013 - ดูเหมือนว่าคุณแม่กำลังจะป่วยอยู่ล่ะค่ะ
“งืออ…...เอาไงดีล่ะเนี่ย ? ”
ฉันบ่นไป พลางมองเด็กน้อยที่กำลังสลบไสล
จะปล่อยทิ้งเอาไว้แบบนี้ก็เห็นจะไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าจะพากลับไปที่บ้าน แต่จะแอบรู้สึกว่า เดี๋ยวต้องมีปัญหาตามมาแน่ๆ …
ฉันเก็บซากศพของก๊อปลินที่เหลือเข้าไปใน【มิติกักเก็บ】เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ ซากศพพวกนี้จะล่อสัตว์นักล่าอื่นๆ เข้ามา และในตัวของสัตว์ประหลาดทั้งหลายจะมีสิ่งที่เรียกว่า หินเวทย์ฝังอยู่ ซึ่งมันสามารถเอาไปขายได้ เพราะอย่างนั้นฉันเลยเก็บศพเอาไว้ก่อน ส่วนเนื้อที่เหลือหลังจากเอาหินเวทย์ออกมาแล้ว ก็เอาไปทำปุ๋ยละกันเนอะ ? เนื่องจากเนื้อของก๊อปลินนั้น ทานไม่ได้ ไม่ว่าจะต้ม หรือทอดก็ตาม
เมื่อถึงบ้าน ฉันวางเด็กน้อยลงนอนบน โซฟาคอยล์สปริงค์ที่สร้างมาดีเกินมาตรฐาน แหม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ฉันทุ่มสุดตัวค่ะ !
จากนั้นฉันก็เตรียมเครื่องดื่มไว้ให้เด็กน้อย เผื่อว่าจะตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ถอดเสื้อคลุมหรือเอาฮู้ดออกแต่อย่างใด เผื่อไว้...สำหรับอะไรก็ไม่รู้ ? อาจจะเพราะยังไม่อยากเปิดเผยตัวล่ะมั้ง เพราะไม่ว่ายังไงก็ถือได้ว่าฉันกำลังซ่อนตัวอยู่
ฉันต้มน้ำชงชาด้วยสมุนไพรที่มี ตามด้วยน้ำผึ้ง ของหวานๆ ยังไงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วล่ะนะ ใจจริงแล้วอยากได้นมด้วยซ้ำไป แต่ไอ้การทำปศุสัตว์ในป่านี้มันเป็นไปไม่ได้เลย
“อ...อืม...”
โอ๊ะ ดูเหมือนจะตื่นแล้วล่ะ
“ตื่นแล้วเหรอ ? เป็นยังไงบ้าง ?”
เท่าที่เช็คดูบาดแผลภายนอก หลังจากพาเด็กเข้ามาในบ้านแล้ว ก็ไม่เห็นบาดแผลอะไร แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ต้องถามเผื่อเอาไว้ เพราะถึงแม้จะพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์อยู่บ้าง แต่ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ใช่หมอ
“ที่นี่? ที่ไหนคะ !? ”
เมินคำถามกันซะงั้น ! เศร้าง่ะ !
“ที่นี่คือบ้านของฉันเอง เธอถูกพวกก๊อปลินโจมตีน่ะ จำได้มั้ย ? ”
“ก๊อปลิน…… ! ”
อา พอจำได้แล้วก็ตัวสั่นเป็นลูกนกเลย
”ไม่ต้องกลัวหรอกนะ แถวนี้น่ะ ไม่มีก๊อปลินแล้วล่ะ”
“แต่ก็ยังมีหมาป่า…...หมาป่า !...... หนูจะโดนมันกินมั้ย ? ”
“ไม่หรอกค่ะ หมาป่าที่ว่าน่ะ ตอนนี้นอนอยู่ในสวนหน้าบ้าน อยากเจอมั้ยล่ะ ?”
“......ไม่”
อืมม เอาไงกับเด็กนี่ดีล่ะน่ะ ? ขณะที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ฉันก็ยื่นชาสมุนไพรให้ ….แต่เด็กน้อยหวาดระแวงจนทำท่าจะไม่รับ คิดว่าฉันจะใส่ยาพิษลงไปรึยังไง แย่ชะมัด ฉันเลยยกขึ้นมาจิบให้ดู สายตาหวาดกลัวของสาวน้อยมองตาม
“ว่าแต่ ทำไมเด็กอย่างเธอถึงเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ ป่านี้น่ะอันตรายมาก มีสัตว์ประหลาดเพ่นพ่านเต็มไปหมดเลยนะ”
“....คุณแม่ของหนูไม่สบายค่ะ”
จากนั้น เธอก็เริ่มเล่าสถานการณ์ให้ฟัง
…...อยู่ๆ คุณแม่ของเธอล้มป่วยลง ถึงที่บ้านจะไม่ได้มีเงินมากนัก แต่ก็พอที่จะซื้อหยูกยาได้ ปัญหาก็คือ ปีนี้ มีโรคระบาดเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ทำให้คนแย่งกันซื้อ ยามีไม่พอกับความต้องการ ต่อให้พอมีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้ เธอจึงดั้นด้นเข้ามาหาสมุนไพรในในป่าลึกขนาดนี้
แต่เท่าที่ฟังดูอาการสำคัญที่ยัยหนูนี่เล่า คล้ายกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อินฟลูเอนซ่า1 มาก พูดถึงไข้หวัดใหญ่แล้ว ยาที่ใช้ก็จะมี ‘ทามิฟลู’ , ‘รีเรนซ่า’ แล้วก็ ‘อินาเวีย’ 2 สินะ ? แล้วก็ เท่าที่จำได้ตอนที่ไปโรงพยาบาล ก็จะจ่ายยาปฏิชีวนะมาด้วย
[1 インフルエンザ : Influenza]
[2 タミフル : Tamiflu, リレンザ : Relenza, イナビル : Inavir]
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ คุณแม่ของหนูต้องตายแน่ๆ ….”
อา ร้องไห้ซะแล้ว เด็กร้องไห้เป็นอะไรที่สุดทนจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกนะ แต่ในฐานะอดีตพลเมืองญี่ปุ่นคนหนึ่งแล้ว คงเพิกเฉยกับอะไรแบบนี้ไม่ได้ แล้วก็ดูเหมือนคนในหมู่บ้านของเธอก็มีการล้มตายจากโรคระบาดบ้างแล้วด้วย
เท่าที่ฟังดูแล้วคำนวนคร่าวๆ เวลาผ่านไปมากกว่า 48 ชั่วโมงแล้วแน่ๆ เพราะพอแม่ของเธอเริ่มป่วยได้สอง-สามวัน ยัยหนูนี่ก็ออกเดินทางมาก็ใช้เวลาไปกว่าครึ่งวัน การป่วยในโลกที่การแพทย์ยังไม่พัฒนาแบบนี้เป็นอะไรที่น่ากลุ้มนะ ถึงแม้ถ้าได้รับยาเข้าไปแล้วอาการป่วยจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วก็เถอะ…... แต่ปัญหาคือ จะให้ยาตัวไหนดีล่ะ
ทามิฟลู กับ รีเรนซ่า ต้องแบ่งการได้รับยาหลายหน…...ที่น่ากลัวคือการหยุดรับยากลางคัน โดยที่ยังไม่ครบโดส แต่ถ้าเป็นอินาเวีย รับยาแค่ครั้งเดียว เพราะงั้นเอาตัวนี้แหละ แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีก เพราะยาตัวนี้เป็นผง การรับยาต้องใช้การพ่นสูดเข้าทางเดินหายใจ หรือจะกินก็ได้ แต่ก็มีโอกาสที่คนไข้จะสำลัก และระคายเคืองสูง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของฉันแล้วล่ะนะ เอาล่ะ【เวทย์รังสรรค์】! …... กินแรงมากกว่าที่คิดเยอะเลย เอ๋ 100 ? แพงจังวะคะ !
อาา บอกไปว่าให้พ่นสูดเข้าทางเดินหายใจจะเข้าใจมั้ยเนี่ย…..ไม่ล่ะ บอกให้กินไปเลยดีกว่า
“เอาอันนี้ให้คุณแม่ของเธอซะ”
“นี่มันคืออะไรเหรอคะ ?”
“ยา กินเข้าไปซะ แล้วทำร่างกายให้อบอุ่น นอนพักมากๆ ก็จะหายเอง”
…...อาจจะหายน่ะนะ
“ยา ? ไม่ใช่สมุนไพรเหรอคะ?”
“ไม่ใช่สมุนไพร มันคือ ยา ”
“......พี่สาว เป็นแม่มดเหรอคะ? ”
ที่ตัดสินใจไปแบบนั้น เพราะฉันก็ไม่ได้ร้ายกาจ ขนาดจะโยนเธอที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ออกไปข้างนอกในป่าลึกกลางดึกหรอกนะ
ในตอนแรก เด็กน้อยก็กล้าๆ กลัวๆ กับมื้อเย็นที่วางลงตรงหน้า แต่พอได้ลองเข้าปากไปคำหนึ่งแล้ว ก็ตักกินไม่หยุด แหงล่ะ ก็ฝืมือทำอาหารของฉัน ด้วยเครื่องปรุงรสหลายอย่างที่สร้างขึ้นมาด้วยเวทย์มนต์นี่นะ
จากนั้น ฉันก็พาเด็กหญิงเข้านอน ในห้องพักแขกที่ชั้นล่าง เด็กหญิงตื่นตาตื่นใจกับเตียงที่ฉันสร้างขึ้นมาเองกับมือมากๆ ในขณะที่ฉันมองดูกิริยาของเด็กน้อยอย่างภาคภูมิ
เช้าวันถัดมา ฉันรีบถีบส่งเธอทันทีหลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ ไม่สิ จริงๆก็แค่เดินมาส่งเธอกลับบ้านแบบปกติน่ะนะ เด็กน้อยหันมามองหลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งโบกมือลา รีบๆ ไปได้แล้ว ร่ำลาอะไรเยอะแยะ นอกเหนือจากยาแล้ว ฉันยังแถมอาหารเสริมไปอีกหลายขวด เพราะแม่เธอที่นอนซมหลายวันคงไม่มีแรงเหลือมากนัก การทดแทนสารอาหารและเกลือแร่จะเป็นการช่วยอีกทาง หลังจากที่เด็กน้อยเดินคล้อยลับไป ฉันก็ยกฮู้ดที่คลุมเอาไว้ออก อา ค่อยหายอึดอัดหน่อย
อ๊ะ ยังไม่รู้ชื่อเจ้าหนูนั่นเลย แต่จะว่าไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้บอกชื่อของฉันออกไปเหมือนกันล่ะนะ
เกร็ดความรู้ นอกจากน้ำที่ชงจากใบชา(tea)เท่านั้นที่จะเรียกชา(tea)เฉยๆได้แล้ว มีการกำหนดว่าหากใช้สมุนไพรอื่นชงให้เรียกชื่อชาสมุนไพรที่ใช้ชง
ReplyDelete- ไวน์ก็เช่นกัน กฎสากลโลกหากใช้ผลไม้อย่างอื่นนอกจากองุ่นให้ระบุด้วย