053 - ไม่ปรานีหรอกนะคะ?
“เอาสัมภาระที่ไม่คิดจะหยิบใช้เร็วๆ นี้ไปไว้ที่หลังรถนะคะ เดี๋ยวฉันไปเปิดข้างหลังให้เดี๋ยวนี้ล่ะ”
“อ้ะ-ค่ะ รับทราบ”
“มีที่วางกระเป๋าด้วยล่ะ~”
ทั้งสองคนมีสัมภาระเป็นกระเป๋าหิ้วคนละใบ นอกจากนั้นก็คืออาวุธประจำตัว คุณลิลลี่ถือไม้คทาอยู่ในมือ ส่วนคุณอาริสะนั้นเป็นดาบบางๆ หนึ่งเล่ม ทุกอย่างใส่ในที่วางสัมภาระได้พอดิบพอดี ยกเว้นแต่อาวุธ ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางบ้าง ฉะนั้นพกอาวุธไว้ข้างๆ ตัวอาจจะดีกว่าก็ได้ ส่วนฉันก็มีดาบอยู่เล่มนึงล่ะ แต่ว่ายังไม่เคยได้ฤกษ์เอาออกมาใช้เลยซักกะหนน่ะนะ
“งั้นขึ้นรถกันเถอะค่ะ”
“......นั่นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็”
“ขอรบกวนด้วยนะคะ~”
จะตื่นเต้นอะไรกันขนาดน๊าน-? ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลิศเลอซักหน่อย...อย่างน้อยก็บนมาตรฐานของฉันน่ะนะ
สองสาวเสิร์ฟเปิดประตูแล้วมองเข้าไปข้างใน ทันทีที่เห็นสภาพภายในห้องโดยสาร ทั้งสองก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น อ้าปากค้างโดยไม่ห่วงสวย
“นี่มันอะไรกันเนี่ย….”
“รถเทียมม้ายังไงล่ะคะ อาจจะดีกว่าที่เห็นทั่วไปนิดหน่อยแต่ไม่ได้มีอะไรผิดปกติหรอกนะ เพราะงั้นรีบขึ้นไปเถอะค่ะ”
“เห...”
“......งั้นฉันจะขึ้นไปก่อน เพราะงั้นรีบขึ้นมาได้แล้วนะคะ”
“ค-ค่ะ”
“ร-รบกวนด-ด้วยนะค-ะ”
จะเกร็งอะไรกันขนาดน้าน…
ในเมื่อทั้งสองคนดูละล้าละลังที่จะขึ้นไปบนรถโดยอาจจะกลัวหรืออะไรอยู่ก็ไม่รู้หรอก ฉันเลยตัดสินใจโดดนำร่องขึ้นไปก่อน
ในห้องโดยสารมีที่นั่งหลักเป็นแถวยาวอยู่ด้านหลัง กว้างพอที่จะนั่งได้สองถึงสามคน แล้วก็มีที่นั่งเดี่ยวอยู่ข้างหน้าด้านขวาหันไปด้านหน้ารถ โดยมีประตูออกไปที่นั่งพลขับอยู่ทางด้านซ้าย ฉันเดินขึ้นไปนั่งเบาะหลังก่อน แล้วกวักมือเป็นเชิงเรียกอีกสองคนที่ยังลังเลไม่กล้าขึ้นมา
คุณลิลลี่เดินมานั่งลงข้างๆ ขณะที่คุณอาริสะเลือกที่นั่งเดี่ยวด้านหน้า จากนั้นทั้งสองแหววออกมาอย่างซ่อนความประหลาดใจไว้ไม่มิด
“นี่มันอะไรกันเนี่ย!? เก้าอี้ตัวนี้!? ”
“เจ้าความนิ่มดึ๋งดั๋งเหมือนโกหกนี่….อะไรกันนะ~”
“ฉันสร้างเองกับมืออย่างสุดความสามารถเลยนะคะ”
“ไม่นะ เดี๋ยวๆ หมายความว่ายังไงนะคะ เร็นซัง”
แหม แต่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้ก็คงไม่แปลกล่ะนะ ก็เจ้าพวกนี้มันเป็น โอเวอร์เทคโนโลยี ที่ดูยังไงก็ไม่น่าใช่ของที่พบเจอได้ที่นี่ แต่ว่านะ ของพวกนี้ฉันก็แค่จำเขามาอีกที ไม่ได้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเองหรอก
“ออกรถเลยนะคะ? ”
“อ่ะ นั่นสินะ รบกวนด้วยค่ะ”
“ค่ะ เอาล่ะ”
“......”
“......”
“......? ”
“............”
“......เอ่อคือว่า...”
“จ๋า?”
“ทำไมรถยังไม่วิ่งล่ะคะ? ”
“เอ๋? รถก็วิ่งอยู่นี่นา? ”
“เอ๋? ”
“เอ๋? ”
“นี่ๆ ลิลลี่ รถวิ่งอยู่จริงๆ ด้วยล่ะ~ มองไปข้างนอกหน้าต่างสิ~”
“ว่าไงนะ? จริงง่ะ? เอ๋ แต่ทำไมไม่สั่นเลยล่ะ….เหมือนกับไม่ขยับเลยซักกะนิด”
“ลิลลี่ ที่มันแปลกๆ แบบนี้อาจจะเป็นที่เจ้ารถม้าคันนี้ก็ได้นะ~”
“โง๊ย ไร้คำพูดแล้วนะ…...”
“ฉันสร้างเองกับมืออย่างสุดความสามารถเลยนะคะ”
““พอเถอะค่ะ(ค่า~)””
ใจร้ายยย
“จะว่าไปแล้ว ตอนนี้ใครขับรถนี่อยู่ล่ะ!?”
“โกเลมจัดการอยู่น่ะ”
“ตะกี้เห็นบอกว่านั่นเป็นตัวหลอกไม่ใช่เหรอ?”
“เป็นตัวหลอกจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะขับไม่ได้นี่นา?”
“......พอดีกว่าเนอะ”
อา แววตาคุณลิลลี่หายไป เลื่อนลอยชัดเจน นี่คือตัดวงจรความคิดในสมองทิ้งไปแล้วสินะ
จากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรเรื่องรถม้าออกมาอีกเลย คงพยายามทำใจให้ชินได้แล้ว แต่ก็ถ้าชีวิตสะดวกสบายขนาดนี้แล้ว ใครเค้าจะบ่นอะไรได้อีกล่ะ
ว่าแต่ ตอนนี้ไม่ได้สวมฮู้ดอยู่ ดึงลงตั้งแต่ขึ้นมาบนรถแล้ว
ฉันกางโต๊ะพับและที่วางแก้วแบบติดผนังออกมา จากนั้นเทเครื่องดื่มใส่แก้วส่งให้ทุกคนแล้วจิบอย่างสบายใจ
อื้มม น้ำส้มนี่ล่ะคือที่สุดแล้ว น้ำส้มน่ะ ถ้าดื่มแบบคั้นมา 100% เลยจะดื่มยากเกินไป เพราะอย่างนั้นแล้ว ฉันเลยผสมน้ำลงไปเล็กน้อยเพื่อให้คล่องคอมากขึ้น แล้วก็น้ำส้มน่ะนะ ดื่มแบบเย็นๆ มันต้องอร่อยกว่าอยู่แล้ว เพราะงั้นฉันเลยทำน้ำส้มให้เย็นลงด้วยเวทย์มนต์ธาตุน้ำแข็งล่ะ
ฉันน่ะ ใช้เวทย์มนต์สายนี้ได้เมื่อตอนที่สร้างน้ำแข็งขึ้นมาจาก【เวทย์รังสรรค์】โน่น
แก้วของทุกคนตอนนี้วางอยู่บนที่วางแก้วพับได้ที่เกาะติดอยู่กับกำแพง ส่วนของคุณลิลลี่นั้นอยู่ฝั่งริมประตู โดยแก้วที่ใช้นั้นเป็นแบบมีฝาปิด ทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องการกระเด็นออกมาเลอะเทอะเวลาที่รถอาจจะเขย่า
“ดื่มเครื่องดืมจากแก้วบนรถม้า...แถมยังมีอะไรช่วยให้ไม่กระเซ็นหกออกมาอีก...ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กน้อยขนาดนี้...”
“ถ้าพูดถึงการกินน้ำบนรถม้าล่ะก็~ สิ่งเดียวที่นึกได้คือถุงหนังสัตว์ใส่น้ำเหม็นๆ อ่ะ~ ”
ฮ่าๆๆ ถ้ามีคนฟิน ก็แปลว่าตานี้ก็เข้าวินอีกแล้วสินะ?
“ว่าแต่ เครื่องดื่มนี่น่ะ อร่อยจัง….”
“เพิ่งเคยกินอะไรแบบนี้ครั้งแรกเลยล่ะ~”
น้ำส้มนี่ ได้รับความนิยมเกินคาดแฮะ ทั้งที่แค่น้ำส้มคั้นผสมกับน้ำเปล่าเฉยๆ เอง
ตอนนี้ โนรุนกับเบล กำลังขนาบข้างซ้ายขวาของที่นั่งพลขับอยู่ เห็นว่าจะช่วยเป็นหูเป็นตาคอยจับอะไรที่ผิดสังเกตให้ พวกเธอน่ะ เป็นเทพยดาลงมาเกิดจริงๆ ใช่มั้ย
“อ่ะ จริงด้วย ฉันไม่รู้ทางน่ะ…...ควรวิ่งไปยังไงต่อดีล่ะ?”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ไม่ยากเลย ขอแค่มุ่งไปทิศตะวันออกวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ ค้างที่พื้นที่ปกครองของเค้าน์มูบาโรว์หนึ่งคืน แล้วก็วิ่งตามทางหลวงขึ้นเหนือก็ถึงเมืองหลวงแล้วล่ะค่ะ”
“รับทราบ งั้นวิ่งตามทางนี่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ไปก่อนเลยสินะคะ”
ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหะ
แม้ว่าจะแวะพักเข้าห้องน้ำหลายหน แต่การเดินทางก็ราบรื่นดี จนถึงลานกว้างสำหรับพักแรมในช่วงเย็น วันนี้พวกเราจึงตัดสินใจพักค้างแรมกันที่นี่
“คืนนี้พักกันที่นี่นะคะ”
“นั่นสินะ งั้นมาเตรียมมื้อเย็นกันเถอะ”
“ว่าแต่ คุณเร็นจะเป็นคนทำเหรอ?”
“นั่นสิคะ”
“จะว่าไปแล้ว วัตถุดิบล่ะคะพวกเราไม่ได้ติดมาเลยนะ…...”
“ฉันเตรียมมาเรียบร้อยแล้วล่ะ”
“แล้วพวกเรื่องค่าใช้จ่าย….”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับฉันแล้ว ขอแค่ได้เห็นคนทานแล้วมีความสุขก็พอใจแล้วล่ะ”
“รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ล่ะค่ะ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
ก็เป้าหมายของฉันน่ะ คือการป้อนของกินให้พวกเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความหรอก! แค่ได้เห็นหน้าตาน่ารักๆ ของพวกเธอ แค่นี้ก็พอใจตาลุงคนนี้แล้วล่ะเน้อ!
ง่ะ เผลอคิดอะไรแย่ๆ มากเกินไปหน่อย จนน้ำลายจะหกออกมาอยู่แล้ว1
[1 じゅるり : เสียงกิริยาแสดงอาการน้ำลายหก]
พอๆ เลิกทำเป็นตลกคาเฟ่ได้แล้ว ว่าแต่วันนี้ทำอะไรดีนะ? ไม่สิ จะว่าไปก็เตรียมไว้เยอะแยะแล้วนี่นะ เพราะงั้นแค่ใช้สกิลเรียกออกมาก็แทบจะพร้อมทานแล้ว
อืม เกี๊ยวซ่า? เกี๊ยวซ่านี่แหละ เตรียมไว้เยอะเลย สิ่งที่ต้องทำเหลือแค่ลงทอดในกระทะเท่านั้น แล้วก็ อยากทานกับข้าวสวยร้อนๆ ด้วยง่ะ
Gyoza : https://livejapan.com/zh-cn/article-a0000454/
ฉันเรียกเตาเวทย์มนต์ออกมา ตั้งกระทะแล้วเริ่มลงมือทอดเกี๊ยวซ่าทันที ส่วนข้าวสวยนั้นหุงสุกพร้อมทานอยู่ใน【มิติกักเก็บ】เรียบร้อยแล้ว
ว่าแต่จะทอดขึ้นมากี่ชิ้นดีนะ? สามคนก็ 30 ชิ้น? …...ไม่ล่ะ พวกนั้นคงทานเป็นปอบลงแหงๆ งั้น 60 ชิ้นก็ละกัน ถึงจะแอบรู้สึกกังวลว่าเยอะไปสักหน่อย แต่ก็ยังสามารถเก็บไว้ทานทีหลังได้ถ้าไม่หมดจริงๆ
เสียงฉ่า~ฉ่า~ ดังออกมาตอนที่ลงมือวางเกี๊ยวซ่าลงในกระทะ พอทอดเสร็จหนึ่งชุดก็เก็บที่ทอดสุกแล้วเข้าไปใน【มิติกักเก็บ】แล้วก็ลงมือทอดชุดต่อไป เพื่อเกี๊ยวซ่านั้นจะได้ยังร้อนอยู่ ทานเมื่อไหร่ค่อยเรียกออกมา
สาวสวยกระเพาะใหญ่ทั้งสองยืนจ้องฉันแบบไม่วางตา เป็นการโดนจ้องแบบปานจะกลืนกินจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ พร้อมกันนั้นก็มีเสียงปริศนาดัง ‘โครก~’ แทรกออกมา
อื้ม แหงล่ะ กลิ่นเกี๊ยวซ่าที่ถูกย่างบนกระทะนี่มันช่างโหดร้ายสำหรับคนหิวจริงๆ แหละนะ
พอกางโต๊ะกับเก้าอี้พับ และจัดเรียงจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ใช้สกิลเรียกข้าวสวย และเกี๊ยวซ่าออกมา จากนั้นก็ผสมเกี๊ยวซ่าซอส ด้วยโชวยุ น้ำมันพริก และน้ำส้มสายชู พอนึกได้ว่าขาดอะไรไปสักอย่าง ฉันก็เรียกน้ำซุปไก่ที่ทำเก็บไว้ก่อนหน้าออกมาเพิ่มเติม ก็ทานคู่กับซุปมันคล่องคอกว่านี่นา
สองสาวได้แต่นั่งจ้องจานอาหารที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าโดยไม่ขยับ ทำไมหว่า?
“เอ่อ ทานให้อร่อยนะคะ?”
สิ้นคำเชิญชวน ทั้งสองคนก็เริ่มต้นทานทันที และประหนึ่งปอบลงอย่างที่คาดไว้ อ่ะ….พอจะเข้าใจแล้ว คงเพราะไม่รู้ว่าเริ่มทานตอนไหนถึงจะไม่น่าเกลียด เลยรอให้เรียกอยู่นี่เองสิน้า...
ว่าแต่ ถ้ามัวแต่นั่งทอดหุ่ยแบบนี้ ส่วนของฉันคงหายวับไปแน่ๆ ต้องรีบทานสินะ..ลงมือๆ
จนแล้วจนรอด เกี๊ยวซ่าทั้ง 60 ชิ้นก็หายวับไป ทั้งสองคนทานเยอะไปมั้ยน่ะ? นี่ไม่ได้คิดเรื่องที่ว่า ทานเยอะไปจะทำให้อ้วนเอาได้ ไว้เลยใช่มั้ยเนี่ย?
แต่ว่านะ หนนี้ไม่ได้เตรียมของหวานเอาไว้ เพราะงั้นเลยต้องทำเป็นทองไม่รู้ร้อน โนสนโนแคร์กับสายตาหิวกระหายที่ออกมาจากกระเพาะอีกใบของทั้งสองคนนั้น
“อุออ อิ่มแย้ว….ขยับไม่ไหวแย้วค่า~ ”
“พวกเรายังไม่ได้กางเต๊นท์เลยนะ”
“แล้วเดี๋ยวก็ต้องเตรียมต้มน้ำอุ่นไว้เช็ดตัวอีก~ ”
อ่า ทั่วไปแล้วก็ต้องคิดถึงเรื่องนั้นกัน แต่กับฉันน่ะไม่ต้องหรอก
“『ชำระล้าง』”
เมื่อผลของ『ชำระล้าง』เกิดขึ้นกับสองสาว ตัวของทั้งสองคนก็เรืองแสงออกมาชั่ววินาที พอแสงมอดดับลง ร่างกายก็สะอาดเงางาม อันเกิดจากผลของเวทย์มนต์ ถึงแม้ว่าการอาบน้ำจริงๆ จะดีกว่า แต่ว่านี่คือการออกมาพักค้างแรมกลางแจ้ง ก็คงต้องทนๆ กันไป แล้วฉันก็ไม่คิดที่จะเอาบ้านพกพาออกมาตอนนี้ด้วย
“ใช้『ชำระล้าง』ได้ด้วยเหรอคะ!? ”
“ก็เผื่อไว้น่ะ”
“ลิลลี่ ฉันไม่แปลกใจอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ จริงๆ แล้วอยากขอบคุณมากกว่า~ ขอบคุณมากนะคะ~ ”
“ไม่ต้องคิดมากๆ ทางนี้ทำด้วยความยินดีจ้า”
“อุอ งั้นฉันจะกางเต๊นท์เอง อย่างสุดความสามารถเลยล่ะ ”
“อ่ะ นั่นก็ไม่ต้องหรอกนะคะ”
ฉันเดินไปเปิดประตูห้องโดยสารรถเทียมม้า แล้วพับเก้าอี้ลง จากนั้นก็ดึงเบาะออกมา กลายเป็นเตียงอย่างง่าย
“พวกเรานอนกันบนนี้ได้ สำหรับสามคนแล้วอาจจะแคบไปนิดหน่อย แต่อย่างน้อยในแง่ความสบายก็ไม่เลวร้ายนะคะ”
“......งั้น ฉันจะเฝ้ายามให้เอง”
“โนรุนจัดการเรื่องนั้นเองล่ะค่ะ”
“นี่น่ะ...มันไม่ควรจะเป็นอีหรอบนี้สิ”
คุณลิลลี่เจ้าคะ คิดว่ามันจะเป็นอีหรอบไหนกันล่ะเจ้าคะ?
“ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับทุกอย่างเลย~ ”
“ไม่หรอกๆ ”
ดูเหมือนว่าคุณอาริสะจะเท เลิกคิดอะไรใดๆ ไปแล้ว แหม ถ้ามันสะดวกสบายแล้วจะคิดเยอะไปทำไมล่ะ?
มารู้เอาทีหลังว่า คุณลิลลี่นั้นคงจะวางแผนที่จะแสดงความเชี่ยวชาญในทักษะการเดินทางระยะไกล แล้วก็เลคเชอร์พลางสอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับฉัน แสดงความสง่างามในฐานะรุ่นพี่น่ะ
แต่ว่านะ นี่เดินทางด้วยตัวเองมาตั้งนานแล้วอ่ะ อย่างน้อยก็ลงไปหมู่บ้านทางใต้ให้เห็นไปรอบนึงแล้วไม่ใช่เร้อ?
TL note1 : สอนจรเข้ว่ายน้ำ
แนวเฟติช ชอบเห็นสาวกินข้าวแล้วทำหน้าตาน่ารัก
ReplyDeleteเดี๋ยวก็ชินน่า
ReplyDeleteห๊าๆๆ
ReplyDeleteสอนฉลามล่าอุ๋งๆ
ReplyDelete