047 - อย่าละทิ้งความพยายามนะคะ
แน่นอนว่าพออยู่ในที่รโหฐานแบบนี้ ฉันเลยไม่ได้ใส่ฮู้ดเหมือนทุกที ซึ่งมันก็ทำให้แอบอึดอัดอยู่นิดหน่อย เพราะคุณลิลลี่กับคุณซาเลน่า เล่นเอาแต่จ้องฉันเขม็งเหมือนเสือจ้องเหยื่อ1ตั้งแต่ตะกี้นี้แล้ว ส่วนคุณหัวหน้ากิลด์กลับดูเหมือนไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่สินะ?
[1 ガン見(Gunmi) : มองแรง, จ้องเขม็ง, จ้องแบบพร้อมจะกระโดดใส่ ชมรูปประกอบได้ที่ท้ายบท]
ซึ่งมันก็พอมีเจ้าหน้าที่กิลด์คนอื่นๆ อยู่รอบๆ บ้างเหมือนกัน แต่ฉันก็พยายามสับสวิทช์ตัดขาดการรับรู้ทำเป็นไม่สนใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะขืนไปใส่ใจมากก็ไม่เป็นอันทำอะไรพอดี
เอาล่ะ! มื้อเที่ยงวันนี้ฉันเป็นเจ้ามือเอง! หรือจะพูดให้ถูกก็คือฉันทำเองกับมือล่ะ! เพราะงั้น มาดูเมนูอาหารกันเลยดีกว่าค่า~
จานแรก ซุปล่ะ เป็นน้ำซุปจากกุ้ง
ฉันต้มน้ำซุปจากหัวและเปลือกของกุ้ง ให้ความหวานของกุ้งกระจายออกมา จากนั้นก็ตักออก และปรุงรส อย่าเพิ่งคิดว่ามีแค่นี้นะคะ! ยังค่ะ! ยังไม่หมด!
กุ้งผัดซอสพริก1 จานนี้ทำยากพอสมควรเลย แค่การตระเตรียมเครื่องก็ลำบากแล้ว เพราะต้องเคลือบกุ้งด้วยแป้งมันฝรั่งแล้วนำไปทอด ส่วนการปรุงรสก็ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เพราะไม่สามารถหาโต้วป้านเจียง2 มาได้ ซึ่งนั่นน่ะเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารจานนี้เลยนะ….. แต่ในเมื่อมันไม่มี เลยต้องสร้างขึ้นมาด้วย【เวทย์รังสรรค์】ล่ะ
[1 エビチリ(Ebichiri) : เอบิชิลิ เป็นการกร่อนคำมาจาก エビのチリソース炒め(เอบิ โนะ ชิลลี่โซสุ อิทาเมะ) หรือก็คือกุ้งผัดซอสพริกนั่นเอง]
Ebichiri : https://macaro-ni.jp/68758?page=3
[2 豆板醤(Tobanjan) : โทบันจัน, โต้วป้านเจียง เป็นเต้าหู้ยี้ที่หมักจากถั่วปากอ้า มีรสเผ็ด ถ้าเคยอ่านจอมโหดกระทะเหล็กจะเห็นมีพูดถึงอยู่ เป็นวัตถุดิบหลักอย่างหนึ่งของซอสหมาล่าที่เราๆ กินกันอยู่ค่ะ ในไทยสามารถหาซื้อได้จากเว็ปขายของทั่วไป หรือถ้าสะดวกไปเยาวราช ก็มีขายนะ]
Tobanjan : https://taberugo.net/1301
แต่ในเมื่ออย่างน้อยก็พอหาน้ำมันพริกมาได้ตั้งแต่สมัยไปหาของป่ากับพวกเด็กๆ ก็ช่วยให้เหนื่อยน้อยลง ลดภาระไปได้พอสมควร นอกจากนั้นแล้ว ในช่วงที่พอมีเวลาว่าง ก็ยังสร้างซอสมะเขือเทศ กับ น้ำส้มสายชูหมักด้วย
พอเครื่องปรุงหลักเจ้าปัญหาครบหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่หั่นต้นหอม กับเตรียมเครื่องปรุงที่เหลือรอไว้ แล้วผัดทุกอย่างรวมกันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่นี่ยังรู้สึกว่ากุ้งผัสซอสพริกจานนี้ยังหยาบอยู่เลย ต้องค่อยๆ ปรับให้เข้าที่อีกเยอะ
ส่วนจานหลักคือ ข้าวสวยล่ะ วิธีปรุงข้าวบนโลกใบนี้ โดยพื้นฐานมีแค่การต้มในน้ำตรงๆ หรือเอาข้าวสารลงไปย่างกึ่งผัดบนกระทะเท่านั้น ซึ่งพอเห็นแล้วมันขัดใจอ่ะ เพราะงั้นแล้วฉันเลยสร้างหม้อดินเผาขึ้นมาแล้วหุงมันซะเลย ซึ่งผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจใช้ได้เลยนะ พอทุกอย่างเข้าที่แล้ว เสียบตะเกียบลงไปก็ เรียบร้อยพร้อมทานแล้วค่า!
แต่ว่า พอฉันตระเตรียมทุกอย่างออกมาเสร็จแล้ว ทุกคนได้แต่มองแบบเงียบๆ เท่านั้น ไม่ยักกะมีใครขยับตัวเริ่มลงมือแม้แต่น้อย
“อืมม ทานให้อร่อยนะคะ?”
“นี่น่ะ…...มัน…...คืออะไรเหรอคะ? ”
“เป็นอาหารจานที่ใช้กุ้งเป็นวัตถุดิบหลักน่ะค่ะ”
“กุ้ง มันมีแต่ทรายแล้วก็เหม็นคาวไม่ใช่เหรอคะ? ”
อาา สงสัยว่าคงไปเจอพ่อครัวที่ปรุงอาหารด้วยกุ้งแบบที่ยังไม่ดึงสายขี้ที่หลังออกมาสินะ? หืม? ว่าไปแล้ว มาตรฐานอาหารจานที่เป็นกุ้งของโลกนี้มันต่ำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
“อ่าา มันจะเป็นแบบนั้นก็ต่อเมื่อเตรียมมันแบบไม่ถูกวิธีน่ะ ”
“เตรียม? ”
หืมม บางทีคงเพราะว่าที่นี่มีอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบจากทะเลไม่มาก คนเลยไม่ค่อยรู้วิธีการที่ถูกต้อง? หลักฐานก็คือ การที่วัตถุดิบอื่นๆ กลับทำออกมาได้ดีแท้ๆ ซึ่งมันต่างไปจากหมู่บ้านชาวประมงทางใต้ ที่โน่นอาหารทะเลกลับถูกปรุงได้อย่างดี เพราะฉะนั้น ด้วยข้อจำกัดเรื่องการขนส่งวัตถุดิบเข้ามาในเมือง เลยหลีกเลี่ยงอะไรแบบนี้ไม่ได้สินะ
“อืมม ถ้าทำได้อย่างถูกวิธีแล้ว ฉันก็พูดได้เต็มปากว่าไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ เพราะงั้นลองทานดูนะคะ”
“......รับทราบแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็”
คุณลิลลี่เอื้อมมือไปหยิบส้อมขึ้นมา ในขณะที่อีกสองคนแทบจะกลั้นใจจ้อมมองด้วยใจลุ้นระทึก นี่มันให้คนที่อายุน้อยกว่าเป็นหนูลองยา หรือเป็นคนชิมยาพิษให้สินะ ปิศาจ...พวกเธอมันปิศาจชัดๆ
เธอค่อยๆ ตักกุ้งผัดซอสพริกเข้าไปในปาก แล้วเริ่มเคี้ยว จากนั้นก็ชะงัก ตัวค้างแข็งไป ไหล่บางเริ่มสั่นระริก จากนั้นก็กลืนกุ้งที่เคี้ยวลงคอ
“......นี่มันอะไรกันคะเนี่ยー! ”
สิ้นคำประกาศดังลั่นตามนั้น เธอเริ่มลงมือทานอาหารที่วางตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“นี่มัน! ไอ้นี่น่ะมัน! นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา! โง๊ยー!”
สองคนที่รอดูลาดเลามาตั้งแต่เมื่อครู่ เริ่มตั้งสติได้หลังจากที่เห็นกิริยาของคุณลิลลี่ จากนั้นก็หันลงไปมองอาหารตรงหน้าแล้วเริ่มลงมือทานบ้าง
“.......นี่มันอะไรเนี่ย? นี่เป็นครั้งแรก ที่เคยได้ทานอะไรอร่อยแบบนี้”
“แม้แต่ภัตตาคารชั้นหนึ่งในเมืองหลวงยังไม่มีอะไรแบบนี้เลยนะคะ…..”
“น้ำซุปนี่ก็อีก รสชาติที่อร่อยอย่างโหดร้ายฟุ้งไปทั่วปากนี่มัน…...นี่เองสินะ คือรสชาติที่แท้จริงของกุ้ง? เมื่อก่อนไม่อินกับมันเลย เพราะว่าจากที่เคยกินแล้วมีแต่ทรายเต็มปากไปหมด แล้วยังกลิ่นเหม็นคาวนั่น เลยทำให้ฝังใจไม่ชอบไปเลยล่ะครับ ”
“แต่รสชาตินี้ไปได้ดีกับข้าวนี่เลยนะคะ ลำพังแค่ซุป ก็กินคู่กับข้าวได้เป็นชามๆ แล้ว”
“นี่เองสินะ รสชาติของกุ้ง? ว่าแต่ นี่มันอันตรายนะเนี่ย ตอนนี้ผมหยุดมือตัวเองไม่ได้เลย ”
“รสชาติเผ็ดร้อนที่รุนแรงนี่อีก นี่น่ะมัน ง๊า…...เดี๋ยวนะลิลลี่! เธอน่ะกินเยอะไปแล้วนะ! ”
ฮ่าๆๆๆ ยังมีอีกเพียบเลยนะค๊าา เพราะงั้นทานให้อร่อยน้าー
ในท้ายที่สุด ทั้งสามคนก็ทานไม่หยุดจนหน้าท้องป่องออกมาจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดูเหมือนข้าวที่หุงไว้จะเกลี้ยงเลยด้วย…...อาจจะทานกันเยอะไปจริงๆ นั่นล่ะ ใช่มะ?
“เง้อ ไม่ไหวแย้วค่า…...”
“นี่ก็ทานต่อไม่ไหวแล้วเหมือนกันค่ะ”
“กินเยอะเกินไป…...จนตอนนี้ขยับไม่ไหวแล้ว”
แต่ว่า นี่ยังไม่จบเทิร์นของฉันหรอกนะ1
[1 yu-gi-oh ??]
“ว๊าー งั้นก็ทานอันนี้ต่อไม่ได้แล้วสินะคะ”
“““ !? ”””
ฉันหยิบเยลลี่ผลไม้ออกมา เป็นเยลลี่หยุ่นๆ สีสวยที่มีเนื้อผลไม้อยู่ในนั้น
นี่ก็คิดมาสักพักแล้วล่ะ ถึงตอนนี้ฉันสามารถหาเนยมาได้เล็กน้อย และสร้างน้ำตาลจากเมเปิ้ลไซรัปมาได้แล้วก็จริง แต่ว่าถ้าจะทำขนมหวานออกมาให้ได้หลากหลายแล้ว ต้องหานมและไข่มาให้ได้
ในโลกใบนี้ มีถั่วเหลืองอยู่ แถมยังมีเต้าหู้ และนมถั่วเหลืองอยู่ที่หมู่บ้านทางใต้อีก แต่ก็นั่นแหละ ด้วยคุณสมบัติของนมถั่วเหลืองนั้น ไม่เหมาะกับขนมอบซักเท่าไหร่ ถ้าฝืนเอาไปทำ…...รสชาติออกมาไม่เป็นสัปปะรดแน่ๆ แต่อย่างน้อยนี่ก็ได้บังเอิญเจอเข้ากับ สาหร่ายสีแดงที่ลอยเข้ามาเกยตื้น เลยออกมาเป็นเจลลาตินที่ใช้ทำเจลลี่ที่อยู่ตรงหน้าอยู่นี่ไง
“นี่มันอะไรกันเนี่ย…...”
“......นี่มันใส แล้วก็สวยมากด้วย…...เหมือนอัญมณีเลยค่ะ”
“แล้วก็หอมมากด้วยนะครับ”
เยลลี่ที่อยู่ตรงหน้า เป็นเยลลี่องุ่น แน่นอนว่าฉันเป็นคนทำเอง แถมยังใส่ไวน์แดงลงไปอีกนิดหน่อยด้วยนะ กลิ่นเลยหอมยั่วยวนขนาดนี้เลยยังไงล่ะ ซึ่งน่าจะถูกจริตกับผู้ใหญ่อยู่พอสมควรใช่มะ? ส่วนรสชาติก็ปรุงด้วยน้ำผลไม้ และน้ำตาล แต่ความหวานนั้นพยายามคุมให้อยู่แค่ระดับที่ไม่มาก กว่าจะหารสชาติที่ลงตัวได้ ก็ทดลองไปไม่น้อยเลยล่ะ
Fruit Jeri : https://www.bigoven.com/recipe/fruit-jelly/1863788
เอ๋? ไม่ใช่ว่านี่มันนอกฤดูที่จะเก็บเกี่ยวองุ่นได้หรอกเหรอ? เหรอ แน่นอนสิ ก็องุ่นพวกนี้ ฉันเก็บเกี่ยวมันตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปีกลาย สมัยที่ยังอยู่ในป่าแล้วน่ะสิ ตอนนั้นกำลังเดินป่าก็บังเอิญไปเจอมันโตอยู่ เลยเก็บมาซะเลย
ว่าแต่ ทั้งที่มันควรจะเป็นสายพันธุ์ป่าแท้ๆ แต่องุ่นพวกนี้กลับหวานและเม็ดโตเหมือนพวกที่คัดเลือกสายพันธุ์มาปลูกในประเทศยังไงยังงั้น ซึ่งก็ทำให้อยากบ่นเหมือนก่อนหน้า คือบรรดาพืชพันธุ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้มันแปลกพิลึกจริงๆ
“ในเมื่อดูเหมือนทุกคนจะอิ่มกันแล้ว ดิฉันก็ขอเดาว่าคงทานกันไม่ลงแล้วสินะคะ……”
“ไม่ ไม่ ทานค่ะ! ให้ดิฉันทานเถอะนะคะ! ”
“ดิฉันก็ขอด้วยนะคะ! ของหวานมันคนละกระเพาะกันคะ!”
“ผมก็ขอด้วย! ก็ไอ้จานตะกี้น่ะ มันอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลย! ส่วนจานนี้น่ะ ก็ไม่อาจจินตนาการรสชาติของมันออกมาได้เลยด้วย! ”
“อืมม ถ้างั้นล่ะก็ ทานให้อร่อยนะคะ? ”
นี่คงเป็นครั้งแรกที่ทั้งสามคนได้เห็นอะไรแบบนี้ ทุกคนหยิบช้อนขึ้นมาค่อยๆ ตักเยลลี่ละเลียดใส่ปากของตัวเอง ค่อยๆเคี้ยวและกลืนลงไปอย่างช้าๆ
“ฟุว๊า…...”
“อย่อย…...”
“นี่มันหวาน แต่ไม่หวานเกินไป แล้วยังสมดุลความหวานกับรสชาติขององุ่นที่พอดีสุดยอด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกลิ่นที่ฟุ้งขจรไปทั่วทั้งปากนี่อีก…...นี่มันแย่แล้ว แย่มากๆ ”
พอถึงตรงนี้ คุณลิลลี่ได้แต่ก้มหน้าทานเงียบๆ ไม่มีซุ่มเสียงใดๆออกมาอีก ขณะที่คุณซาเลน่านั้นก็ทำหน้าเหมือนกับมีประกายฟุ้งออกมา และคุณหัวหน้ากิลด์ก็พร่ำแสดงความเห็นประหนึ่งนักรีวิวอาหารในนิตยสาร
อื้มม ชัยชนะอย่างงดงาม ว่าแต่ชนะใคร ชนะอะไรก็ไม่รู้หรอกนะ เพราะนี่คิดไปเองคนเดียวน่ะสิ
TL note : ตอนนี้ แปลแล้วเหมือนนิยายคนละเรื่องเลยวุ้ย (ตกลงนี่เป็นแนวทำอาการเต็มตัวแล้วสินะ....)
Gunmi : image.google.com
อืม...รีเเอคชั่นเเบบ ตายเเน่ๆ!
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteเกร็ดความรู้ ซุปเปลือกกุ้ง คือ Bisqueแต่จะใช้เปลือกปูก็ได้
ReplyDelete- ความเร็วเสียงตกประมาณ340เมตรต่อวินาทีหรือประมาณ1200กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ชนะ แบบไม่ต้องแข่งกับใคร นอกจากตัวเอง ฟิน <3
ReplyDeleteตกแต่สาวๆเก่งนะนิ
ReplyDeleteบรรยายซะนึกถึงฮั้วเซ่งเฮงเลย
ReplyDeleteเนอะ... ตอนแปลนี่คือแทบอยากพุ่งตัวไปร้านอาหารจีนใกล้บ้านเลยง่ะ ; ^ ;
Deleteแต่ ฮั้วเซ่งเฮง มันร้านทอง.....
Deleteพรุ่งนี้ต้องจัดเมนูกุ้งแล้วล่ะ เอาเป็นกุ้งแม่น้ำเผาดีมะ
ReplyDeleteดีนะมาอ่านตอนนี้ตอนกลางวัน ไม่งั้นละไม่อยากคิด
ReplyDeleteหิวเฟร้ยยยยยยยยยย
ReplyDelete