014 - ดูเหมือนจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมล่ะค่ะ




   ไม่กี่วันผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ช่วยเด็กสาวในป่า ตอนนี้ย่างเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว อากาศบ่งบอกว่าหิมะกำลังใกล้จะตก และเนื่องจากของกินเริ่มหมด ฉันกับโนรุนจึงกำลังออกมาหาอาหารเพิ่มกันอยู่ล่ะ


   ตอนนี้ไม่สามารถเก็บเห็ดและพวกเมล็ดพืชได้แล้ว แล้วก็ดูเหมือนว่าการล่าสัตว์และเก็บของป่าก็กำลังจะถึงลิมิตของมันแล้วด้วยสิ ?  หวังว่าจะหาเสบียงมาตุนไว้ได้มากพอ และทันเวลานะ แล้วก็【มิติกักเก็บ】เนี่ย มีประโยชน์มากๆเลย เพราะเสบียงที่อยู่ในนั้นจะไม่มีวันเน่าเสีย 
   แต่ ฤดูหนาวเนี่ย...ฤดูหนาว เป็นฤดูที่ฉันจะไม่อยากทำอะไรเลย นอกจากนอนขี้เกียจ แต่มันเจ็บปวดตรงที่โลกนี้ไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ทำฆ่าเวลาเนี่ยแหละ ...สิ่งสนุกๆ...ที่ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน? ไม่ๆๆ จะทำไอ้นั่นตลอดฤดูหนาวเลยเนี่ยนะ !  ฉันไม่ใช่ลิงติดสัดนะ ! เป็นแค่สาวน้อยสุขภาพดีเท่านั้นล่ะ ! ใช่ สาวน้อยที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีมากต่างหาก !

   จะว่าไปแล้ว ถ้าจำไม่ผิด เด็กนั่นพูดเอาไว้ว่า ใช้เวลาราวครึ่งวันในการเดินทางจากหมู่บ้านมาที่นี่สินะ เพราะอย่างงั้นก็หมายความว่า ตอนนั้นฉันเดินทะลุป่าเข้ามาไกลมากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เพราะหมู่บ้านนี้ก็ตั้งอยู่ในป่าเหมือนกัน แล้วก็จากหมู่บ้านนั่นก็ต้องใช้เวลาอีกราวๆ ครึ่งวัน ในการเดินทาง ถึงจะพ้นขอบชายป่าอีกฝั่งหนึ่ง

   นี่ก็แปลว่าฉันอาจจะบังเอิญเจอคนได้มากกว่าเดิมสินะ ซึ่งคนเท่ากับปัญหา เพราะงั้นควรย้ายฐานหนีมั้ยเนี่ย ? หนีขึ้นไปทางต้นน้ำมากขึ้นไปอีกดีรึเปล่า ? แต่ถ้าเป็นเส้นทางเลียบแม่น้ำ ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหนยังไงก็มีโอกาสเจอผู้คนมากกว่าปกติล่ะนะ
   วันนี้ล้มหมีได้ตัวนึงล่ะ ตัวใหญ่ด้วยล่ะ ! เย้ ! แล้วก็ยังมีสมุนไพรหายากที่หาได้เฉพาะฤดูหนาวด้วยล่ะ ซึ่งก็หมายความว่า ตอนนี้ก็จะมีอะไรให้ทำช่วงฤดูหนาวแล้ว  เก็บสมุนไพรไง !
   ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันฮัมเพลงไปด้วย เพราะออกหาเสบียงวันนี้มีของติดไม้ติดมือกลับมาเยอะ แต่ก็ต้องชะงักเพราะเจอะเข้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญมารออยู่หน้าบ้าน เด็กวันนั้น และผู้ใหญ่สองคน ฉันรีบดึงฮู้ดขึ้นปิดหน้าทันที แขกที่ยืนรออยู่ เป็นผู้ชายหนึ่งคน และผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ปกครองของเด็กนั่นรึยังไง ? แต่ยังดูไม่แก่ขนาดนั้น พี่ชายรึยังไง ?

   “อ๊ะ คุณพี่สาวแม่มด ! ”

   ก็บอกว่าไม่ใช่แม่มดไงล่ะ ! ยัยเด็กหูตึง !

   “......เฮ้ย จะบอกว่ายัยเตี้ยนั่นน่ะเหรอ?”

   “อื้ม ใช่แล้วค่ะ ! นั่นแหละคุณพี่สาวแม่มด”

   ก็ - บอก - ว่า - ไม่ - ใช่ - !
   เยี่ยมไปเลย หน้าตาที่เหมือนกับจะพูดว่าน่าสงสัยสุดๆ ไปเลยนี่ ฉันน่ะไม่ใช่แม่มดหรอกนะคะ ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาหรอกค่ะ แล้วก็ไม่ใช่ยัยเตี้ยด้วยนะคะ !

   “เธอน่ะ เป็นแม่มดใช่มั้ย ? ”

   “......ไม่ใช่แม่มดค่ะ ฉันบอกเด็กคนนั้นไปแล้วนี่คะ”

   “อย่างงั้นเหรอ ? แต่ยัยนี่บอกว่า ได้ยาจากแม่มดมานะ”

   “ยานั่นฉันเป็นคนให้เอง และฉันไม่ใช่แม่มดค่ะ”

   “......อย่างงั้นเหรอ”

   “ค่ะ”

   ผู้ชายที่คุยด้วยคนนี้ สูงกว่าฉัน อายุคงราวๆ 16 หรือ 17 ปี ในโลกนี้จะนับว่าเป็นผู้ใหญ่บรรลุนิติภาวะเมื่ออายุ 15 ปี อายุแค่นี้ก็ดื่มแอลกอฮอร์ลกันได้แล้ว ดีเนอะ
   ผู้หญิงที่มาด้วยกันจ้องเขม็งมาตลอดตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว แลดูอายุน่าจะไล่เลี่ยกับผู้ชายล่ะมั้ง ? และแน่นอน เธอสูงกว่าฉัน แต่ฉันกำลังโตน่า สูงได้มากกว่านี้อีก ขนาดหน้าอกยังใหญ่ขนาดนี้เลยนะ !
 
   “เธออาศัยอยู่ในที่แบบนี้เหรอ ?”

   “ก็ใช่”

   “อยู่คนเดียวเหรอ ?”

   “ใช่”

   “แล้วบ้านหลังนี้มันอะไรกัน...ไม่สิ แล้วไอ้บ้านดีๆ หลังนี้มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกได้ยังไงกัน ”

   “ว่าแต่ ถามอะไรเยอะแยะมาตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้ว แล้วนี่ฉันจำเป็นต้องตอบทั้งหมดด้วยเหรอ ? ”

   “อ่ะ ไม่ นั่นน่ะ….ไม่ต้องตอบหรอก”

   “......”

 สถานการณ์ที่เริ่มจะคล้ายๆ การสอบปากคำ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ที่แน่ๆ คือไม่น่าสนใจ หรือจะเรียกว่าไม่สบอารมณ์จะถูกกว่า ฉันจะอยู่ยังไงมันก็เรื่องของฉันป้ะ? นี่ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐหรือคนที่มีสิทธิ์ถูกต้องชอบธรรม จะมาเก็บภาษีนี่ก็ยินดีจ่ายนะ แต่นี่มาพ่นมาสอบสวนอะไรก็ไม่รู้ ด้วยทัศนะคติและมารยาทแบบนี้ ทุกคนก็ต้องมีเหตุผลของตัวเองมั้ยล่ะ  ตอนแรกที่เห็นเด็กคนนั้นมาด้วย ก็วางแผนว่าจะต้อนรับด้วยดี เชิญเข้าไปในบ้านอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ถึงจะรู้สึกแย่กับเด็กน้อย แต่แค่ให้ยืนอยู่ตรงนี้ก็เหลือทนแล้ว ฉันยกมือขึ้นทาบที่ทรวงอก รู้สึกดีที่ไม่ชะล่าใจ ลงกลอนประตูบ้านเอาไว้ก่อนออกเดินทาง เพราะจากที่เห็นเชิงแล้ว เจ้าพวกนี้คงถือวิสาสะเดินเข้าไปโดยไม่ขอแน่ๆ

   “เดี๋ยวสิเนล ! ทำไมต้องก้าวร้าวแบบนั้น ! ลืมไปแล้วเหรอว่าเรามาที่นี่ทำไม ?”

   “อา โทษที แต่เธอคนนี้อยู่คนเดียวในที่แบบนี้ มันแปลกๆ น่ะ”

   “ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น ! รีบขอโทษซะสิ !”

   “อา เอ่ออ…..ตะกี้นี้ ขอโทษด้วย”

   “......ไม่เป็นไร”

   ยังดีที่ผู้หญิงที่มาด้วยยังมีสามัญสำนึกอยู่บ้าง แต่ตกลงแล้ว มาถึงนี่ด้วยเหตุผลอะไรกัน? เห็นได้ชัด ว่าคงไม่ใช่เรื่องดี พกเอาปัญหามาให้แหง…...ชักอยากหนีออกไปจากตรงนี้แล้วล่ะ

   “เอ่ออ จริงๆ แล้ว เนลที่อยู่ตรงนี้เป็นพี่ชายของโคโค่ล่ะค่ะ”

   “โคโค่ ?”

  “เอ๋? ยัยนี่ไง ที่เธอช่วยไว้ ? ที่โดนก๊อปลินโจมตี”
 
   “......อา ใช่”

   เด็กคนนี้ชื่อโคโค่สินะ ที่คราวก่อนลืมถามชื่อเอาไว้

   “เด็กคนนี้ ชื่อโคโค่สินะ”

   “ไม่รู้ชื่อเหรอ? ทั้งที่ยัยนี่บอกว่าเธอให้ค้างคืนด้วยนี่นะ”

   “ลืมถามชื่อน่ะ”

   “อ...อย่างงั้นเหรอ”

   หืมม สีหน้าซับซ้อนแบบนี้มันอะไรล่ะนั่น แต่ถึงจะทำหน้าแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันลืมกิริยาแย่ๆ ที่ทำไว้เมื่อสักครู่ได้หรอกนะ แล้วก็ นี่ไม่ได้คุยกับใครเลยมาเป็นปีๆ จะลืมถามชื่อก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ ขณะที่คิดอะไรแบบนั้น ก็ดึงฮู้ดที่แต่เดิมปิดอยู่แล้ว ให้ลงมาปิดมากขึ้น

   “เอ่อคือว่า ...ที่มาวันนี้น่ะ คือ อยากแสดงความขอบคุณน่ะ เอ่อ...ยาที่เธอให้ตอนนั้นน่ะ หลังจากแม่กินเข้าไปแล้ว แม่ก็หายดีขึ้นมาเลย ทั้งที่ยอมแพ้ไปแล้ว เอ่อ  ขอบคุณมากนะ ”

 ”อย่างงั้นเหรอคะ…...ดีแล้วล่ะค่ะ”

    ตกลงยาได้ผลสินะ ดีจังเลย เพราะก็มีความกังวลอยู่ ว่านี่น่ะเป็นโลกที่ต่างออกไป มันมีโอกาสที่จะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ แต่อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อยู่ เพราะอย่างงั้นแล้วก็คงไม่แปลก ถ้าจะเป็นโรคอื่นๆ ที่ไม่เคยเจอในชาติที่แล้ว
   ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะรักษาให้หายได้

   “เพราะงั้นแล้ว เอ่อ…..อะไรนะ ยาน่ะ! ยา ยังมีอีกมั้ย ในหมู่บ้านน่ะ ยังมีคนที่ป่วยหนักรอความช่วยเหลืออยู่อีกเยอะเลย  ...เพราะงั้นได้โปรดเถอะ”


   อุว๊า นั่นประไร ปัญหาจริงๆ ซะด้วย !

   “เอ่อ ขอความกรุณาด้วยเถอะ ! ถึงเรื่องนี้ฉันจะไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย แต่คนรักของเจ้าหมอนี่กำลังป่วย เอ่อ ฉันชื่อโครี่ เป็นพี่สาวของหมอนี่น่ะ! ยินดีที่ได้รู้จัก! เอ่อ คนรักของเจ้านี่น่ะ อาการไม่ค่อยดีแล้ว... ได้โปรดเถอะ ช่วยแบ่งยาให้เราหน่อยจะได้มั้ย ? ”

   “ คุณคนรักของคุณสินะคะ? ต้องขอโทษด้วยนะ แต่ตอนนี้ไม่มียาเหลือแล้วล่ะค่ะ แล้วก็การจะปรุงยานั่นขึ้นมาใหม่น่ะมันต้องใช้เวลา มีสิ่งที่ต้องตระเตรียมเยอะ อยู่ๆ จะให้เสกออกมาเลยมันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็ต่อให้ฉันปรุงยาให้เธอคนนั้นจริงๆ ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายถึงคนอื่นต่อ มีหวังเรื่องยุ่งยากก็จะเข้ามาหาฉันไม่หยุดไม่หย่อนแน่นอนค่ะ”

   อื้ม ไม่ช่วยหรอก ดูจากท่าทางแล้ว ทั้งสามคนแทบจะไม่พกอะไรมาเลยมีแค่สัมภาระเบาๆ เท่านั้น พูดอีกอย่างคือกะจะมาขอกันฟรีๆ สินะ ถึงแม้ฉันจะเคยเป็นคนญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น ออกจะเป็นปากว่าตาขยิบเสียด้วยซ้ำ เพราะงั้นแล้ว ฉันจะทำอะไรให้ก็ต่อเมื่อมีความอยากเท่านั้นล่ะ
   จริงๆ แล้ว การจะสร้างยานั่นน่ะ ต้องใช้ MP ถึง 100 หน่วย หมายความว่าในหนึ่งวัน ฉันสามารถสร้างขึ้นมาได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น และสำหรับวันนี้ที่มี MP เหลือแค่ครึ่งเดียวจากการล่าสัตว์และเก็บของป่าแล้ว ต่อให้มีอารมณ์จะช่วย อย่างเร็วที่สุดก็ต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ ถ้าอย่างงั้นแล้ว วางแผนจะซุกหัวนอนที่ไหนกัน ? แล้วของกินล่ะ ? จะหวังพึ่งฉันสินะ ? เสียใจด้วยนะ ธุระไม่ใช่ เพราะอย่างงั้นปฏิเสธบอกไปว่าเป็นไปไม่ได้น่ะถูกแล้ว แล้วก็นี่ไม่จำเป็นต้องบอกระยะเวลาในการสร้างยาขึ้นมาด้วย
   ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ไม่ได้ประทับใจอะไรในตัวหมอนี่เลยซักนิด แล้วก็ตั้งแต่แรกเริ่ม ฉันมีเจตนาที่จะให้ยากับเด็กที่ชื่อโคโค่นั่นต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าคนหยาบคายนี่เลย เพราะงั้นก็ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะช่วยเข้าไปใหญ่

   “อย่าพูดแบบนั้นเลย! ขอร้องล่ะ!”


   ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ


   “ปัญหาอยู่ที่เวลาค่ะ กระทั่งวัตถุดิบที่ต้องใช้ก็ไม่พอ อย่างที่บอกว่าอยู่ๆ ให้เสกออกมาวันนี้พรุ่งนี้เลยมันเป็นไปไม่ได้”

   “ต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้างล่ะ!? จะไปหามาให้!?”

   ตอนแรกนึกว่าจะยอมแพ้ แต่ดูท่าทางจะตื้อไม่เลิก เห็นได้ชัดว่าเรื่องมีแต่จะยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นจะหนีเข้าบ้านไปเลยก็คงไม่ได้  พวกไม่วายบุกตามเข้ามาทันทีที่ปลดกลอนประตูแน่ๆ รีบๆ กลับไปซะทีจะได้มั้ย

   “ทำไมล่ะ! ทั้งที่ขอร้องขนาดนี้แล้วแท้ๆ!”

   เนลกราดเข้ามา พยายามเข้ามาประชิดตัว อ๊ะ ถ้าทำแบบนั้น...

   “กรรร…!”

   หมาป่าขนาดสองเมตรเดินออกมาจากด้านหลังพร้อมเสียงขู่ ขอบใจนะ โนรุน

   “อ..อา….”

   “อย่างที่บอกไปแล้ว ต่อให้พวกคุณร้องขออีกมากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ กรุณากลับไปแต่โดยดีเถอะค่ะ ”

   สุดท้ายแล้วทั้งสามคนก็ยอมหันหลังกลับไปหลังจากโดนขู่โดยโนรุน โดยที่มีโคโค่ส่งสายตาเศร้าสร้อยส่งมา ถึงอย่างงั้นแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก

   คืนวันนั้นฉันนอนหลับไปเงียบๆ โดยที่ไม่ได้ทำกิจวัตรประจำวัน1

[1กิจวัตร : เรื่องลามกที่เร็นทำทุกวัน]



Comments