046 - ดูเหมือนว่าโอเกอร์จะยังคงเป็นปัญหา แม้ว่าจะตายไปแล้วก็เถอะค่ะ







   นิ่ง!
   ด้วยความที่รู้ว่ามื้อเช้าวันนี้ ที่แคนทีนจะโกลาหลเอามากๆ ฉันเลยตัดสินใจไม่แวะไปแหละ ถึงแม้ว่าเมื่อวาน ฉันจะตรงเข้านอนเลย แต่ก็คิดวิธีรับมือเอาไว้ตั้งแต่ก่อนนอนแล้วล่ะนะ อื้ม
   เพราะงั้นเลยกำลังนั่งทานมื้อเช้าอยู่ในห้องนอนอยู่นี่ไง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลยในเมื่อฉันมีของกินตระเตรียมเอาไว้ใน【มิติกักเก็บ】รอไว้อยู่แล้ว แม้ว่าจะแอบเสียดายเงินค่าห้องที่รวมค่าอาหารเช้าเข้าไว้ในนั้นแล้วก็เถอะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ล่ะน้า

   นี่เลยทำให้หลบเลี่ยงช่วงเวลาแออัดช่วงเช้าออกจากโรงแรมมาได้อย่างปลอดภัย แน่นอนว่าโนรุนและลูกสาวก็ออกมาด้วยกันน่ะนะ
   สิ่งแรกที่ต้องทำวันนี้ก็คือจัดการธุระเรื่องโอเกอร์ที่ติดพันต่อมาจากเมื่อวาน เพราะงั้นไปที่กิลด์กันเถอะ

   ที่เดินทางมากิลด์นักผจญภัยในวันนี้ นอกจากธุระที่ว่าแล้วก็ยังมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณหัวหน้ากิลด์อีก
   ตอนนี้ก็ต้องเข้าไปติดต่อที่ช่องต้อนรับของทางกิลด์ก่อนสินะแต่ว่า…..? ทำไมถึงรู้สึกว่ามีคนเยอะกว่าปกติหว่า

      “เฮ้ย แกน่ะ”

   ขณะที่กำลังต่อคิวและหันรีหันขวางดูโน่นนี่อยู่ เสียงร้องเรียกที่เจาะจงมาที่ฉันดังขึ้น นักผจญภัยชายคนหนึ่งที่แต่งตัวเนี้ยบจนเกือบผิดปกติคนหนึ่ง ก็เดินนำพรรคพวกของเขา? เข้ามาใกล้
   อืมม เหมือนเคยเห็นเจ้าพวกนี้จากที่ไหนมาก่อน……? อ่ะ เจ้าพวกที่หัวเราะเยาะฉันเมื่อวานตอนกำลังเดินทางกลับมาที่เมืองจากบนรถเทียมม้านี่เอง

      “เฮ้ย ได้ยินมั้ยวะ! ”

      “เอ่อ... มีอะไรเหรอคะ? ”

   ตะหงิดว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นพิกล รู้สึกแย่ขึ้นมาแล้วล่ะน้าー…….

      “หมาป่านั่นน่ะ…...แกใช่มั้ย ที่เป็นคนเข้ามาแส่เรื่องเมื่อวานใช่มั้ย? ”

      “......”

      “แกเป็นคนฆ่าโอเกอร์เมื่อวานนี้ใช่รึเปล่า!? ”

   เอาไงดีล่ะー? คุณหัวหน้ากิลด์ ทำอะไรอยู่ค๊า? นี่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรที่จะช่วยรักษาสัญญาเมื่อวานเลยซักกะนิดสินะ อืมม ว่าแต่นี่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปดีมั๊ยนะ?
   ก็  โนรุนเป็นคนเด็ดหัวโอเกอร์ลอร์ดนั่น เพราะงั้นแล้วตามทฤษฎีแล้วฉันก็พูดได้เต็มปากสินะว่า ไม่ใช่ฉันว้อย ใช่มะ? เพราะงั้น เอาตามนั้นก็ละกัน

      “ไม่ใช่ค่ะ”

      “เฮ้ย อย่ามาทำเป็นเล่นแถวนี้นะ! ก็ตอนนั้นน่-”

      “ทำอะไรน่ะ! ”

   คุณหัวหน้ากิลด์มาแว้วー ช่วยทำอะไรซักอย่างทีเถ๊อะー

      “......”

      “ข้าถามว่าทำอะไรกันอยู่”

      “......แค่จะถามเรื่องเมื่อวานน่ะ”

      “นายน่ะ เซ็นยินยอมไปแล้วไม่ใช่เรอะ ว่าไม่ควรที่จะถามอะไรใดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดจะละเมิดสัญญารึไงกัน รู้รึเปล่าว่าถ้าฉีกสัญญาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
      หรือว่าจะต้องให้ข้าแจ้งเรื่องไปทางกิลด์ต้นสังกัดที่หัวเมือง หรือเมืองหลวงมั้ย? รู้ใช่มั้ยว่าหมายความว่ายังไง? ”

      “นั่นน่ะ…...”

      “งั้นก็พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”

      “......”

      “แล้วก็ ไม่ต้องเที่ยวไปพูดอะไรที่ไม่จำเป็นไปทั่วซักที หวังว่าจะเข้าใจนะ?
      ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็เตรียมตัวรับผลที่ตามมาด้วย ที่ข้าพูดนี่ชัดเจนใช่มั๊ย?

      “......เข้าใจแล้ว”

   โอ๊ー ขอถอนคำพูด ดูเหมือนคุณหัวหน้ากิลด์จะทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยล่ะค่ะ แล้วก็บางทีเจ้านักผจญภัยนี่อาจจะเป็นแค่ไอ้โง่ธรรมดาที่แต่งตัวเนี้ยบก็ได้

      “โอ๊ คุณหนู ดูเหมือนเจ้าบ้านี่จะก่อเรื่องน่าปวดหัวให้สินะ”

      “ไม่หรอกค่ะ แค่นี้ยังไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่”

      “ที่นี่คงไม่สะดวกคุยเท่าไหร่ มาทางนี้ดีกว่าครับ”

   นั่นเลยทำให้พวกเราย้ายที่มาที่ออฟฟิศด้านหลัง หลังจากที่นั่งลงบนโซฟา โดยหันหน้าประจันกัน มีโต๊ะรับแขกกั้นระหว่างกลาง คุณหัวหน้ากิลด์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

      “......ขอโทษด้วยนะ ไม่ว่าทางนี้จะใช้ไม้แข็งขนาดไหน ก็ดูเหมือนกับว่าจะมีพวกโง่โผล่ออกมาเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น”

      “ดิฉันคิดว่าพอจะเข้าใจนะคะ”

      “ถ้าตอนนี้จะพูดว่า โปรดวางใจเถอะครับ นี่อาจจะฟังดูแปลกๆ และไม่น่าเชื่อถือซักเท่าไหร่ แต่ก็มีแค่กลุ่มของหมอนั่นเท่านั้นล่ะ ที่ก่อปัญหา เพราะว่าเจ้าพวกนั้นเป็นปาร์ตี้ที่ทางทางหัวเมืองส่งมาช่วยน่ะครับ…...”
      แล้วก็เรื่องทางเจ้าเนลยังก่อปัญหาอะไรอีกมั้ยครับ? ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก ผมจะลงโทษมันเอง”

      “อ่า-…...”

   ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าเนล ตอนนี้ฉันไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่แล้วล่ะ ด้วยว่าคงเริ่มรับมือได้แล้วล่ะมั้ง

      “ก็นะ นอกนั้นคือพวกที่มีฐานประจำการอยู่ที่นี่ ซึ่งผมก็ตอกตะปูย้ำหัวหมุด ให้คำเตือนเบาๆ ลงไปแล้ว เพราะงั้นเลยไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต่อให้ไม่ทำอะไร ผมก็คิดว่าคงไม่มีใครที่นี่ กล้าเข้าไปทำอะไรให้คุณหนูลำบากใจหรอกนะ”

      “ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ? ”

      “......คุณหนู เคยคิดมั้ยครับ ว่าช่วยพวกเขาาไว้มากขนาดไหน? ”

      “คะ? ”

      “คุณหนูเคยนับมั้ย ว่าสมุนไพรที่นำส่งเข้ามาที่กิลด์ทั้งหมดมันเยอะขนาดไหน? รู้มั้ยว่าหมดนั่นทำเป็นโพชั่นได้กี่ขวดกัน? แล้วเดาซิ ว่าหลักๆ แล้วใครเป็นคนเอาโพชั่นพวกนั้นไปใช้? ”

      “เอ่อ...นักผจญภัยใช่มั้ยคะ? ”

      “ถูกต้องแล้ว นักผจญภัย พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งที่ทำน่ะ มันเป็นการช่วยพวกเขาแบบอ้อมๆ ”

      “อืม….หมายความว่าอย่างงั้นเองหรอกเหรอคะเนี่ย?”

      “ใช่ เพราะงั้นแล้ว พวกเขาไม่พูดอะไรหรอก”

   เพราะงั้นเองสินะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยแฮะ

      “ต่อไปก็ มาคุยธุระกันเถอะนะครับ เรื่องค่าตอบแทน ผมเตรียมไว้ให้แล้วล่ะ นี่ไง”

      “ค่ะ”

   ขณะที่รับถุงหนังสัตว์ที่ใส่เงินมาก็ตระหนักได้ว่า หนัก นี่มันเยอะขนาดไหนเนี่ย?

      “ทั้งหมดก็ 500 เหรียญทองน่ะ”

      “ห้ะ..?”

      “จริงๆมันควรจะมากกว่านี้อีกนะ แต่ว่า…...
      มันถูกแบ่งให้ทีมปราบปรามน่ะ ในเมื่อฟอร์มทีมขึ้นมาแล้วก็เลยต้องแจกจ่ายกันไปให้กับคนที่มาเข้าร่วมด้วย….ผลก็คือส่วนแบ่งของเธอเลยน้อยลงไป ขอโทษด้วยนะ”

      “เอ๋? ไม่นะ เดี๋ยว...นี่คือน้อยลงแล้วเหรอ? ”

      “จริงๆ แล้ว เฉพาะแค่ค่าหัวของโอเกอร์ลอร์ดอย่างเดียวอย่างต่ำก็ 2000 เข้าไปแล้ว แถมนี่ยังมีลูกฝูงอีกราวๆ 10 ตัวใช่มั้ย? เพราะงั้นนี่เลยน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่ควรจะได้อีกนะครับ”

      “หา…...”

   อืมม ในเมื่อฉันขาดคุณสมบัติขั้นต่ำ ไม่ควรจะได้สิทธิ์ในการร่วมปราบปรามด้วยซ้ำ เพราะงั้นแล้วได้แค่นี้ก็ถือว่ายอดมากแล้วล่ะ

      “ในเมื่อแม้แต่จะเข้าร่วมงานปราบปรามยังไม่ได้ เท่าไหร่ดิฉันไม่ใส่ใจหรอกค่ะ แค่ได้รับส่วนแบ่งบ้างก็พอใจแล้ว”

      “......ไม่เข้าใจคุณหนูเลยจริงๆ แต่ในเมื่อบอกว่าไม่ใส่ใจ แค่นั้นก็ช่วยผมได้มากแล้วล่ะนะ ”

      “อย่ากังวลเลยค่ะ…...อ่า นั่นสินะ”

      “หืม? มีอะไรติดขัดเหรอครับ? ”

      “จริงๆ แล้ว…...”

   ขณะที่ฉันเริ่มอธิบายสถานการณ์เมื่อคราวที่ล้มแมดบูลในหมู่บ้านทางใต้ให้ฟัง ฉันก็หยิบจดหมายที่ได้จากเจ้าหน้าที่ของกิลด์สาขา ยื่นส่งให้คุณหัวหน้ากิลด์ นี่ก็นับเป็นธุระอีกหนึ่งอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะถ้าไม่จัดการให้ถูกต้อง อาจจะเป็นปัญหาให้ตามล้างตามเช็ดทีหลังก็ได้

      “แมดบูลเหรอ…...อยากขายให้กับทางกิลด์มั้ยครับ?”

      “คือจริงๆ แล้ว…...ตั้งใจว่าจะเก็บไว้ทานน่ะค่ะ”

      “อ่า…...เข้าใจแล้วครับ เข้าใจดีเลยล่ะ”

      “ขอโทษด้วยนะคะ”

      “ไม่เป็นไรครับ แล้วชิ้นส่วนอื่นๆ ล่ะครับ? ”

      “ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง นั่นเลยทำไม่ได้น่ะค่ะ…...”

      “......น่าเสียดายจังเลยนะครับ”

   หลังจากนั้น ฉันที่พูดคุยธุระกับทางกิลด์เสร็จแล้วก็เลยว่างล่ะ ดูแล้วนี่มันเวลาทานมื้อเที่ยงพอดี เพราะงั้นจึงตัดสินใจที่จะหามื้อเที่ยงทาน

   แต่ในขณะที่กำลังออกมาจากออฟฟิศนั่นเอง ก็พบเข้ากับสองพี่น้องที่คุ้นเคยกับดี คุณลิลลี่ และคุณซาเลน่า นั่นเอง

      “หืมม? คุณลิลลี่? มาทำอะไรที่กิลด์เหรอคะ?”

      “อ๊ะ คุณเร็น!  พอดีพักเที่ยง แล้วก็วันนี้ก็อยากทานข้าวกับพี่สาวน่ะค่ะ”

      “อย่างนี้นี่เอง”

   จะว่าไปแล้ว ถ้ากลับไปที่โรงแรมตอนนี้ก็แลดูจะวุ่นวาย …...หรือว่าจะลองชวนสองคนนี้ไปทานข้าวด้วยกันดีนะ?

       “ถ้าอย่างนั้น สองคนอยากมาทานข้าวด้วยกันมั้ยคะ? ฉันมีอะไรให้ทานด้วยนะ”

      “ได้เหรอคะ!? แน่นอนค่ะ! แน่นอนค่าー! ”

   ปลาติดเบ็ดตัวใหญ่เลยแฮะ ถ้าถามว่า ได้เหรอคะ แน่นอนสิว่าต้องได้! ก็สีหน้ามีความสุขตอนทาน1 ของคุณลิลลี่นั่นมันน่ารักโพดๆ เลยนี่นา!
[1 トロ顔 (torogao) : คำนี้โผล่มาอีกแล้ว นี่คือสีหน้าตอนฟินจนเกือบเอจจินั่นเอง]

      “ดิฉันก็ดีใจนะคะที่เอ่ยปากชวนด้วย แต่มันจะดีเหรอคะ?”

      “ค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สบายมาก”

   แน่นอนค่ะ นี่ก็รอดูสีหน้าตอนฟินของคุณซาเลน่าอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่มาร่วมโต๊ะด้วยกัน นี่ก็คงแอบน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยเลย

   อ๊ะ จะว่าไปแล้ว

      “อืม นี่คุณหัวหน้ากิลด์มาทานด้วยกันมั้ยคะ? ”

      “โอ้? ผมน่ะนะ!? จะดีเหรอ? ”

      “ใช่ค่ะ ชวนคุณหัวหน้ากิลด์นั่นแหละ”

   ก็คุณหัวหน้าฯ เล่นทำสีหน้าปั้นยากมาตลอดซักพักใหญ่ๆ แล้ว นี่ก็ทำให้พลอยรู้สึกผิดไปด้วย…...พอมาคิดดูเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาอุตส่าห์เหนื่อยยากทำให้แล้ว ค่าเสียหายแค่นี้ถือว่าถูกมาก




TL note : หนูเร็นอยากเห็น torogao ของคุณหัวหน้ากิลด์ด้วยสินะ



Comments

  1. เริ่มแผ่อิทธิพลไปทั่วเมืองด้วยของกิน

    ReplyDelete
  2. หึๆๆๆๆๆ จะติดชาร์มไปซะ(charm <3)

    ReplyDelete
  3. หัวกิลสุภาพขึ้นมาทันทีเลย 5555

    ReplyDelete
  4. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  5. เฮ้อ ไปเห็นฉบับมังงะที่ดัดแปลงตัวเอกเละเทะแล้ว มาอ่านฉบับนิยายรู้สึกดีจริง ๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. มังงะท้ายที่สุดหรือระหว่างวาดสตอรี่บอร์ด ก็ต้องโดนQCใหญ่โดยนักเขียนนิยายกับ บก. อยู่ละนิ
      แปลว่าภาพ,อารมณ์,รูปแบบ เป็นแบบที่นักเขียนนิยายอยากให้ออกมานะ

      Delete
    2. This comment has been removed by the author.

      Delete
    3. ผ่าน บก. แน่ แต่เรื่องนักเขียนต้นฉบับให้คำแนะนำ

      มันเคยมีเรื่องอื่น ๆ ที่คนแต่งบ่นว่าเขาให้คำแนะนำไปแล้ว แต่ก็ยังเอาไปดัดแปลงจนเละอยู่ดี และคนข้างบนก็ให้ผ่าน

      คืออยากรู้เหมือนกันว่าคนแต่งนิยายเรื่องนี่มีส่วนร่วม หรือเห็นด้วยกับฉบับมังงะมากน้อยแค่ไหน ที่แต่งให้ตัวเอกเป็นคนโง่ เซ่อซ่าแบบนี้นะ

      Delete
    4. Process เดียวกับหนูแมงมุมนะ ฉบับมังงะถูกดัดแปลงเพิ่มในแบบที่นักเขียนรับได้ เพราะจะให้ตัวเอกมาพูดและประดิษฐ์นู่นนี่นั่น อยู่ก่อนเจอเหตุการณ์อะไรๆ มันจะหมดสเน่ห์ของมังงะไป

      ปล.ท้ายที่สุดการจะเลือกเสพอะไรก็อยู่ที่ตัวผู้อ่านเอง พอใจอันไหนก็อ่านอันนั้นครับ

      Delete
  6. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  7. พายุลูกใหม่กำลังมาแน่ๆ เลย

    ReplyDelete

Post a Comment