019 - ดีลขายน้ำ (ความรู้สึกที่ได้ช่วยคนอื่นมันเป็นแบบนี้นี่เองล่ะค่ะ)





   ในที่สุดก็ถึงทางหลวงละค่ะ ว่าแต่จะเดินทางไปทิศไหนดีนะ? ถนนเส้นนี้พาดจากเหนือ ลงไปทางใต้  ส่วนฮาลูร่าอยู่ทางตะวันออก เพราะงั้นแล้ว นี่เลยไม่มั่นใจว่าจะไปทางไหนดีล่ะ 

   ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองทาง ก็จะมีทางแตกแยกออกไปอีก และถ้าไปผิดทาง ก็ต้องเสียเวลาย้อนกลับทางเดิม เอาไงดีนะ ?

   หลังจากมองไปรอบๆ ก็เห็นป่าอยู่ที่ปลายทางด้านหนึ่ง และตรงกลางระหว่างนั้นก็มีเวิ้ง ที่ว่างเว้นไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยม เหมือนเจตนาที่จะถางไว้สำหรับตั้งแคมป์

   ถึงจะแลดูเสี่ยงไปสักหน่อย แต่พักค้างแรมตรงนี้จะดีมั้ยนะ ? เผื่อว่าจะมีคนผ่านมา 

   ซึ่งก็จะได้ถามทางได้ อื้ม ตามนั้นล่ะเนอะ

   เพราะงั้นแล้วพวกเราจึงเลือกเดินทางมุ่งหน้าสู่ลานพักแรมในป่าที่เห็นเมื่อสักครู่ มีใครอยู่มั๊ยค๊า ? ไม่มีใครอยู่เนอะ ? 
   นี่ทำใจให้นอนกลางที่โล่งแจ้งที่มีคนเห็นแต่ไกลจากถนนไม่ได้ เลยต้องตัดสินใจแคมป์ล่ะ ก็เพราะเตรียมตัวมาดี แคมป์ไฟจึงเสร็จในชั่วอึดใจ ไม้ฟืนก็มีอยู่ใน【มิติกักเก็บ】อยู่แล้ว จากนั้นก็กางเต๊นท์อย่างง่ายๆ ที่สร้างขึ้นมาเองด้วย ไอ้ครั้นจะทำอะไรที่แลดูโคตรน่าสงสัยอย่างเอาบ้านออกมาตั้งตรงนี้เนี่ยก็คงไม่ไหว การอยู่แบบเงียบๆ ไม่เป็นที่สะดุดตานี่ล่ะ ดีที่สุดแล้ว

   ฉันเรียกเครื่องครัว ถ้วยชามรามไหออกมาเพื่อเตรียมมื้อเย็น ตอนนี้มีเนื้อออร์คอยู่เพียบ เพราะงั้นจึงตัดสินใจว่าจะทำซุปล่ะ 
   ในขณะที่เตรียมอาหารอยู่นั่นเอง รถม้าขนาดใหญ่ก็วิ่งมาแล้วลงจอดในลานกางเต๊นท์

   มีชายหลายคนลงมาสำรวจพื้นที่รอบๆ จากนั้นก็ตั้งแคมป์อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
   
   เอาไงดีเนี่ย จะเข้าไปทักดีมั้ย?

   ถ้าเข้าไปทักทั้งที่ฮู้ดยังปิดหน้าปิดตาอยู่แบบนี้ ใครมันจะยิ้มหน้าชื่นตาบาน ตอบรับคนที่แลดูน่าสงสัยสุดๆ ขนาดนี้กัน? ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่เอาด้วยคนหนึ่งแน่ๆ ล่ะ…...คิดดังนั้นแล้วก็หันไปมองโนรุนกับลูกสาวที่กำลังกินมื้อค่ำอยู่ข้างๆ พลางสบตากับคุณแม่ โนรุนส่งสายเชิงบอกว่า ไม่ต้องห่วงไป

   ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น โนรุนยังอยู่ข้างหลัง แต่ถ้าเรื่องจะดำเนินไปในทางนั้น มันก็จะเป็นเรื่องยุ่งยาก ฉันเลยตัดสินใจที่จะนิ่ง รอประเมินสถานการณ์ไปก่อน
   ช่างเป็นคนไม่ได้เรื่องจริงๆ เลยน้า-
   
   เพราะงั้น ฉันจึงทำเป็นไม่สนใจ แล้วปรุงอาหารต่อ แต่ก่อนอื่น ขอปลอมตัวนิดนึง จ่างจ๊าง !

 『แว่นปลอมเปลือก』!  (ด้วยน้ำเสียงแหลสุดๆ)

   ฉันสร้างแว่นนี่ด้วย【เวทย์รังสรรค์】ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี่เอง


  แต่ถึงจะเรียกว่าแว่นปลอม แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่แว่นธรรมดาหรอกนะ ! คือถ้าใส่แว่นนี่แล้ว ! จะสามารถใช้【ประเมินค่า】ได้ล่ะ !
   แต่ว่า ผลของสกิลก็เทียบเท่ากับแค่ LV2 เองอ่ะนะ แถมด้วยทุกครั้งที่ใช้งานสกิล ก็จะสูบ MP อีก 10 นับว่าเป็นที่สุดของความไร้ประโยชน์

   แต่จริงๆ แล้ว สกิลติดแว่นปลอมที่ถูกตั้งให้สูบ MP เยอะขนาดนั้น ก็ไม่ได้เพื่อใว้ใช้งานจริงหรอก แต่มีไว้เพื่อพลางคนนอกจากสกิล【ประเมินค่า】ของฉันต่างหาก เพราะเรื่องคงยุ่งยาก ถ้ามีใครมารู้เข้าว่า【ประเมินค่า】ของฉันเป็น LV9 น่ะ

   อีกเหตุผลก็เพื่อการปลอมตัวนั่นแหละ เคยได้ยินมาว่าภาพจำของคนๆ หนึ่งที่เกี่ยวกับคุณ จะเปลี่ยนไปเป็นอีกเรื่องทันที ถ้าคุณใส่แว่น เพราะงั้นแว่นนี่แหละ เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการปลอมตัวที่สุดแล้ว
   ในตอนที่สร้างเจ้าแว่นปลอมๆ นี่สำเร็จ ฉันได้รับสกิลมาสองตัวแหละ คือ【ลิขิตมนตรา1】กับ【ลิขิตสกิล2】ส่วนจะทำอะไรได้บ้างนั้น เอาไว้ค่อยว่ากันทีหลัง
[1魔法付与][2技能付与]

   ฉันหยิบแว่นปลอมๆนั่นขึ้นมาใส่ แล้วปรุงอาหารต่อ เวลาผ่านไปชั่วครู่ เสียงเดือดของซุปในหม้อใบน้อยเริ่มแว่ว กลิ่นหอมเริ่มโชยออกมา อืม น่ากินจังเลย

   “สวัสดีตอนเย็น มาแวะพักตรงนี้เหมือนกันเหรอครับ“

   มาแว้ววว– !

   “อา ใช่ค่ะ”

   อืมม ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นพ่อค้า ? ส่วนอายุก็คงราวๆ 20 ล่ะมั้ง ? ส่วนคนที่เหลือก็กำลังเตรียมอาหารอยู่ห่างออกไป หนึ่ง..สอง..มีกันทั้งหมดสี่คนสินะ?

   “เดินทางคนเดียวเหรอครับ? ”

   “ไม่ใช่หรอกค่ะ มีเพื่อนร่วมเดินทางมาด้วยน่ะ”

   จะด้วยความที่อยู่ๆ โนรุนก็โผล่มาจากข้างหลังฉัน หรือเพราะขนาดตัวของโนรุนที่ใหญ่กว่าหมาป่าปกติ ก็ไม่ทราบ ทำชายคนนั้นผงะเล็กน้อย 

   “หมาป่า...หรือครับ? ขอโทษนะครับ คุณเป็นผู้ฝึกสัตว์เหรอ?”


   “ก็..ใช่”

   โกหกทั้งเพ โนรุนเป็นเพื่อนฉันต่างหาก
   ผู้ฝึกสัตว์ คือนักผจญภัยที่จับสัตว์ประหลาด หรือปีศาจมาฝึก เพื่อใช้ต่อสู้ และฉันก็เคยได้ยินมาว่ามีผู้ฝึกสัตว์บางคนก็ จับสุนัข หรือหมาป่ามาฝึกด้วย เพราะงั้นแล้ว ถึงจะตอบแบบนั้นออกไป ก็ไม่ดูน่าสงสัยหรอก

   “ตัวใหญ่มากเลยนะครับเนี่ย หรือว่าบางทีนี่อาจจะเป็น..เกรทวูฟ? ”

   “เอ่อ ก็คล้ายๆแบบนั้นล่ะค่ะ”

   ฉันพยักหน้าพลางตอบแบบคลุมเคลือเพื่อกลบเกลื่อน ขอโทษนะคะ จริงๆ เป็นเฟนริลล่ะ แล้วก็ต่างกันเกรทวูฟ คนละเรื่องเลยด้วยล่ะค่ะ ! เกรทวูฟเนี่ย ตัวจะใหญ่กว่าทั้งหมาป่าธรรมดา และปีศาจหมาป่าเลยล่ะนะ ซึ่งโนรุนก็ตัวใหญ่มากจริงๆ เพราะงั้นก็คงไม่แปลก ที่จะเข้าใจว่าโนรุนเป็นเกรทวูฟ เอ้อ โลกนี้ยังแบ่งหมาป่าที่เล็กกว่าปกติแยกย่อยประเภทออกไปได้อีกนะ

   “อย่างนี้นี่เอง ตอนแรกก็เข้าใจว่าคุณหนูเดินทางเดียว เลยสงสัยว่าทุกอย่างราบรื่นดีมั้ย…...แต่ดูเหมือนผมจะกังวลไปเอง”

   “ไม่เลย ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะ ว่าแต่ คุณเป็นพ่อค้าเหรอคะ ? ”

   “ถูกต้องแล้วครับ ตอนนี้ผมกำลังเดินทางจาก โอนีล กลับไปยังฮาลูร่า”

   ฮาลูร่า ! นั่นช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ ! กำลังคิดอยู่เลยล่ะ ว่าจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดได้ยังไง ว่าแต่ โอนีลเหรอ...ทุกคนจะสบายดีมั้ยนะ ?

   …...ใช่แล้วค่ะ โอนีลคือเมืองที่มีสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ๆ ฉันเติบโตขึ้นมา 

   “คุณหนูเดินทางมาจากไหนเหรอครับ?”

   “อาー หนูเดินทางจากหมู่บ้านที่อยู่ในป่าน่ะค่ะ”

   นี่โกหกรัวๆ ไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้ว แต่จะให้พูดความจริงก็เห็นจะไม่ได้ เพราะงั้นก็ต้องตอแหลต่อไป ซึ่งนี่ก็ไม่ได้รู้สึกดีเลยซักนิด

   “คุณพ่อค๊า ข้าวเสร็จแล้วน้า !”

   เด็กผู้หญิงเรียกชายที่คุยด้วยกลับไปกินข้าว ดีเลย มีเด็กเดินทางมาด้วย นับตอนนี้มีทั้งหมดห้าคน ว่าแต่ คนที่เหมือนคนคุ้มกันสองคนนั้น จ้องเขม็งมาทางนี้ซักพักแล้ว
   
   “โอ๊อ  งั้นผมขอตัวนะครับคุณหนู”


   “ค่ะ ไว้เจอกัน”

   ชายพ่อค้าหันหลัง เดินทางกลับไปที่รถม้า


   หลังจากมื้อค่ำ ฉันเข้านอนทันที ช่วงกลางดึกฉันแอบรู้สึกว่ามีใครซักคน มาด้อมๆ มองๆ อยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก็นะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ โนรุนคงจัดการไปแล้วล่ะนะ


   
   กิจวัตรอ่ะเหรอ? ใครเค้าจะทำระหว่างเดินทางกัน! 
   เอ๋? ไม่เป็นไร ฉันอดกลั้นไหวหรอกน่า ! 

   เสียงกระโจกโหวกเหวกปลุกฉันตอนฟ้าสาง ยังอยากนอนต่ออีกหน่อยง่ะ…หลังจากเงี่ยหูฟังเสียงสนทนาที่ดังกว่าการคุยตามปกติ ก็พอจับได้ว่า เป็นเสียงของคุณพ่อค้าคนเมื่อวานกับคนคุ้มกัน

   …...กำลังมีปัญหากันสินะ

   “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ?”

   “อาー คุณหนู”

   …...หลังจากรับฟังเรื่องราว ก็พอสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นได้ คือน้ำที่คณะเดินทางของคุณพ่อค้าเตรียมมากำลังจะหมด
   ดูเหมือนว่า คุณพ่อค้าจะเตรียมทรัพยากรณ์ทุกอย่างรวมถึงน้ำ ในปริมาณเท่าเดิมเหมือนทุกครั้ง ที่เดินทางเส้นทางนี้  แต่นักผจญภัยขาประจำที่จ้างวานไม่มีคิวให้ เขาเลยต้องจ้างวานคนอื่นชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนักผจญภัยสองคนนี้ที่มาเป็นผู้คุ้มกันชั่วคราว จะใช้น้ำมากกว่าที่คาดไว้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่กว่าจะถึงจุดเติมเสบียงถัดไป น้ำที่เตรียมไว้จะไม่พอดื่มกิน
   และพอคุณพ่อค้าแจ้งเรื่องนี้กับคนคุ้มกัน ก็ดูเหมือนว่าจะถูกโกรธ แล้วก็โบ้ยความผิดทั้งหมดกลับไป ด้วยว่าเตรียมการมาไม่ดีพอ
   แหม เท่าที่ฟังมา แล้วตัดสินด้วยความรู้สึกจากใจจริง มันก็เป็นความผิดของทั้งสองฝั่งนั่นแหละ    

   อืมม จริงๆแล้วก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเท่าไหร่หรอกนะ แต่การที่ฝั่งนั้นมีเด็กผู้หญิงเดินทางมาด้วยมันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

   “เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจ จะแบ่งน้ำของทางนี้ไปมั้ยคะ”

   “เอ๋? จะดีเหรอครับ ? แล้วก็ ดูเหมือนกับว่าทางคุณหนูจะไม่ได้เตรียมของอะไรมามากมายเลยนี่……”

   ใช่แล้วล่ะ
   ก็สัมภาระชิ้นเดียวที่เห็น ก็แค่กระเป๋าหนังไซส์กลางใบเดียว แต่เจ้ากระเป๋าหลอกใบนี้น่ะ มีไว้เพื่ออำพลาง ก็ของทั้งหมดมันซ่อนอยู่ใน【มิติกักเก็บ】น่ะสิ

   “อ้อ หนูใช้เวทย์มนต์ธาตุน้ำได้ค่ะ”
   
   “โออ นั่นเยี่ยมไปเลยนะครับ ทั้งที่คุณหนูยังดูเด็กมากอยู่เลย ว่าแต่ที่จะแบ่งน้ำให้พวกเรานี่ จะไม่เป็นไรจริงๆ หรือครับ ?”

   พ่อค้าหนุ่มแลดูประหลาดใจ ก็เพราะปริมาณน้ำที่ใช้สำหรับการเดินทางคนเดียวกับห้าคน มันต่างกันคนละเรื่องเลย โดยปกติแล้ว การสร้างน้ำออกมาด้วยเวทย์มนต์ อย่างไรก็ต้องเสีย MP และถึงแม้ฉันจะสวมฮู้ดปิดบังใบหน้าไว้ แต่ด้วยขนาดตัวที่เล็กมากของฉันก็ถูกทำให้เข้าใจว่าเป็นเด็กได้ไม่ยาก ซึ่งก็คงถูกคาดไว้เรียบร้อยแล้วว่าไม่น่ามี MP มากพอที่จะสร้างน้ำได้มากพอสำหรับห้าคน 
   
   “ค่ะ ไม่ต้องห่วง หนูเชี่ยวชาญเวทย์มนต์ธาตุน้ำเป็นพิเศษ”

   ก็เวทย์มนต์ธาตุน้ำตอนนี้ LV 6 แล้วนี่นา

   คุณพ่อค้าแลดูดีใจมากที่ฉันแบ่งน้ำให้ไป จากนั้นก็ให้เงินมา 10 เหรียญเงินมาเป็นสินน้ำใจ 
   ยิ่งไปกว่านั้น พอรู้ว่าจุดหมายอยู่ที่ฮาลูร่าเหมือนกัน เขาก็ยังเสนอให้นั่งรถม้าเดินทางไปด้วยกันอีก
   
   การช่วยเหลือผู้อื่นนี่มันช่างเป็นสิ่งดีงามจริงๆ ลัคกี้ !

   ว่าแต่ อิสายตาของพวกคนคุ้มกันที่จ้องมาตลอดทางเนี่ย มันน่าอึดอัดจริงเลยน่ะนะ


<Prev   -  Index   - Next>


Comments

Post a Comment