ ถึงว่าจะนอนด้วยกันจนชินแล้วเถอะ แต่ว่าถ้ามีใครนอนดิ้น เผลอมาโดนจุดที่ไม่ควรโดนเข้า ฉันอาจจะแสดงอาการแปลกๆ ออกไปอีก แล้วก็โดนจู่โจมเข้าให้ก็ได้ แต่ถ้าถามล่ะก็ นี่ก็ไม่อยากโดนบุกใส่หรอกนะ ไม่ว่าจากใครก็เถอะ
แต่ดูเหมือนที่กังวลไปจะเป็นการคิดมากไปเอง โชคดีที่เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีใครทำอะไรอย่างที่กลัว ตื่นมาโดยสวัสดิภาพ แต่ว่าทำไมทุกคนดูอิดโรยเหมือนไม่ได้นอนแบบนั้นล่ะ
เพิ่มเติมคือ เมื่อคืนฉันเช็คสถานะของตัวเองตอนที่ทุกคนเหมือนจะหลับกันไปแล้ว อยู่ๆ ก็มีสกิลใหม่ที่ไม่รู้ได้รับมาตอนไหนอยู่ในลิสต์ด้วยล่ะ สกิลนั้นชือว่า 【การยั่วยวนของปิศาจ】 นี่มันอะไรล่ะเนี่ย?
เพื่อความสบายใจ ฉันจึงใช้ 【ประเมินค่า】ดูรายละเอียดของสกิล....
【การยั่วยวนของปิศาจ1】
เป็นสกิลที่จะทำให้ผู้คนรอบข้างต้องมนต์เสน่ห์ โดยไม่คำนึงถึงเจตนาของผู้ถือครอง และจะไม่จำกัดทั้งอายุหรือเพศของเป้าหมาย
พลังของสกิลขึ้นอยู่กับ ค่า CHA ของผู้ถือครอง + (Level x 10)
แม้ว่าผู้ถือครองสกิลนี้จะดึงดูดผู้อื่น แต่จะไม่ถูกผู้อื่นดึงดูด ทั้งนี้ ผู้ได้ถือครองสกิลนี้จะได้รับ 【ต่อต้านการโจมตีทางจิตใจ2 LV 10】 ไปด้วย
[1 魔性][2 精神耐性]
…...ปัญหาใหม่มาแล้ววววว! เอาเข้าจนได้นะ!
ไม่ใช่ว่าไอ้นี่มันโคตรแย่เลยหรอกเหรอยะ!? ทำไมเป็นงี้อ้ะ!?
TL note1 : ตกลงเธอเป็นเผ่าสรวงสวรรค์หรือซัคคิวปัสกันแน่....
แต่เป็นเรื่องของตาลุงในร่างโลลิที่ชอบป้อนข้าวชาวบ้านไปทัวโดยเฉพาะสาวๆ
ReplyDeleteซัคคิวบัสแน่นอน =w=
ReplyDeleteskill อันหลัง น่าเอาไปทำโดสายมืด
ReplyDeleteก็ นิยาย ทำอาหาร นี่นะ
ReplyDeleteเกือบได้เปิดโลกใหม่กับเหล่าสาวน้อยแล้วไหมละ
ReplyDeleteยังต้องอยู่ด้วยกันอีกหลายคืนจะรอดปลอดภัยไหมเนี่ย
ReplyDeleteสกิลที่ทำให้ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีก ตาลุงเอ๊ย 5555
ReplyDeleteสรุปนู๋เป็นเผ่านางฟ้าหรือเป็นซาคิวบัสกันแน่น้อ 555
ReplyDelete