029 - ฉันเป็นคนที่มาจากดินแดนแห่งอุด้งล่ะ (โกหกน่ะค่ะ)
อรุณสวัสดิ์ค่ะ นี่เร็นเอง ตอนนี้ก็ยังปวดท้องหน่อยๆ อยู่เลยค่ะ
เอ๋? ไม่ใช่ว่าสำหรับฉันแล้ว ถ้าใช้สกิล ก็ไม่ต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำจริงๆ หรอกไม่ใช่เหรอ เหรอคะ? แหม ถ้าจะพูดแบบนั้นมันก็ใช่หรอก แต่ถ้าใช้แต่สกิลตลอดเวลา มันก็ไม่ดีนี่คะ? กล้ามเนื้อน่ะ ถ้าไม่ใช่บ่อยๆ มันก็จะไม่แข็งแรง จะฝ่อเอานะ เพราะงั้น สกิลน่ะ เอาไว้ใช้ตอนจำเป็นจริงๆ ถ้าไม่ฉุกเฉินอะไร การเข้าห้องน้ำแบบปกติจริงๆ มันก็ดีกว่าล่ะเนอะ
แต่ถึงแบบนั้น หลังจากฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันก็ใช้【ชำระล้าง】ทำความสะอาดตัวทุกครั้งนะ ก็ในเมื่อความสะอาดมันเป็นสิ่งจำเป็น
นี่ว่าจะกินมื้อเช้าก่อนแล้วจะออกไปทำงานแล้วล่ะ
มื้อเช้าวันนี้ก็เหมือนเดิมเลย ขนมปัง สลัด และซุป ...ตอนนี้ชินแล้ว
หลังจากที่เตรียมขนมปังไปเป็นเสบียงสำหรับมื้อเที่ยงวันนี้ ฉันก็โบกมือลาสาวผมม้า...หมายถึงลิลลี่น่ะ แล้วออกจากโรงแรมไป
ฉันก็พุ่งตรงไปที่ช่องต้อนรับทันทีหลังจากเดินทางถึงกิลด์แล้ว เหมือนเคย
เจ้าหน้าที่กิลด์ที่ประจำอยู่ที่ช่องต้อนรับวันนี้ คือผู้หญิงคนเดียวกับที่ทำเรื่องลงทะเบียนนักผจญภัยให้ฉันเมื่อหลายวันก่อน เธอมีผมบ๊อบสีบรอนซ์หยักศก มีออร่าความเป็นผู้หญิงแผ่ออกมา ความจริงก็คือเธอคนนี้นับเป็นผู้หญิงในอุดมคติของฉันเลยล่ะ อยู่ในสไตร์โซนเป๊ะ แนวว่าเห็นก็เครื่องติดเล็กน้อยแล้วอะไรแบบนี้
“อา วันนี้ก็จะรับเควสเก็บสมุนไพรอีกใช่มั้ยคะ?”
“ใช่แล้วค่ะ รบกวนด้วย”
“อย่างนั้นเหรอคะ? จริงๆแล้ว ถ้าเป็นเควสเก็บสมุนไพรเนี่ย ไม่ต้องเข้ามายื่นคำขอรับเควสทุกครั้งก็ได้นะคะ สามารถออกไปทำภารกิจได้เลย แล้วค่อยมายื่นเสนอขาย ที่ช่องรับซื้อวัตถุดิบของทางกิลด์หลังจากที่กลับมาแล้วทีเดียวเลยก็ได้ค่ะ”
“เอ๋?”
หลังจากที่ฟังคำอธิบายแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็น ที่จะต้องมายื่นเรื่องขอรับเควสที่เปิดรับตลอดเวลาอย่างเก็บสมุนไพรที่กิลด์ทุกครั้งก็ได้ กลายเป็นว่าเสียเวลาเปล่าๆ ปลี้ๆ แถมแลดูเด๋ออีกต่างหาก
“แต่ดิฉันชอบในทัศนะคติในการทำงานแบบนี้ค่ะ เพราะงั้นแล้วต่อไปก็พยายามเข้านะคะ”
อื้อ จะพยายามอย่างแข็งขันเปี่ยมไปด้วยพลังเลยล่ะ !
วันนี้ ขณะที่กำลังมุ่งหน้าเข้าป่า ก็มีกลุ่มคนเดินสะกดรอยตามมาอีกแล้วเหมือนเคย แต่คราวนี้ต่างออกไป เพราะมีเด็กที่แลดูอายุน่าจะต่ำว่า 13 ปี เข้ามาด้วย มีสี่คนที่อายุอานามน่าจะเกิน 13 และดูท่าทั้งสี่คนนี้อาจจะเป็นปาร์ตี้เดียวกัน? ส่วนเด็กๆ ที่ว่าดูน่าจะต่ำกว่า 13 ปีมีอยู่หกคน
ยอมรับตามตรงว่าไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะอย่างงั้นเลยคิดว่าจะทำเป็นเมินๆ ไป ต่างคนต่างเก็บ เพราะถึงยังไง ในคลังก็ยังมีที่หลายวันก่อนไล่เก็บจากหลายๆ ที่อยู่อีกเพียบ
ทันใดนั้น ฉันเหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเก็บสมุนไพรอยู่ใกล้ๆ แต่ที่กำลังเด็ดอยู่นั่นมันหญ้าธรรมดา ไม่ใช่สมุนไพร ช่วยไม่ได้น้า
“นี่ ที่เด็ดอยู่นั่นไม่ใช่สมุนไพรหรอกนะ”
“เอ๋?”
“มันดูเหมือนกันก็จริง แต่ที่เด็ดอยู่นั่นคือหญ้าธรรมดานะคะ ไม่ใช่สมุนไพรหรอก ของจริงอยู่ข้างๆ ถัดไปทางนั้นต่างหากค่ะ”
“ข-ขอบคุณครับ”
ฉันไม่ได้ตอบรับอะไรไปหรอกนะ ก็ในเมื่อนั่นน่ะ แค่พูดออกไปลอยๆ ใช่ พูดลอยๆ น่ะ
เมื่อกวาดมองไปรอบๆก็เห็นว่า บรรดาเด็กๆที่ว่าอายุต่ำว่า 13 ปีนั่นน่ะ อายุน้อยกว่าฉันทั้งนั้น
ถึงแม้ว่าเด็กพวกนั้นจะอายุราวๆ 10 ปี ไม่ต่างจากฉันมากมายอะไรก็จริง แต่ความต่างอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เด็กเหล่านั้นน่าจะเติบโตขึ้นมาแบบอดๆ อยากๆ ได้รับสารอาหารไม่พอ…...ที่พูดนี่ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันตั้งใจจะเลี้ยงดูอะไรเด็กพวกนั้นหรอกนะ
หลังจากที่ฉันก้มๆ เงยๆ เก็บมาพักใหญ่ๆ นี่มันถึงเวลาที่จะพักทานข้าวเที่ยงแล้วรึยังนะ? รู้สึกเริ่มหิวนิดๆ แล้วสิ ว่าไปแล้วก็ออกจากป่าไปพักทานข้าวดีกว่า
ฉันออกมาจากพื้นที่ป่าแล้วก็กางเต้นท์ จากนั้นก็เริ่มเตรียมอาหาร เด็กๆ ที่ตามออกมาด้วยแลดูงง สับสนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ มันไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องใส่ใจกับเด็กพวกนี้ไม่ใช่เหรอ แค่ตามมาก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเป็นหัวหน้ากลุ่มหรืออะไรเทือกนั้นสักหน่อย เพราะงั้นแล้วฉันเลยคิดว่าจะปล่อยไปไม่สนใจล่ะ
แต่ถึงแบบนั้นนั้นก็มีเด็กหนึ่งคน ที่เดินออกมาถามอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะดูกล้าๆกลัวๆ เด็กคนที่ฉันกล่าวเตือนเรื่องสมุนไพรเมื่อเช้านี่เอง
“อ-เอ่อ….ไม่เก็บต่อแล้วเหรอครับ?”
“......ตอนนี้เป็นเวลาพักทานข้าว ช่วงบ่ายฉันจะดูอีกที ว่าจะเก็บต่อหรือเปล่า แล้วก็...เราไม่ได้มาด้วยกันตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอคะ จะว่ารู้จักกัน ก็ยังไม่ใช่เลย ทำไมพวกเธอไม่ทำอะไรที่อยากทำล่ะ?”
ถึงจะฟังดูใจร้ายไปหน่อย แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะที่พูดไปมันเป็นความจริงน่ะ
เด็กพวกนี้ตามฉันมาเองตามอำเภอใจ เพราะงั้นถ้าจะมาเหมาเอาว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แบบนั้นมันก็จะเกินไปหน่อย และที่เอ่ยปากเตือนเด็กคนนั้นไปเมื่อช่วงเช้า นั่นก็แค่พูดลอยๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย
ฉันพูดความรู้สึกออกไปตรงๆ จากนั้นก็หันมาเตรียมอาหารมื้อเที่ยงของฉันต่อ
ต้องขอบคุณโนรุนล่ะ ที่ทำให้ตอนนี้มีเนื้อฮอร์นแรบบิทเหลืออีกเยอะเลย เพราะงั้นเลยคิดว่าจะเอามาย่างกับกระเทียมที่ได้มาจากตลาดเมื่อวาน แต่ตอนนี้ขอข้ามไปไม่พูดถึงขั้นตอนรายละเอียดการทำนะ ฉันกินเนื้อกระต่ายย่างกระเทียมคู่กับขนมปังที่เตรียมมาเมื่อเช้าล่ะ อิ่มแปร้เลยด้วย ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ
เด็กๆ ที่ดูเหมือนจะพักทานข้าวด้วย อยู่ระแวกนั้นก็มีแอบมาด้อมๆ มองๆ แนวว่าอยากรู้ว่าวันนี้ฉันจะกลับไปเก็บต่อมั้ย แต่เสียใจด้วยนะ วันนี้คงไม่เก็บต่อแล้วล่ะ ฉันวางแผนว่าวันนี้จะทำของกินเก็บไว้น่ะ ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะว่าฉันน่ะ อยากกินอุด้ง1น่ะสิ
[1 うどん (Udon) : เส้นบะหมี่ชนิดหนึ่ง มีความหนากว่าหมี่ชนิดอื่นๆ มาก ทำจากแป้งสาลี รสชาติคล้ายเส้นเกี้ยมอี๋(เจี้ยมบี่อี๋)บ้านเรา ชมรูปได้ที่ท้ายบท]
ในที่สุด ฉันก็หาแป้งมาได้ ซึ่งมันจะไปมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่เอามาใช้น่ะ! เพราะงั้นแล้ว เมนูคราวนี้เลยเป็นอุด้งยังไงล่ะ!
แต่น่าเสียดาย ที่ฉันไม่สามารถหาคมบุ1หรือโบนิโตะ2มาทำเมนซึยุ3สำหรับอุด้งได้ เพราะงั้นแล้วเลยวางแผนไว้ว่า จะทำซุปจากโครงกระดูกไก่ แล้วปรุงรสด้วยเกลือแทน ในเมื่อมีโครงไก่สำหรับทำซุปเก็บอยู่เยอะเลย ไม่สิ เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่ไก่หรอกนะ น่าจะเป็นนก? แต่เป็นนกอะไรซักอย่างที่ฉันไม่รู้จักน่ะ แถมเป็นนกที่ตัวโคตรใหญ่อีกต่างหาก
[1 昆布 (Kombu) : คมบุสาหร่ายชนิดหนึ่ง เป็นวัตถุดิบหลักตัวหนึ่งสำหรับการทำซุปเบสของญี่ปุ่น ชมรูปประกอบได้ที่ท้ายบทความ]
[2 鰹節(Katsuobushi) : คัตสึโอะบุชิ, โบนิโตะ ปลาทูน่าตากแห้ง เป็นวัตถุดิบหลักตัวหนึ่งสำหรับการทำซุปเบสของญี่ปุ่น ใช้โรยบนทาโกะยากิ/โอโคโนมิยากิด้วย ชมรูปประกอบได้ที่ท้ายบทความ]
[3 めんつゆ(mentsuyu) : เมนสุยุ ซอสสำหรับดิปอาหารเส้นของญี่ปุ่นทั้งหลาย เช่นอุด้ง โซบะ โซเม็ง (ซอสเดียวกับที่ใช้ดิปซารุราเม็งในร้านฮะจิบังนั่นล่ะค่ะ) ในห้างมีขายแบบสำเร็จรูปด้วย ชมรูปประกอบได้ที่ท้ายบทความ]
เอาล่ะ กลับมาตั้งสมาธิกับการปรุงอาหารตรงหน้าดีกว่า ฉันตั้งหม้อต้มน้ำ รอจนน้ำเดือด แล้วก็แยกสิ่งแปลกปลอมในน้ำทั้งหมดออกด้วย【มิติกักเก็บ】จากนั้นจึงใส่ผักที่หั่นขนาดพอดีแล้วอย่างต้นหอมญี่ปุ่น กระเทียม และขิงตามลงไป รอจนเดือดอีกรอบก็เบาไฟ ตุ๋นไปเรื่อยๆ รอให้เข้าที่
ขณะที่รอน้ำซุปให้หวาน ฉันก็มาจัดการนวดแป้งอุด้ง แต่ขี้เกียจมานั่งอธิบายทีละสเต็ปอ่ะ มันยุ่ง เพราะงั้นก็ขอข้ามไปเลยละกันนะ
เมื่อน้ำซุปเริ่มเข้าที่ ฉันกรองเครื่องต้มออกจากน้ำจนหมด ส่วนการปรุงรสชาติเดี๋ยวค่อยว่ากัน
ถัดมาคือการคลึงและตัดเส้นอุด้ง เริ่มด้วยแผ่แป้งโดให้แบน โรยแป้งลงบนแป้งโดที่คลึงแผ่ไว้ แล้วตัดแบ่งออกเป็นขนาดที่ต้องการ เท่านี้ก็เตรียมเครื่องเสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวทีเหลือค่อยไปทำต่อที่โรงแรมดีมั้ยนะ? ตอนนี้ก็เริ่มที่จะสายแล้วด้วย ส่วนเด็กๆที่ตามมาตั้งแต่เช้าก็กลับกันไปหมดแล้ว
ขณะที่เก็บกวาดเตรียมตัวกลับเข้าเมืองอยู่นั้น หันไปก็พบเข้ากับกองซากศพสัตว์ประหลาดอีกแล้ว คุณโนรุนคะ……..
หลังจากได้รับเงิน 10 เหรียญทองเล็กจากการขายสมุนไพรอีกล๊อตที่กิลด์ ฉันจึงมุ่งหน้ากลับโรงแรม อุด้งล่ะ! อุด้งล่ะ! อุ-ด้ง-ล่ะ-!
“ลิลลี่คะ ขอใช้ครัวหน่อยได้มั้ยคะ”
“ยินดีค่า!”
ไอ้ความกระตือรืนล้นแบบนั้นก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ไม่มีกะจิตกะใจจะคิดถามความเห็นจากใจแคบๆ ของคุณพ่อครัวก่อนเลยเรอะ?
ฉันเดินเข้าไปในครัว เลิกฮู้ดที่คลุมหน้าออก และเริ่มเตรียมมื้อเย็นของวันนี้ ในเมื่อวัตถุดิบถูกเตรียมไว้พร้อมสรรพอยู่แล้ว ที่เหลือก็ง่ายแล้วล่ะ ฉันเรียกหม้อ และชาม ออกมาอย่างละสองใบ แล้วก็ตามด้วยวัตถุดิบ
หม้อใบแรกใส่น้ำ อีกใบใส่น้ำซุป แล้วตั้งไฟ
ระหว่างรอให้เดือด ฉันก็นำผักกาดขาว แครอท และเนื้อสะโพกไก่ ออกมาหั่น จากนั้นก็นำทั้งหมดใส่ลงในหม้อที่เป็นน้ำซุป และลดไฟลงปล่อยให้เดือดเบาๆ จากนั้นก็ปรุงรสด้วยเกลือและโชวยุ
เมื่อน้ำเปล่าอีกหม้อเริ่มเดือด ฉันก็ใส่เส้นอุด้งสดลงไป หลังจากชั่วอึดใจหนึ่ง พอเส้นอุด้งสุก พองตัวลอยขึ้นมาที่ผิวของน้ำเดือด ฉันตักเส้นใส่ชามที่เตรียมไว้ จากนั้นจึงราดน้ำซุปและเครื่องจากอีกหม้อหนึ่งราดใส่ลงไป และเป็นอันเรียบร้อย
ฉันรีบเก็บล้างเครื่องครัว และอุปกรณ์การกิน
ฉันลากลิลลี่ให้ตามออกมาที่แคนทีน รีบออกไปทานกันเถอะ!
ซรู๊ด—! อื้อ อะหย่อย อุด้งนี่มันอร่อยจริงๆนะ! แล้วก็ จริงๆ แล้วฉันไม่ได้มาจากจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องอุด้งหรอก
ซรู๊ด—! อื้อ อะหย่อย อุด้งนี่มันอร่อยจริงๆนะ! แล้วก็ จริงๆ แล้วฉันไม่ได้มาจากจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องอุด้งหรอก
“ฮุว๊าาาาาา!”
สีหน้ามีความสุขของลิลลี่ เวลาที่เห็นของกินแบบนั้นช่างน่ารักซะจริง
ชามที่สองหมดไป คราวนี้จอดจริงๆ
“ม-ไม่ไหวแย้วค่า…...”
อุด้งนี่ช่างยอดเยี่ยม นี่ถ้าเด็กคนนี้ได้ลองทานอุด้งในน้ำซุปดาชิที่ต้มจากคมบุกับโบนิโตะจะทำหน้าแบบไหน จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ? อ่ะ ช่างมันเถอะ เอาไว้ถ้าหาวัตถุดิบมาได้ พอถึงเวลานั้นฉันจะรับผิดชอบ ทำมาให้ทานนะ
บรรดาลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ในแคนทีนเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ รวมไปถึงโวยวายร้องหาอุด้งจากในครัวบ้างแล้ว แต่อย่าคิดว่าฉันจะสนนะ ในเมื่อหนนี้ฉันเตรียมเครื่องเกือบทุกอย่างจากข้างนอกมา ที่มาขอใช้ครัวเพียงแค่ลวกเส้น และอุ่นให้เดือดเท่านั้น เพราะงั้นแล้ว การจะทำเลียนแบบจึงเป็นไปไม่ได้เลย
ฉันหนีไปอาบน้ำ โดยทิ้งลิลลี่ที่นั่งจุกเอาไว้กับพนักงานเสิร์ฟคนอื่นให้ช่วยดูแลต่อ แล้วตรงเข้านอนเลย หนหน้าทำอาหารอะไรอีกดีน้า?
หนูลิลลี่!!!
ReplyDeleteหิวเลย~
ReplyDelete