033 - เผลอให้ใจไปในท้ายที่สุดล่ะ
ในรอบหลายวันที่ผ่านมานี้ เจอของกินได้ใหม่ๆ หลายอย่างเลย แต่อย่างแรกที่เจอก็คือพริก ประจวบเหมาะว่ามีน้ำมันพืชอยู่ ทีนี้ก็สามารถทำน้ำมันพริกได้แล้ว
แถมยังค้นพบพริกไทยหนุ่มที่เป็นเครื่องเทศที่แพงมหาแพงเข้าอีก…...นอกจากนั้นก็ยังเจอเครื่องเทศอีกหลายอย่างเลย ตอนนี้เลยตั้งเป้า หวังเอาไว้ว่าจะทำแกงกะหรี่ได้ในซักวันล่ะ แต่น่าเสียดายว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอขมิ้นเลยสักครั้ง
แต่กลับได้เจอต้นกุ้ยช่าย1แทน ดีเลย เหมาะสำหรับเอาไว้ผัดผัก หรือใส่ซุปมิโสะมาก
[1 ニラ : ต้นกุ้ยช่าย]
และบังเอิญว่า แถบนี้ก็มีต้นคามิเลียขึ้นอยู่ทั่วพื้นที่ เพราะงั้นนี่เลยได้ตุนน้ำมันพืชเข้าคลังเพิ่มด้วย
สิ่งที่สงสัย คาใจมานานก็คือพืชพรรณไม้ทั้งหลายของโลกนี้มันอะไรกันเนี่ย? ทำไมมันมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นหลายอย่างเชียว เอาซะอยากศึกษาเจาะลึกเลยแหะ
อื้อ ในเมื่อตระเวณพื้นที่แถบนี้จนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว วันนี้เลยอยากขยับขึ้นไปทางต้นน้ำ เข้าใกล้ป่าเข้าไปให้มากขึ้นกว่าก่อนอีกหน่อย ด้วยว่าตั้งใจที่จะหาของป่าในนั้นเพิ่มเติมอีก
หลังจากที่เก็บกันได้ซักพัก ฉันก็เจอเข้ากันต้นไม้ผลที่คุ้นตา คุ้นกลิ่นเข้า กลิ่นนี้น่ะ…….บ๊วย1นี่นา? หรือพลัม? อะไรราวๆ นั้น
[1 スモモ (สุโมโมะ) : พลัม, บ๊วย ชมรูปได้ที่ท้ายบท]
จากการแสกนด้วย【ประเมินค่า】ก็พบว่าพลัมนี้กินได้ แลดูสุกเต็มที่พร้อมทานได้แล้วอีกต่างหาก เลยตัดสินใจโยนใส่ปาก ทานมันตรงนั้นเลย
อื้มมม หวานอมเปรี้ยว อร่อยยยย
จากนั้นก็สังเกตเห็นพวกเด็กๆ ที่อยู่ห่างออกไปกำลังมองมาอยู่ ฉันเลยกวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ เด็กๆ เห็นดังนั้นจึงยิ้มหน้าบาน พากันวิ่งกรูกันเข้ามา
ทุกคนเริ่มทานกันด้วยอารมณ์แจ่มใสที่ฉายออกทางใบหน้า ด้วยว่าบนโลกนี้ ของที่มีรสหวานนับเป็นของที่ไม่ได้หามาได้ง่ายๆ แม้แต่สามัญชนก็เถอะ ยังไม่ต้องพูดถึงชนชั้นที่ต่ำลงมากว่านั้นอย่างเด็กกำพร้าเลย
พอทานกันเสร็จ ฉันก็เริ่มตุนไว้ด้วยว่าตั้งใจว่าจะเอาไว้ทานทีหลัง พอเด็กๆ เห็นฉันเก็บก็ถามว่า ถ้าจะเอากลับไปทานที่บ้านบ้างได้ไหม
แหม ก็บอกไปแล้ว ว่าอยากจะทำอะไรก็ทำไปไม่ใช่เหรอ? อา แต่ถ้าเก็บกลับไปมากเกินกว่าที่จะทานได้หมด ก็เน่าเสียหมดสินะ เพราะงั้นก็เก็บไปแต่พอดีเฉพาะที่จะทานได้ก็ดีกว่า คิดว่างั้นนะ?
ขณะที่เด็กๆ เฮโลเก็บผลไม้อยู่นั้น ฉันก็ออกสำรวจพริเวณโดยรอบอีกหน่อย อ๊ะ…...โอ๊ว นั่นมัน ยามะอิโมะ1นี่นา? งั้นก็ทำข้าวโทโรโระ2ได้น่ะสิ! ขุดเลยเถอะ!
[1 山芋 (yamaimo) : แปลตรงตัวว่า “หัวมันภูเขา” ทานได้หลากหลายแบบ จะจี่กระทะก็ได้ จะหั่นไปต้มก็ได้ แต่ที่เจอบ่อยสุดคือขูด ทานสด เชื่อว่าทานแล้วจะมีกำลังวังชา มีฤทธิ์เป็นยาโป๊วอ่อนๆ เนื้อมีความเหนียว พอขูดละจะหยึยๆ ห้างญี่ปุ่นในกทม.หาซื้อแบบสดได้ แต่ต้องห้างใหญ่หน่อย (ผู้แปลโคตรเกลียดเบย มันเหมือนเมือกอะไรซักอย่าง) ยามะอิโมะเป็นพืชตระกูลเดียวกับห่วยซัว ของจีน ที่บ้านเราชอบเอามาต้มยาจีนค่ะ ชมรูปเพิ่มเติมที่ท้ายบท]
[2 とろろご飯 (Tororogohan) : มันคือการเอายามะอิโมะมาขูด ปรุงรส ราดข้าวสวยละทานค่ะ บางทีก็ตีไข่ไก่ดิบลงไปอีก บางคนว่าอร่อย แต่ผู้แปลขอยอมแพ้ค่ะ ทั้งหยึย ทั้งคาว ชมรูปเพิ่มเติมที่ท้ายบท]
พอคิดได้ตามนั้นก็ลงมือขุด หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ใช้เวทย์มนต์ธาตุดินต่างหาก เวทย์มนต์นี่มันสะดวกโยธินจริงๆ นะ
ชินเห็นว่าฉันกำลัง ทำอะไรซักอย่าง อีกแล้วจึงเดินเข้ามาหา
“ไอ้นั่นมันก็กินได้เหรอครับ? ”
“ฮืมม มันมีวิธีเอาไปทานได้หลายอย่างน่ะ เอาไปขูด นึ่ง หรืออบก็ได้ค่ะ”
“......พวกเราจะเก็บไปบ้างได้มั้ยครับ?”
“เอาสิ บอกไปแล้วไง ว่าให้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำน่ะ อ่าา แต่เวลาขุดต้องอ่อนโยนหน่อยนะ เพราะมันยาวพอสมควร ถ้าไม่ใจเย็น ฝืนใช้แรงโดยไม่ระวัง มันจะหักตรงกลางเอา ”
“ขอบคุณครับ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เลย”
แหม ไม่อยากบอกเลยให้เสียกำลังใจเลย ว่ามันค่อนข้างยากเอาการน่ะ
เอาล่ะ เริ่มกลับมาเก็บสมุนไพรแบบจริงจังซักทีดีกว่า แต่ว่าหลังจากที่เริ่มลงมือได้ครู่เดียว ฉันก็เริ่มเบื่อ แล้วก็เปลี่ยนไปจับปลาแทนล่ะ แฮร่~
พอเข้าช่วงบ่าย ฉันจึงเริ่มต้นเก็บสมุนไพรต่ออีกสักหน่อยก่อนกลับ และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ตัดสินใจกลับเร็วกว่าปกติเหมือนก่อนๆ หลังจากที่เรียกรวมพลและแจ้งเด็กๆ เรื่องมุ่งหน้ากลับ ชินกับเพื่อนๆ ที่มารวมตัว แลดูหมดแรงจริงจังจากการขุดยามะอิโมะ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผลรวมจากการออกมาหาของป่าวันนี้จึงเป็นลูกพลัมและยามะอิโมะ และวันนี้ทุกคนจะได้กินกันเต็มที่เลย
หืม ? เหงื่อไหลเข้าตา1ล่ะ
[1 ต้นฉบับใช้คำว่า 目から汗が (เหงื่อไหลออกจากตา) ค่ะ]
หลังจากรับเงินจากกิลด์สำหรับวันนี้แล้ว ก็หันไปเห็นชินกำลังกลุ้มใจกับอะไรซักอย่างอยู่ ดูเหมือนว่าทางกิลด์จะรีบซื้อยามะอิโมะด้วย เหตุนี้เด็กชายเลยกำลังกลุ้มใจว่า จะขายออกไปเพื่อเงิน หรือเก็บไว้ทานดี หืม? ฉันเหรอ? ไม่ยากเลยซักนิด ก็ในเมื่อจุดประสงค์หนึ่งเดียว และแรกสุดคือเก็บมาทานน่ะสิ พวกเด็กๆ ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมาคำนับขอบคุณแล้วแยกย้ายกัน
ฉันแบ่งพลัมให้คุณลิลลี่หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงโรงแรมแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ทานอะไรหวานๆ มานานแล้ว เลยดีอกดีใจยกใหญ่ จากนั้นก็ทานข้าว, อาบน้ำ, และเข้านอนตามปกติ
หนนี้ ฉันพยายามเว้นวรรคจากการทำอาหารกินเอง ด้วยว่าไอ้คุณพ่อครัวจ้องทาด้วยสายตาน่ากลัวแบบจริงจัง แต่ยอมรับตรงๆ เลย โคตรน่ารำคาญอ่ะ
วันถัดมา พวกเราย้ายจุดสวนทางน้ำขึ้นมา ลึกเข้าไปในป่ามากกว่าเดิม ส่วนการประกาศปิดป่าทิศใต้ชั่วคราวของกิลด์ยังไม่ถูกยกเลิกเลย แต่ในเมื่อฉันยังสามารถจับปลาได้ อยู่จุดนี้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ?
วันนี้เก็บสมุนไพรไป ก็คุยเรื่อยเปื่อยกับหนูยูอิจังไปล่ะ อื้อ สุดท้ายแล้วก็เผลอใจ ผูกพันกับพวกเด็กๆ ไปจนได้
วันนี้ได้รับรู้เรื่องราวอะไรมากมายเลยล่ะ แต่เดิมแล้ว ชินกับยูอิ เป็นลูกของพ่อค้า แต่ด้วยว่าธุรกิจไปได้ไม่ดี รวมเข้ากับอะไรหลายๆ อย่าง ประเดประดังเข้ามา ในท้ายที่สุดทั้งพ่อและแม่ของสองคนนี้ ก็ด่วนตายจากไป ทั้งสองคนเลยต้องออกมาเร่ร่อนอยู่บนท้องถนน พอรับฟังถึงตรงนี้ ความอึดอัดใจก็เริ่มแทรกเข้ามา
หลังจากนั้นพวกเขาก็หาเช่าบ้านโทรมๆ หลังนึงด้วยเงินก้อนอันน้อยนิดที่พอมีอยู่ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างอัตคัตตลอดมา ทั้งสองหาเงินด้วยการไปสมัครเป็นสมาชิกกิลด์นักผจญภัยทำงานอะไรที่พอทำได้ แต่พอเวลาผ่านไปก็พบว่าการจะหาเงินมาให้พอกับค่าเช่าบ้านเป็นเรื่องที่ลำบาก สุดท้ายก็มาลงเอยด้วยการแชร์บ้าน และช่วยกันหาค่าเช่าบ้านกับเด็กคนอื่น
อื้ม พอฟังจนถึงตอนนี้ ฉันเจ็บตรงหัวใจด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
“......เมื่อวานนี้นะ เป็นหนแรกเลย ที่หนูได้กินจนอิ่มล่ะ! แถมยังได้เอาผลไม้พวกนั้นกลับไปให้เพื่อนๆ ที่ไม่ได้มาด้วยกันอีก ต้องขอบคุณพี่สาวมากเลย”
นั่นน่ะ…...ดีแล้วล่ะนะ โอย เหงื่อไหลเข้าตาอีกแล้วล่ะ
“แต่ว่านะ ต่อให้เอาผลไม้กลับไปเยอะขนาดนั้นแล้วก็เถอะ แต่มันก็กำลังจะหมดอีกแล้ว…...นั่นแหละ ทำไมพวกหนูถึงต้องพยายามเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้มีเงินไปซื้อแป้งล่ะ!”
แป้งน่ะ นับเป็นของที่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว แม้จะเป็นของเกรดต่ำที่เจือของสกปรกอย่างทรายหรือกรวดอยู่ก็เถอะ พวกเด็กๆ สามารถหาของป่า พืชป่าทั้งหลายกลับไปกินได้นะ แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าจะให้ท้องอิ่ม ก็จำเป็นที่จะต้องกินอาหารจำพวกแป้งหรือธัญญาหารทั้งหลาย
“เคยลองทานมันฝรั่งมั้ย?”
“เอ๋?”
“มันฝรั่งมันถูกกว่าไม่ใช่เหรอ? แถมทำให้อิ่มท้องด้วยนะ”
“......มันฝรั่งมันกินไม่ได้เพราะมีพิษไม่ใช่เหรอคะ? ”
อา…...ในโลกนี้ จำแนกมันฝรั่งเป็นพืชที่มีพิษ1สินะ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมที่ฉันซื้อมันฝรั่งไปเมื่อหลายวันก่อน ถึงมีแต่คนมองมาด้วยสายตาแปลกๆ
[1 พิษของมันฝรั่งจะอยู่ที่ยอดอ่อนค่ะ (solanine กับ chaconine) แต่ต้องทานในปริมาณมากจริงๆ ถึงจะแสดงอาการออกมา อาการที่ว่ามีตั้งแต่ อาเจียร ปวดท้อง ท้องเสีย บางรายอาจจะเวียนหัว มีไข้ ]
“พิษน่ะ จะอยู่แค่ตรงตาของมันเท่านั้น ส่วนอื่นทานได้ปกตินะ”
“เอ๋? จริงเหรอ?”
อืมม จะดีกว่าถ้าทำให้ดู ทานให้เห็นเลยสินะ แถมนี่ก็เวลาพักทานข้าวเที่ยงพอดี
ฉันเรียกเอากระทะกับน้ำร้อนออกมาจาก【มิติกักเก็บ】จากนั้นตั้งไฟ ด้วยว่าน้ำที่อยู่ใน【มิติกักเก็บ】เป็นน้ำที่ร้อนอุณหภูมิสูงอยู่แล้ว จึงเดือดแทบจะในทันที จากนั้นฉันก็เรียกเอามันฝรั่งออกมา โชคดีที่มันฝรั่งที่เก็บไว้นั้น กำลังแทงยอดอ่อนออกมา เลยถือโอกาสสอนพวกเด็กๆ ไปในตัวเลย
“พิษจะอยู่แถวๆ ตา จุดที่แทงยอดออกมานี่ และจุดนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว พอตัดส่วนนี้ออกไปก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ นี่ เฉือนออกไปแบบนี้ แล้วก็คว้านเนื้อแถวๆ ตาตรงนี้ออก”
ยูอินั่งดูฉันอย่างเงียบๆ อย่างใจดใจจ่อ
“วิธีปรุงที่ง่ายที่สุดก็คือต้มค่ะ ตอนต้มจะใส่เกลือลงไปก็ได้ งั้นเดี๋ยวชุดนี้จะใส่เกลือลงไปนะ ส่วนวิธีดูว่าสุกรึยังก็แค่ลองจิ้มดูด้วยแท่งไม้...แบบนี้ เห็นมั้ยล่ะ?”
ฉันส่งแท่งไม้ให้เด็กน้อยลองด้วยตัวเอง อยากจะให้เรียนรู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะนะ
‘ทำตัวอย่างให้เป็นครู สอนวิธีการด้วยคำพูด ให้ลองทำด้วยตัวเองดู เอ่ยปากชม ผู้คนจะเรียนรู้ ’ อื้อ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อิโซโรกุจัง1เคยกล่าวไว้น่ะ และมันก็จริงตามนั้นด้วย
[1 山本五十六 (Isoroku Yamamoto) : เป็นจอมพลเรือในกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น และผู้บัญชาการทัพเรือผสมระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นคนวางแผนถล่มเพิลฮาเบอร์ด้วยค่ะ ส่วนคำพูดที่ว่าไปข้างต้นก็คือ やってみせ、言って聞かせて、させてみせ、ほめてやらねば、人は動かじ ชมรูปเพิ่มได้ที่ท้ายบท]
“อันนี้ยังแข็งไปหน่อยค่ะ แต่อันนี้แทงจนทะลุได้แล้ว”
“เพราะงั้น ปล่อยลูกที่ยังแข็งให้ต้มไปอีกหน่อยก็ได้”
หลังจากปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปสักครู่ มันฝรั่งก็สุกได้ที่ ฉันจึงเทน้ำออก แล้วปล่อยให้เย็นลง ถ้าจับตอนนี้เลยมีหวังนิ้วพองเอาง่ายๆ
ฉันใส่มันฝรั่งลงไปต้มทั้งหมด 18 ลูกล่ะ วันนี้มีกันทั้งหมด 9 คน นับรวมทั้งฉันและเด็กๆ1 เข้าไปด้วย เพราะงั้นแล้วก็เฉลี่ยคนละสองลูกสินะ
[1 ข้อสังเกต : เร็นก็เพิ่ง 11 ขวบนะ]
“แบ่งกันคนละสองลูกนะคะ”
“เอ๋? เอ่อ ให้พวกหนูกินด้วยจะดีเหรอคะ?”
“กะใจคิดว่าจะให้ทานหมดนี่ด้วยตัวคนเดียวเหรอ? ”
“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะ”
ทานมันฝรั่งหลังจากคว้านเอาตาและยอดอ่อนออกไปหมดแล้วให้ดู นี่อาจจะเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่ามันฝรั่งทานได้อย่างปลอดภัยน่ะนะ
“อ้ะ นั่นมัน-”
งั่ม-งั่ม-งั่ม อื้อ ฉันหยิบมันฝรั่งต้มสุกขึ้นมาทาน มันฝรั่งเนี่ย ทำอะไรก็อร่อยจริงๆ
หลังจากที่เด็กๆ เห็นฉันทานอะไรที่มันควรจะมีพิษได้หน้าตาเฉย ทุกคนเลยหยิบขึ้นมาลองกินดูอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
“อร่อยจัง…...”
เด็กๆ น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่มีเหตุผล จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปเก็บสมุนไพรกันต่อ หลังจากที่ทานกันจนอิ่ม
“ถ้าเจ้ามันฝรั่งนี่มันกินได้แบบนี้ ทุกคนคงได้ท้องอิ่มกันแน่ๆ …...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมาก ”
ระหว่างทางกลับ ชินกับยูอิ เดินขึ้นมาแสดงความขอบคุณ
TL : เป็นตอนที่แปลแล้วไม่หิวเลย แค่คิดถึงก็จะอ๊อกแล้ว -_-
Sumomo(plum) : http://takano.jp/takano/calendar/1138/
TororoGohan : https://amanoshokudo.jp/season/14408/
Isorokuchan : http://www.historyba.com/renwugushi/1945.html
❤
ReplyDelete