015 - ความเสแสร้งจะชนะความถูกต้องดีงามอย่างงั้นหรือคะ ?
สามวันหลังจากเรื่องที่พวกสามพี่น้องบุกมา ตอนนี้ฉันกำลังหลบอยู่ในป่าใกล้ๆกับหมู่บ้านล่ะ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง เจ้าเนลก็มาดักรออยู่หน้าบ้าน แต่ฉันไม่ออกไปเจอหรอกนะ และวันถัดมาก็ยังมาอีก ไม่ได้อะไรหรอก แต่มันออกไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่หลบอยู่แต่ในบ้าน น่ารำคาญชะมัด
จากทั้งหมดที่ว่ามาทำให้เกิดความรู้สึกอึนๆ แปลกๆ ขึ้นข้างในอก มันเฟลขนาดที่ว่าไม่สามารถทำกิจวัตรได้เลยแหละ และเพื่อให้ได้วันอันแสนสุขกลับมา ฉันยอมยกธงขาว ตัดสินใจสร้างยารักษาไข้หวัดใหญ่ขึ้นมา แต่ไม่คิดจะให้กับเจ้างั่งนั่นหรอกนะ ไม่ชอบขี้หน้า เลยตั้งใจว่าจะเอาไปให้กับโคโค่แทน
เพราะอย่างงั้น ตอนนี้ฉันจึงมานั่งดักรอโคโค่ ที่ไม่รู้ว่าจะโผล่มาเมื่อไหร่ยังไงล่ะ
อื้ม แน่นอนว่าตอนนี้ฉันเป็นคนที่แลดูน่าสงสัยสุดๆ จึงเปิดใช้งานสกิล【ล่องหน】ทิ้งไว้ พอเจอยัยหนูนั่นแล้วค่อยว่ากัน คิดไปพลางขยับฮู้ดให้กระชับ พร้อม!
ว่าแต่ หมู่บ้านนี้มันสงบเงียบดีเนอะ ไม่เห็นใครสัญจรไปมา มันยังไงกันล่ะเนี่ย ?
…...นี่มันเงียบจริงจังนะ แล้วยัยเด็กโคโค่ก็ยังไม่โผล่มาซักที
เดี๋ยวนะ ไม่มีใครเดินผ่านมาแถวนี้มาซักพักนึงแล้วนะ เกิดอะไรขึ้น
หรือว่า ทุกคนอาจจะนอนซม เพราะป่วยอยู่ในบ้านกันหมดนะ
นั่นสินะคะ! ทำไมคิดไม่ได้ล่ะน่ะ…..ในขณะที่กำลังจะยอมแพ้แล้วกลับบ้านอยู่นั่นเอง ก็เห็นคนคุ้นหน้า ชาวบ้านคนแรกที่เดินผ่านมา ! โคลี่นั่นเอง
เด็กคนนั้นเป็นพวกรับมือด้วยยาก ถือว่าเป็นพวกพลังเยอะ เป็นคนประเภทที่จะรุกเร้าผู้อื่นให้รับฟังเรื่องที่ตัวเองอยากจะพูดล่ะ ซึ่งถ้าเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วยแม้แต่นิดเดียว ก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงบทสนทนา เพราะงั้น ฉันเลยตัดสินใจที่จะแอบสะกดรอยตามไปเงียบๆ น่ะนะ
หลังจากสะกดรอยตามไปซักพัก โคลี่ก็เข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะออกไปตักน้ำมาล่ะ เพราะงั้นตอนนี้ฉันจึงต้องดักรอให้โคโค่โผล่ออกมาจากบ้าน เอาล่ะ ออกมาเลย! โคโค่!
“พี่สาวแม่มด ?”
โอ๊ะโอ เจอแล้วล่ะ หรือจะพูดให้ถูกคือ เป็นคนถูกเจอตะหาก! ว่าแต่ทำไมตะกี้ฉันถึงมองไม่เห็นล่ะเนี่ย หลุดรอดสายตาของเร็นผู้นี้ไปได้ยังไง!
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ทำไมพี่สาวแม่มดถึงมาอยู่แถวนี้? ”
“คือว่า…...ฉันไม่ใช่แม่มด ตกลงมั้ย?”
“อ่ะ…...ขอโทษด้วยค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่หนหน้าหนหลังก็ระวังด้วยนะ”
…...หวังว่าจะหยุดเรื่องแม่มดอะไรนั่น ได้ล่ะนะ
“แล้วพี่สาวแม่-…...พี่สาวมาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ ?”
ก็ยังเป็นแม่มดอยู่ดีล่ะนะ เอาเถอะ ไม่อยากพูดถึงแล้ว แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องไปพูดถึงมันละกัน
“คือว่า เอานี่มาให้น่ะ พอมีวัตถุดิบอยู่พอดีล่ะ แต่ว่าแค่หนนี้เท่านั้นนะ ”
“เอ๋…...มันจะดีเหรอ !? ว่าแต่สิ่งนี้ มันมีค่ามากนี่คะ ? ”
“โทษนะ แต่เสียงดังไปแล้ว ช่วยเบาเสียงลงหน่อยนะ ”
“อ๊ะ ขอโทษด้วยค่ะ…… แต่ว่า ได้จริงๆ เหรอ”
“อื้อ…...แต่ขออย่างหนึ่ง ช่วยไปบอกหมอนั่นทีนะ ว่าไม่ต้องมาอีกแล้วจะได้มั้ย บอกตรงๆ เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่ มันน่าอึดอัดน่ะ ”
“อา…...เรื่องนั้น อืม ขอโทษด้วยนะคะ”
แม้แต่ตอนนี้ ก็อาจจะกำลังยืนรออยู่หน้าบ้านล่ะนะ
“อืม กรุณาอย่าลืมเอาเรื่องนี้บอกด้วยนะคะ”
“ค่ะ !”
เท่านี้ หวังว่าวันคืนที่สงบเงียบของฉันจะกลับมา แต่ถ้ายังมีเรื่องอะไรแบบนี้ไม่จบสิ้น ก็คงต้องตัดสินใจย้ายบ้านล่ะนะ
“งั้น ขอตัวล่ะ”
“อื้ม ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เอ้อ ฝากอีกเรื่องนึงได้มั้ย? คือว่า การปรุงยานี่ มันมีส่วนผสมสำคัญหลายตัวเลย ที่ไม่สามารถหาได้ในฤดูนี้ เพราะงั้นแล้วอันนั้นน่ะ เป็นชิ้นสุดท้ายแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะอยากได้แค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเพิ่มแล้วล่ะ ถ้ามีใครมาถาม ก็อยากให้บอกเค้าไปแบบนั้น ตกลงนะ ? ”
“......ค่ะ เข้าใจแล้ว หนูจะบอกทุกคน แบบนั้น”
…...ไม่จำเป็นต้องบอก ทุกคน ตามตัวอักษรแบบนั้นก็ได้มั้งนะ ?
“ไว้เจอกันนะ ?”
“อื้ม บ๊ายบาย !”
เอา-ล่ะ กลับบ้านๆ วันนี้ก็ไม่อยากที่จะขยับตัวทำอะไรอีกแล้วล่ะ
แต่ก็เป็นไปตามคาด เมื่อกลับมาถึงบ้าน หมอนั่นก็ยืนดักรออยู่หน้าบ้านจริงๆ เพราะงั้น ฉันเลยออกไปเตร็ดเตร่อยู่รอบๆ จนเย็น ถึงกลับเข้าบ้านได้
ไม่กี่วันถัดมา
ตึงตึงตึง !
มีใครมาเคาะประตูปึงปังหน้าบ้านแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ฟะ ? ง่วงว้อย......
ตึงตึงตึง !
ตึงตึงตึง ! ตึงตึงตึง !
หนวกหูชะมัด ! จะนอน !
ฉันคลานออกมาจากเตียง เพื่อประคองตัวลงมาชั้นล่าง ขณะที่กำลังจะเปิดประตูก็ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ ว่าตอนนี้ยังอยู่ในชุดนอน จึงเปิด【มิติกักเก็บ】เพื่อเปลี่ยนชุด เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนแบบฉับพลันทันที ซึ่งช่วยประหยัดเวลาจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละชิ้นไปได้มาก
หลังจากชุดถูกเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงปลดล๊อกและเปิดประตู อา! สว่างจัง!
“อ๊ะ…...”
หง่ะ เจ้าเนลนี่หว่า ทำไมถึงมาแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ? ทั้งที่ปกติแล้ว จะมาถึงราวๆ ช่วงบ่าย
“เอ่อ คือว่า…..”
…...อิหยังล่ะนั่น กิริยาท่าทางไม่เห็นห้าวเหมือนหนก่อนๆ เหนียมผิดไปจากทุกที มีอะไรผิดไปจากปกติรึไงกันนะ ?
“คือ เอ่อ….แบบว่า”
อ๊ะ ฉันไม่ได้ปิดหน้าอยู่นี่หว่า ! ฉันรีบปิดประตูกระแทกใส่ แล้วเปิด【มิติกักเก็บ】เพื่อเรียกเสื้อคลุมออกมาทันที พลางยกฮู้ดขึ้นมาปิด แล้วจึงเปิดประตูออกไปอีกรอบ
“......อรุณสวัสด์ค่ะ”
“อ่ะ คือว่า อรุณสวัสด์…...ครับ”
เกือบไปแล้ว เกือบพลาดแล้วไง รอดมาได้อย่างฉิวเฉียด …..แม้ว่าจริงๆ คือพลาดไปเรียบร้อยแล้วต่างหาก ที่พล่ามไปข้างต้นนั่น คือการหนีความจริง...
“ธุระอะไรที่ทำให้ต้องมาหาแต่เช้าตรู่ขนาดนี้เหรอคะ? ไม่ได้ข้อความที่ฝากบอกไปเหรอคะ ?”
“ไม่.. คือ ได้รับข้อความแล้ว แต่ว่า แค่อยากมาขอบคุณ เลยออกมาหาแต่เช้าตรู่แบบนี้”
“หืม ถ้าอย่างนั้น ก็ขอรับคำขอบคุณเอาไว้ค่ะ เพราะงั้นแล้วกรุณากลับไปเถอะนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน! แค่อยากมาขอบคุณจริงๆ ! ยัยน้องสาวบอกมาว่า ยานั่นน่ะ ทำได้เป็นชิ้นสุดท้าย ทำเพิ่มอีกไม่ได้แล้ว แล้วยังอุตส่าห์เอาของมีค่าขนาดนั้นมาให้...”
“ค่ะ รับทราบแล้ว เพราะงั้นกรุณากลับไปได้แล้วล่ะค่ะ”
“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน! ฉันเอาของมาให้ด้วย พืชผักพวกนี้น่ะ ที่บ้านของพวกเราตั้งใจเก็บเอาไว้กินช่วงฤดูหนาว ถึงจะไม่มาก แต่ก็อยากเอามาให้เป็นของตอบแทน”
“ถ้าอย่างงั้นก็จะขอรับเอาไว้ ขอบคุณมากเลยนะคะ เพราะงั้นแล้วช่วยกลับไปเถอะค่ัะ”
“ทำไมต้องไล่ให้กลับไปขนาดนั้นด้วยเล่า ! ”
“......จะหวังอะไรอยู่ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่คุณน่ะ พยายามจะเข้ามาในบ้านของฉันตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้แล้ว ยังไม่เข้าใจอีกเหรอคะ? ฉันน่ะเป็นแค่ผู้หญิงตัวคนเดียว อาศัยอยู่ในที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ เพราะอยากใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ก็เท่านั้น ที่เอายาไปให้นั่น ก็เพราะมันไม่มีทางเลือก ฉันต้องการให้คุณหยุดซักที มันน่ารำคาญมาก”
“นั่นน่ะ…….”
เนลก้มหน้าลง ถึงจะทำหน้าหงอยขนาดนั้นแต่ว่า นั่นน่ะเป็นเรื่องจริง ฉันแค่อยากอยู่แบบเงียบๆ
“ถ้าเข้าใจดีแล้วก็ช่วยกลับไปด้วยนะคะ แล้วก็อย่ากลับมาที่นี่อีก ผักพวกนี้ฉันจะรับเอาไว้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่ คือ.....”
“ค่ะ ลาก่อน”
จากนั้น เนลที่เหมือนจะล้มทั้งยืนก็กลับไป
วันที่แสนสงบสุขของฉันก็กลับมาอีกครั้ง ฉันจึงกระโดดขึ้นเตียง นอนต่อเป็นรอบที่สอง
ก้าวย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วสินะ
Comments
Post a Comment