041 - ลองคิดดูแล้ว เจ้านั่นมันอยู่ตรงนั้นมาตลอดเลยสินะคะ








   หลังจากแปรรูปปิศาจวัว เป็น กองเนื้อที่ไร้ซึ่งความงดงาม แล้ว ฉันก็เดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน เพื่อมาพบว่ามีงานเลี้ยงจัดเตรียมรอไว้เรียบร้อย

   หยุ๊ดดดดดด! อย่ามายุ่งกับช๊านนนน! โชคร้ายที่คำขอ หรืออธิษฐานใดๆ ไม่เคยสัมฤทธิ์ และสุดท้ายก็โดนลากเข้าไปร่วมงานเลี้ยงในท้ายที่สุด
   ชาวบ้านต่างยืนกรานบอกว่า ถ้าเจ้าภาพไม่อยู่ งานก็จะกร่อยและไม่มีอะไรให้พูดถึง แต่ฉันแน่ใจว่าต่อให้ฉันไม่อยู่ก็หาเรื่องฉลองกันได้อยู่ดี แต่ถ้ามองข้ามเรื่องพวกนั้นไป มีของกินดีๆ ไว้เลี้ยงต้อนรับมันก็โอเคอยู่นะ

   เหล่าบรรดานักผจญภัยในงานเลี้ยง ต่างจ้องมาทางฉันด้วยสายตาเป็นประกาย ซึ่งทางนี้ก็ต้องพยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างสุดความสามารถ นี่ถ้าโนรุนไม่อยู่นะ มีหวังตอนนี้คงโดนล้อมหน้าล้อมหลังจากเจ้าพวกนี้แหงแซะ คุณแม่นี่เป็นเทพพยาดาจริงๆ หนูรักคุณแม่โนรุนนะคะ
   ส่วนคุณโรเบลโต กับพวกนักผจญภัยกลุ่มที่เจอกันหน้างาน ก็รวมตัวกันเล่าถึงวีรกรรมตอนที่ฉันล้มแมดบูลลงเป็นฉากๆ และชาวบ้านก็จะยกแก้วส่งเสียงเชียร์สนั่นเป็นพักๆ ซึ่งทุกครั้งที่ทำเช่นนั้น ทุกคนก็จะหันมาเพ่งความสนใจมาทางฉันล่ะ อา ตึงเกินไปแล้ว อย่างน้อยก็ปล่อยให้ฉันกินเงียบๆ เถอะนะคะ…….

   ทันทีที่สบโอกาส ฉันแอบดอดหนีกลับมาถึงโรงแรมได้อย่างปลอดภัย จากนั้นสักพักหนึ่งเจ้าหน้าที่กิลด์สาขาก็เอาจดหมายมาให้ฉบับหนึ่ง เนื้อความในนั้นกล่าวอธิบายถึงเรื่องในคราวนี้ ที่ฉันล้มแมดบูลลงได้ด้วยว่าเป็น เรื่องของการป้องกันตัว และเมื่อไรก็ตามที่เดินทางกลับฮาลูร่า ให้เอาจดหมายนี่ยื่นให้กับคุณหัวหน้ากิลด์
   ด้วยว่าจะได้เป็นการป้องกันไม่ให้ฉันโดนลงโทษตามกฏน่ะนะ ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย

   อย่างไรก็ตาม วันรุ่งขึ้นฉันก็ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ
   ต้องขอบคุณเหตุการณ์เมื่อวาน เลยทำให้ไม่ค่อยสะดวกใจในการอยู่ที่นี่ต่อซักเท่าไหร่ เพราะงั้น หลังจากที่ฉันตระเวณซื้ออาหารทะเลที่เหลือจากตลาดในช่วงเช้า ฉันก็ตัดสินใจออกไปจากหมู่บ้านนี้อย่างเงียบๆ

   ถึงจะถูก ชาวบ้าน A ที่สวนกันระหว่างทางจำหน้าได้ แต่ฉันก็พยายามทำตัวเป็นคนหูดับอย่างยิ่งยวด ไม่สนใจคำทักทายใดๆ และวิ่งหนีไป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฉันเดินทางออกจากหมู่บ้านได้พักหนึ่ง โรเบลโต้ก็ตามจนทัน และเรียกให้ฉันขึ้นรถเทียมม้าไปด้วย
   พ่อค้าหนุ่มพาฉันมาส่งลงที่สามแยกระหว่างทางที่จะไปฮาลูร่า และหัวเมือง ด้วยว่าตั้งใจที่จะตอบแทนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็นะ ชีวิตฉันง่ายขึ้นอีกเยอะเลย ขอบใจมากนะ...

   การเดินทางต่อจากนั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า ด้วยว่าต้องเดินเท้าจนกว่าจะถึงฮาลูร่า คาดเอาง่ายๆ คร่าวๆ ก็น่าจะสักราวๆ สาม หรือสี่วันมั้งนะ ?
   ถ้าคิดดูแล้ว การผลาญเวลาโอ้เอ้สิงตัวอยู่ในป่าสามอาทิตย์ เมื่อเทียบกับเดินเท้าแค่สามวัน มันก็เกินไปหน่อยจริงๆ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นะ อื้ม ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็กิจวัตรน่ะ เป็นเรื่องสำคัญนี่นา

   การเดินทางเป็นไปเช่นนั้น จนเมื่อเห็นป่าทางใต้ของเมืองอยู่ลิบๆ ทางซ้ายมือ
   คิดถึงจังเลยนะ ว่าไม่ได้หรอก...ก็เล่นออกไปเป็นเดือนนี่นา

   ตอนที่ใจลอยระลึกนับวันเวลา ว่าออกไปเสียนานเลยนะー คนสองคน ที่แลดูเหมือนนักผจญภัยก็กลิ้งถลาออกมาจากพุ่มไม้ที่เชื่อมต่อออกมาจากป่าที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล อย่างทุลักทุเลเหมือนหนีอะไรอยู่
   สองคนนั้นส่งเสียงเอะอะโวยวายหน้าถอดสี กลัวอะไรบางอย่างอยู่เรอะ? แต่ก่อนที่จะได้ทันคิดอะไรมากไปกว่านั้น โอเกอร์ตนหนึ่งก็พุ่งตามเจ้านักผจญภัยสองคนนั่นออกมาทันที

   เอ๋ โอเกอร์? ยังไงนั่น? ไม่ใช่ว่าสถานการณ์แย่สุดๆ เลยไม่ใช่เหรอ? เข้าไปช่วยได้มั้ย? แต่มันไม่เหมือนเหตุการณ์คับขันอย่างการเข้าไปช่วยคนที่ไม่มีทางสู้ อย่างพ่อค้าหรือชาวบ้านธรรมดานะ จู่ๆ เข้าไปช่วยแบบนี้จะกลายเป็นการแย่งเหยื่อมั้ย ถ้าเจ้าพวกนั้นรับมือได้ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งใช่มั้ย ทำเป็นไม่รู้ไม่สนไปใช่มะ?
   ยอมรับตรงๆเลย ว่าไม่อยากเป็นจุดสนใจโดยไม่จำเป็นอีกแล้ว เพราะงั้น ควรทำเป็นไม่สนใจได้สินะ? ขณะที่กำลังจะตัดสินใจไปแบบนั้น ตาของฉันกับหนึ่งในนักผจญภัย คนที่กำลังร่วงกองอยู่กับพื้น ก็สบกันพอดี

   “ช-ช่วยด้วยย! ”

   จัดไปค่ะ….
 
   เล็งเป้าด้วยมีดซัด • เปิดการใช้งาน「ลำกล้องอัดอากาศ」 • ความเร็ว 400กิโลเมตร/วินาที • และ…..ยิง

   ฝุ่บ!.....

   อา มีดปักกลางหัวเป๊ะ...แต่ไม่ล้ม

   ยังไงเนี่ย? ไม่แรงพอรึยังไงกัน?

   โอเกอร์ตนนั้นชะงักไป แล้วหันหน้าหาที่มาของมีด ตาของมันและฉันสบกัน
   ตอนที่คิดว่า แย่แล้ว! โอเกอร์ตัวนั้นก็ค่อยๆ ทรุด และล้มลง ถึงจะประหลาดใจนิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็ล้มมันได้ล่ะนะ
 
   คราวที่สู้กับแมดบูลหลายวันก่อน ฉันลืมใช้ลำกล้องอัดอากาศ ก่อนที่จะยิงมีดซัดออกไปด้วยความเร็ว 800กิโลเมตร/วินาที เพราะงั้น ฉันเลยตั้งใจที่จะทดสอบดูจากการยิงเมื่อตะกี้ล่ะ ตอนแรกก็คิดว่าล้มเหลวอยู่หรอกนะ แต่ผลออกมาเป็นแบบนี้ แค่ความเร็ว 400กิโลเมตร/วินาที ก็คงโอเคแล้วล่ะมั้ง?

   แถมถ้ามีดใหญ่ขนาดนั้นปักเข้าไปในหัว แล้วยังรอดปลอดภัยได้อยู่ ก็แปลกเกินไปหน่อยล่ะ
   ฉันเดินเข้าไปหานักผจญภัยผู้โชคร้ายสองคนนั้น
 
   “ไม่เป็นไรนะคะ?”

   “อ-อ่าาー รอดแล้วล่ะ”

   “อืมม ศพโอเกอร์นี่ ฉันขอนะคะ?”

   “......อ่าา ไม่มีปัญหาเอาไปได้เลย พวกเราไม่ได้ทำอะไรแต่แรกอยู่แล้วน่ะ”

   “เฮ้ย แต่เราก็สู้กับเจ้านี่เหมือนกันนะ ใช่มะ ทำไมเราไม่ได้ส่วนแบ่งล่ะ”

   “ถ้าเอ็งจะคิดแบบนั้นก็เอา จะต่อรองก็ทำไปคนเดียว แต่ข้าไม่ช่วยหรอกนะ คนเค้าอุตส่าห์เข้ามาช่วยทั้งที ข้าไม่กล้าขออะไรที่มันหน้าด้านแบบนั้นหรอกนะ”

   “......เอ่อ ที่พูดมาก็ใช่แหละ เพราะงั้นก็เชิญเอาไปเถอะครับ”


   อืมー ถ้ายื้ออีกหน่อยก็แบ่งให้แล้วล่ะ……..แต่ก็นะ ถ้าคนเค้าให้มาแล้วก็รับๆ ไปเถ๊อะ
   หลังจากที่เก็บทุกอย่างเข้าไปแล้ว ฉันก็เริ่มไถ่ถามถึงที่มาที่ไป

   “ทำไมถึงมีโอเกอร์มาโผล่ในที่แบบนี้ได้ล่ะคะ?”

   “อื๋อ? อาー เธอไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นสินะ”

   “ราวๆ อาทิตย์ก่อน มีรายงานการพบเห็นโอเกอร์ที่นี่น่ะ จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนโดนโจมตีบาดเจ็บหลายราย แต่โชคยังดีที่อย่างน้อยก็ยังไม่มีใครตาย”

   “นี่แหละ ทางกิลด์เลยประกาศทีมปราบปรามเฉพาะกิจเพื่อล่าโอเกอร์ขึ้น”

   “ดูเหมือนว่าทีมสอดแนมจะนับโอเกอร์ได้ทั้งหมด 20 ตัวน่ะ เพราะงั้นทางกิลด์เลยจัดทีมที่ว่าขึ้น มีปาร์ตี้แรงค์ C สองทีม กับ แรงค์ D อีกห้า ตอนแรกก็คือว่าเอาอยู่นะ อาจจะมีคนบาดเจ็บบ้าง แต่แค่นี้ก็น่าจะจัดการได้”

   “ใช่ๆ ถ้าเป็นอย่างที่ว่าก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่พอทีมปราบปรามเข้ามาในพื้นที่จริงๆแล้ว ดันพบว่าฝูงโอเกอร์ที่ว่าไม่ใช่แค่การรวมตัวเป็นฝูงธรรมดา แต่มันดันเป็นฝูงที่มีโอเกอร์ลอร์ด เป็นจ่าฝูงน่ะสิ”

   โอเกอร์ลอร์ด…….

   สิ่งที่ทำให้สองกรณีนี้ต่างกันออกไปก็คือ ฝูงที่มีสัตว์ประหลาดที่วิวัฒนาการเป็น คลาสปกครอง เป็นจ่าฝูง จะมีความแข็งแกร่งโดดไปมากกว่าฝูงธรรมดามาก ตัวอย่างเช่น ฝูงของก๊อปลิน ที่มีก๊อปลินคิงเป็นจ่าฝูง และกรณีนี้ก็คือ ฝูงโอเกอร์ ที่มีโอเกอร์ลอร์ดเป็นจ่าฝูง หรือกรณีใดๆ ก็ตาม ที่มีตัวที่มีแรงค์สูงกว่าอยู่ในฝูง จะทำให้ฝูงแข็งแกร่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบังคับการฝูงที่มีระเบียบมากขึ้น หรือการที่สมาชิกในฝูงได้รับผลของสกิลซัพพอร์ทต่างๆ ของตัวที่แรงค์สูงกว่าอย่างที่ว่าไป

   “กรรรร……..”

   หืม? ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่คุณโนรุนดูหงุดหงิดแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้ว เกิดอะไรขึ้นกันนะ?

   “แล้วจากนั้น เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”

   “........ตอนที่เดินทางเข้าพื้นที่ป่าก็ปกติดีอยู่พักหนึ่งล่ะนะ เจอโอเกอร์ ก็แค่หนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ถ้าแค่นั้นใช้จำนวนคนเยอะรุมก็ฆ่าพวกมันได้สบายมาก แต่หลังจากฆ่าโอเกอร์ตัวที่ห้าไป อยู่ๆ ฝูงหลักที่มีโอเกอร์ลอร์ดก็โผล่ออกมา พวกเราสู้ไม่ได้เลย ปาร์ตี้แรงค์ C สู้เต็มกำลังแล้ว ส่วนพวกแรงค์ D อย่างพวกเราทำอะไรไม่ได้ นอกจากหนีตาลีตาเหลือกเอาชีวิตรอด ”

   “พวกที่เหลือตอนนี้ก็คงกำลังสู้อยู่ในป่าฝั่งโน้น เท่าที่เห็นตอนที่พวกเราหนีออกมา ดูเหมือนจะโดนล้อมอยู่ด้วย จะให้หนีออกมาก็คงยาก…….”

   “อย่างนี้นี่เอง…...ว่าแต่อยู่ๆ โอเกอร์ลอร์ดมันโผล่มาจากไหนคะเนี่ย?”

   “ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนั้นจะอพยพมาจากป่าทางตะวันตกน่ะ เห็นว่าชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้นบางคนก็โดนโจมตีเอาด้วย”

   ป่าทางตะวันตก…….เดี๋ยวนะ ป่าทางตะวันตก? ป่าที่ฉันหนีจากมาไม่ใช่เหรอนั่น? มีตัวอันตรายอะไรแบบนี้อยู่แถบนั้นด้วยเหรอ…..หืม? เหมือนว่าฉันจะเคยคิดเรื่องอะไรคล้ายๆ แบบนี้มาก่อนใช่มะ ส่วนก็คุณโนรุนก็ดูงุ่นง่านกับอะไรซักอย่างมาซักพักแล้วด้วย เหมือนจะมีอะไรลงล็อกอยู่นะ

   ……...อ๊ะ หรือว่า

   “โนรุน ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก เธอบาดเจ็บอยู่ใช่มั้ยคะ? หรือว่าเป็นเพราะเจ้านี่ ?”

   “กรรรรรร!”

   เป๊ะเลย...

   ไอ้เจ้าตัวที่ทำร้ายโนรุนสมัยอยู่ในป่า เป็นเจ้าโอเกอร์ลอร์ดอะไรนี่ไม่ผิดแน่ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องทั้งหมดนี่ ฉันเริ่มโกรธ อยากแก้แค้นให้คุณโนรุนขึ้นมาแล้วล่ะ...….





TLnote : หมาข้า ใครอย่าแตะ.... 

Comments

  1. ได้เวลา ขุ่นแม่โนรุนแก้แค้นร้าววว

    ReplyDelete
  2. จัดไปเลยเจ้

    ReplyDelete
  3. เจอโจทย์เก่าแหละเออ

    ReplyDelete

Post a Comment