037 - หนีไปตั้งหลักเหรอ? เปล่าหรอก กำลังหนีปัญหาต่างหากค่ะ
ความสงบสุขกลับมา หลังจากการแจ้งพฤติกรรมสโตรกกิ้งของเจ้าเนล...
นั่นคือสิ่งที่อยากยืดอกพูดอย่างภูมิใจล่ะ แต่ความเป็นจริงมันช่างน่าเศร้า คุณพ่อครัวยังคงจ้องส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายอย่างต่อเนื่อง และเจ้าเนลยังคงน่ารำคาญตามตื้อเป็นวิญญาณตามติด แต่ถ้าเอาเจ้าสองตัวนี้มาเทียบกันแล้ว ไอ้คุณพ่อครัวยังโอเคกว่านิดหน่อยล่ะมั้ง? ถึงทัศนคติจะแย่ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นคนทำอาหารให้กิน
เพราะงั้นปัญหาหลักๆ ตอนนี้ก็คือเจ้าเนลนี่แหละ
หลังจากการรายงานกับทางกิลด์แล้ว ก็ดูเหมือนจะถูกเรียกตัวเข้าไปอบรมอยู่หรอกนะ แต่เหมือนว่าจะไม่เป็นผล มันยังมาตามฉันต้อยๆ อยู่
นอกจากมาซุ่มรอที่หน้าโรงแรมแล้ว ยังพยายามที่จะตามฉันกับพวกเด็กๆ ไปที่จุดหาของป่าอีก (และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ว่าเพื่อนๆ ในปาร์ตี้เป็นคนเบรคไว้) และยังมาดักรอ พยายามชวนฉันไปทานมื้อเย็นหลังจากเสร็จธุระที่กิลด์อีก
พูดไปแล้วการพยายามมาชวนฉันไปทานข้าวเย็นเนี่ย มันยังไง? ไม่เข้าใจอย่างแรง มีคนรักอยู่แล้วไม่ใช่เรอะไง? ชวนคนรักตัวเองไปแทนสิฟะ และก็ต้องขอบใจมาก เพราะตอนนี้เด็กที่ชื่อเทสก็เริ่มมองฉันด้วยสายตาแข็งๆ ด้วยแล้ว ไหงงั้นล่ะ? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อยนะ
ส่วนโครี่ก็ยังคงเห็นแก่ตัว และไร้ยางอายเหมือนเดิม ช่วงนี้พยายามมาตีเนียนทำตัวเหมือนว่าเราเป็นเพื่อนกัน ทั้งที่เป็นแค่คนรู้จักกันธรรมดาแท้ๆ แล้วก็มาพูดราวๆ ว่า แบ่งสมุนไพรที่เก็บมาได้ให้เราบ้างสิ หรือ เห็นว่าทำอาหารเก่งนี่นา ทำอะไรให้กินหน่อย ขอโทษทีนะ ไม่ใช่เรื่องอ่ะ
ฉันเริ่มสงสารเบ็คแล้วล่ะ ที่ต้องคอยคุมเจ้าสามคนนี้ แต่ขอร้องล่ะ ช่วยพยายามต่อไปเถอะนะ เพื่อความสงบสุขในชีวิตของฉันจะได้ยังคงมีอยู่ต่อไปน่ะ
หลังจากที่พยายามทนมาได้ตลอดอาทิตย์ สุดท้ายก็ไม่ไหวล่ะ ตกลงใจเป็นที่แน่นอนแล้วว่าหนีดีกว่า หรือจะพูดให้ดูดีหน่อยก็คือ ลี้ภัยชั่วคราวสินะ?
อีกเหตุผลก็คือ ฉันแอบปักธง สนใจหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่เลียบชายทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มาซักพักแล้ว ก็ตั้งแต่ไปแอบฟังเก็บข้อมูลในกิลด์มานั่นแหละ เพราะงั้น ไปที่นั่นก็ละกัน
ควรจะไปบอกคุณลิลลี่ไว้ก่อนมั๊ยนะ?
พอคิดได้ตามนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นก็บุกไปหาคุณลิลลี่ก่อนที่จะออกไปทำงานล่ะ
“คุณลิลลี่ พรุ่งนี้ดิฉันจะออกจากโรงแรมแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าจะขอคืนเงินที่จ่ายล่วงหน้าไปแล้วได้มั้ยคะ?”
“เอ๋ะ!? หมายความว่ายังไงคะ!? มีอะไรขัดข้องรึเปล่าคะ? หรือเจ้าพ่อครัวโง่นั่นทำอะไรคุณอีกแล้ว!? ”
ไม่ๆ นั่นไม่เกี่ยวเลยซักกะนิด
จากนั้น ฉันก็เริ่มสรุปเรื่องให้ฟังแบบคร่าวๆ เช่นมีสโตร์กเกอร์น่าขยะแขยงคอยตามเป็นเงา, อยากไปทะเลมาซักพักแล้ว, และจะไปไม่นาน
ซึ่งประโยคหลังนั่นเป็นความจริง ฉันวางแผนที่จะรีบไปรีบกลับ ด้วยว่าห่วงพวกเด็กๆ
ความเข้าใจผิดหายไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฟังคำอธิบายของฉัน และคำตอบเรื่องการของเงินคืนนั้นไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีนโยบายหักเงินมัดจำ ซึ่งนั่นทำให้ฉันแฮปปี้ดี๊ด๊าพอสมควร
ฉันกราดมองไปรอบๆหลังจากจากที่ก้าวพ้นประตูโรงแรมมา เจ้านั่นไม่อยู่สินะ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรจาก【ตรวจจับ】เด้งขึ้นมาด้วย เยี่ยมเลย ฉันจึงรีบแจ้นออกจากเมืองไป
ทันทีที่พ้นประตูเมือง ฉันพยายามมองหาพวกเด็กๆ แต่แค่เงยหน้าขึ้นยังไม่ทันจะมองไปรอบๆ พวกเขาก็ล้อมวงรวมตัวกันอย่างรวดเร็วเหมือนกำลังรออยู่แล้ว จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ป่าริมลำธารกันตามปกติ
ถึงแม้ว่าคำสั่งปิดพื้นที่ป่าทางใต้จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ในเมื่อป่าทางนี้มันร้างผู้คนมากกว่า พวกเราจึงลงเอยด้วยการเลือกมาที่นี่
และถึงแม้ว่าจะลงไปที่ป่าทางใต้ ก็คงไม่แคล้วป๊ะเข้ากับคณะของพวกเนลเข้าซักวัน…...ด้วยว่าพื้นที่แถบนั้นเป็นพื้นที่ล่าประจำของเจ้าพวกนั้นด้วยล่ะนะ และนั่นคือประเด็น
พวกเราแยกย้ายกระจายตัวกันออกไป ต่างคนต่างทำงาน เอาล่ะ จะบอกเมื่อไหร่ดีนะ?
ฉันตัดสินใจดึงเรื่องนี้ออกไปอีกนิดหน่อย และในที่สุดก็บอกออกไปในช่วงเบรคทานข้าวเที่ยง ซึ่งหลังจากที่รับฟังแล้ว ทุกคนดูสงบกว่าที่ฉันคิดไว้
จริงๆ แล้ว หากจะตีปฏิกิริยาของเด็กๆ ออกมาเป็นคำพูดก็คือ ก็มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ น่ะ
“ผมรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าไม่ช้าก็เร็วอะไรแบบนี้ก็ต้องเกิด ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา”
“พวกเราจะหาซื้ออาวุธมาไว้ป้องกันตัวเองด้วยล่ะ”
“ก็จะหวังพึ่งอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“จากนี้พวกเราจะไม่เข้ามาหาของป่ากันในจุดที่ลึกแบบนี้แล้วล่ะ เวลาหนีจะได้ง่ายขึ้น”
…...ทุกคนมองโลกในแง่ดีกันมาก ซึ่งก็พลอยทำให้ฉันรู้สึกดีไปด้วยล่ะ อื้ม พยายามเข้านะทุกคน
ระหว่างทางกลับ ฉันหยิบโพชั่นฟื้นฟูส่งให้ชินกับยุย แต่ไม่ได้หมายความว่านี่คือการจากลาหรอกนะ
…...แค่คิดว่านี่น่าจะเป็นหลักประกันเผื่อมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะถ้าเด็กๆ บาดเจ็บขึ้นมา พวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะไปหาหมอแน่ๆ
ถึงจะดูแลพวกเขาตลอดไปไม่ได้ แต่ ณ จุดๆ นี้ฉันก็ทิ้งพวกเขาไม่ลงแล้วล่ะ ใช่สิ ต้องอย่าลืม ว่าฉันมันเป็นพวกปากว่าตาขยิบน่ะ
ทั้งยังบอกไปอีกว่า จะเอาไปขายก็ได้นะ แต่เท่าที่เห็นจากท่าทางของสองคนนี้แล้ว คงไม่ทำแน่ๆ
ขณะที่กลับเข้าโรงแรมหลังจากจบธุระที่กิลด์เรียบร้อย ก็พอกับคุณลิลลี่ที่กำลังร้องไห้เป็นเผาเต่า
งอแงเรื่องความเหงา และของกิน อะไรราวๆ นั้น นี่ฉันสปอยเธอเยอะเกินไปใช่รึเปล่า ตอนนี้สำนึกผิดแล้วล่ะ
รุ่งขึ้นของวันที่วางแผนเอาไว้ ฉันตื่นเช้ากว่าปกติแล้วรีบเดินทางออกมา หลังจากที่ ทานขนมปังเป็นอาหารเช้า และบอกบอกลาคุณลิลลี่แล้ว ว่าแต่ลิลลี่จะไหวมั้ยเนี่ย?
ก่อนออกนอกเมือง ฉันเข้าไปที่กิลด์ โดยความตั้งใจตั้งต้น แค่คิดว่าจะกล่าวลาสั้นๆ
นี่ถ้ารับงานคุ้มกันโดยเลือกงานที่มีเป้าหมายเป็นเมืองเดียวกับที่จะไปได้ก็ดีสิ จะได้ทำเงินไปด้วยทีเดียว แต่เรื่องเศร้าคือ นักผจญภัยที่จะรับงานคุ้มกันได้ ต้องเป็นแรงค์ D ขึ้นไป หรือจะพูดให้ถูกก็คือ แนะนำที่แรงค์ D ขึ้นไป แต่นี่ยกธงขาวยอมแพ้เพราะ ฉันมันแค่นักผจญภัยแรงค์ F ห่วยๆ ล่ะนะ
บรรยากาศช่วงเช้าตรู่ในกิลด์ก็เป็นเหมือนเช่นเคย บอร์ดข่าวสารคับคั่งไปด้วยผู้คน ช่องรับเรื่องก็ด้วย อา….เจอคุณซาเลน่าแล้ว
“คุณซาเลน่าคะ”
“อ่าระ คุณเร็น? วันนี้ลมอะไรหอบมาคะเนี่ย?”
“จะมาลาน่ะค่ะ จะเดินทางลงใต้”
“เอ๋? จะเดินทางออกจากเมืองเหรอคะ?”
“อื้อ แต่วางแผนว่าจะกลับมาหลังจากนี้นะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ”
“อย่างนั้นเหรอคะ…..อ๊ะ รอซักครู่ได้มั๊ยคะ? เดี๋ยวรีบกลับมา แล้วก็ ถ้าเป็นไปได้ขอยืมบัตรประจำตัวนักผจญภัยซักครู่นึงสิคะ? ”
“คะ?”
“คุณเร็นได้รับการเลื่อนระดับเป็นแรงค์ E น่ะค่ะ เลยจะทำเรื่องให้”
“เอ๋? เลื่อนระดับ? ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ? ”
“คุณเร็นทำผลงานไว้มากมายนี่คะ เพราะงั้นเลยได้รับการเลื่อนระดับ แล้วก็ผลการตัดสินใจเลื่อนระดับเพิ่งออกมาเมื่อวานนี้เองน่ะค่ะ”
ดูเหมือนว่าจะเป็นผลพวงจากการส่งสมุนไพรล๊อตใหญ่ และต่อเนื่องให้กับทางกิลด์สินะ นี่อาจจะรวมไปถึงพวกสมุนไพรหายาก, ขายวัตถุดิบจากออร์ค, ช่วยดูแลเด็กๆ ที่เป็นนักผจญภัยแรงค์ต่ำ, แล้วก็ล้มโอเกอร์ ล่ะนะ
แต่นี่มันแค่เดือนเดียวหลังจากลงทะเบียนเองนะ ไม่เร็วเกินไปหน่อยเรอะไง?
ทั่วไปแล้ว แรงค์ของเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 จะคงอยู่ที่แรงค์เดิม เพราะงั้นตามหลักแล้ว ฉันควรจะต้องรออีกสองปี กว่าที่แรงค์จะเพิ่มระดับได้
“เรียบร้อย เสร็จแล้วค่ะ นี่ค่ะบัตรใหม่”
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เลยค่ะๆ ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะคะ”
“ค่ะ”
ตอนที่คุณลิลลี่รู้ว่าฉันจะไม่อยู่ ก็แลดูออกจะฟูมฟายขนาดนั้น เลยคิดว่าซาเลน่าคงเป็นเหมือนกัน แต่กลับง่ายๆ กว่าที่คิด แต่ก็นะ จะงอแงต่อหน้าฝูงชนขนาดนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
หลังจากมั่นใจว่าล่ำลาครบแล้ว ฉันก็เดินทางออกนอกเมือง กวาดตามองไปเห็นเด็กๆ รวมตัวกันอยู่ไกลออกไป พอเด็กๆเห็นฉันเข้า ก็มือโบกลากันยกใหญ่
ฉันจึงยกมือขึ้นโบกลาเบาๆ แล้วหันหลังเดินจากไป พอเด็กๆ เห็นดังนั้นก็หันกลับไปเดินทางไปยังจุดเก็บของป่ากันต่อ ดีแล้วล่ะ พยายามเข้าล่ะทุกคน
ขณะนั้น ก็เหลือแค่ฉัน โนรุน และเบลเหมือนเช่นเดิม แค่สามคน(?)เท่านั้น
จะว่าไป เห็นว่าระยะหลังฝีมือการล่าของเบลดีขึ้นมา งั้นคงต้องตั้งตารอดูแล้วล่ะ
ด้วยความรู้สึกเช่นนั้น พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ทะเลล่ะ
มันน่าลากมอนใส่ตาเนลให้เดี้ยงไปสักเดือนสองเดือนจริงๆ
ReplyDeleteผิดคาดแฮะนึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรซะอีกแต่นางดันชิงเผ่นก่อนแทน
ReplyDeleteอื้อออ หนีพวกงี่เง่าไปก่อนนี่แหละดีแล้ว
ReplyDeleteพวกเด็กๆนิสัยดีมากๆ เยี่ยมมากนู๋น้อยทั้งหลาย!
ReplyDelete