002 - ณ ตอนนี้ ฉันตัดสินใจว่าจะหนีล่ะ
แต่ถ้ายังอยู่แถวๆนี้ พวกโจรภูเขาคงโผล่มาแน่ๆ ซ้ำร้ายฉันก็ไม่รู้เสียด้วย ว่าพวกมันจะมาจากทิศไหน แต่ถ้าให้เดาก็คงปีนลงมาจากหน้าผาตรงๆ
…...เอาไงดีล่ะ? ไม่อยากโดนจับหรอกนะ ก่อนหน้าฉันเคยเห็นเจ้าพ่อค้านั่นหลายหนอยู่ รูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนอ้วนลงพุง ท่าทางเหมือนคางคกนั่นไม่มีทางลืมลงแน่
ว่าแต่ เจ้าพ่อค้านั่น ตั้งใจจะทำ ไอ้นั่น กับฉันสินะ? ถึงตอนนี้ ความทรงจำสมัยที่ยังเป็นตัวผู้ในชาติก่อน ก็พรั่งพรูออกมา ความขยะแขยงก็พลันล้นทะลักออกมาจากข้างใน เพียงแค่คิดว่าต้องทำ เรื่องอย่างว่า กับพ่อค้าที่หน้าตาเหมือนคางคกนั่น
ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่ฉันจะทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด
ก็ชาติก่อนฉันเป็นผู้ชายสุขภาพดีนี่หว่า
ถึงจะเคยประสบพานพบผ่านตากับอะไรแบบนั้นมาบ้าง จากอินเตอร์เน็ต หรือหนังสือก็ตามแต่ แต่ถ้าต้องทำอะไรแบบนั้นกับผู้ชายจริงๆ ขอตายซะดีกว่า! แต่ว่า ฉันก็ยังไม่อยากตายหรอกนะ
ฉะนั้นแล้ว ต้องรีบลุกหนีออกไปจากแถวนี้แล้วล่ะ….พลางหันหลังมองไปทางป่า ที่อยู่ทางตะวันตก
ป่าทิศนั้นหนาทึบ และกว้างใหญ่พอดูทีเดียว แล้วก็ยังได้ยินมาว่าเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ประหลาดดุร้ายมากมาย
และตอนนี้ ตำแหน่งที่ฉันอยู่ ก็แทบจะเรียกว่าใจกลางของป่านั่น มันไม่ควรจะเป็นที่ๆเด็กผู้หญิงอายุ 10 ปี ที่กำลังบาดเจ็บ ควรจะไปไม่ใช่เรอะ
….แต่ถ้ายังไม่อยากถูกรวบตัว ต้องรีบขยับแล้ว ถ้าหนีพ้นได้ ก็คงรอดออกไปใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้ แต่ว่า...
เวลาก็คงเหลือไม่มากแล้ว... ถ้าพวกโจรภูเขาปีนลงมาเจอก็จบเห่เลยนะ ไหนจะสัตว์ประหลาดที่ตามกลิ่นเลือดมาอีก ต้องรีบตัดสินใจแล้วล่ะ
สมัยที่ยังเป็นนักวิจัยในชาติก่อน การออกภาคสนามเนี่ย ไม่ใช่ทางของฉันเลย เนื่องด้วยฉันไม่ใช่พวกที่ร่างกายแข็งแรง เดินแล้วต้องแวะพักบ่อยๆ
เอาล่ะ ก่อนอื่นต้องรวบรวมเครื่องไม้เครื่องมือที่ยังใช้ได้ก่อน ฉันกวาดตามองไปรอบๆ เห็นกระเป๋าหลายใบ เศษเชือกขาดๆ เกลื่อนอยู่รอบซากเทียมม้า
ฉันเริ่มจากกระเป๋าพังๆ ใบหนึ่ง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบกับคราบเลือดเกรอะกรังบนนั้น
มองไปก็พบกับศพนอนอยู่ข้างๆ ดูเหมือนผู้เคราะห์ร้ายคนนี้จะกระเด็นออกจากเทียมม้าตอนที่ขบวนพุ่งลงมาจากหน้าผา
คอของศพบิดหันผิดทิศอย่างน่ากลัว ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น ยังมีสีหน้าทุกข์ทรมาณติดอยู่ ...และฉันรู้จักร่างนั้น
ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั้น จะมีเด็กอ่อนแอที่อายุยังไม่มาก ตายจากโลกนี้ไปในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเศร้าอะไร พวกเขาเหล่านั้นเพียงแค่โชคร้าย ความตายในโลกนี้มันง่ายดายเช่นนั้นเอง
ฉันพยายามไม่นึกถึงจริยธรรมและศักดิ์ศรีอะไรใดๆ ที่มีในชาติก่อน เวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาคำนึงเรื่องพวกนั้น ฉันจะมาหยุดตรงนี้ไม่ได้ ฉันต้องรอด
ในโลกนี้ ผู้คนตายกันอย่างง่ายดายเหมือนผักปลา แม้แต่การเดินทางธรรมดาก็ยังสามารถเจอกับโจรขโมย ผู้คนต้องเตรียมตัว ปกป้องรักษาชีวิตตัวเอง แม้จะถึงขนาดต้องพรากชีวิตคนอื่นก็เถอะ
ฉันหลับตา พลางหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างแช่มช้า จากนั้นหันไปมองที่ศพอีกหน …..โอเค พอไหว
ฉันใช้เวลาร่วมชั่วโมง เพื่อรวบรวมข้าวของที่คิดว่าจำเป็น ผ้าห่ม, มีด, เสบียงกรัง, ถุงหนังใส่น้ำดื่ม, เงินอีกเล็กน้อย, ฯลฯ
เอาล่ะ แค่นี้จะพอมั้ย? หรือควรค้นหาเพิ่มอีกหน่อย...ไม่ล่ะ ควรต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้วสินะ เพราะอีกไม่นานพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ควรรีบออกเดินทางได้แล้ว
“เจ็บ...”
ถึงตะกี้จะลืมไปชั่วขณะ แต่เนื้อตัวก็มีแต่แผลถลอกปอกเปิกไปหมด ถึงจะเจ็บปวดขนาดไหน...ก็ต้องฝืนเดินทางต่อเท่านั้น
หลังจากเดินมาได้ช่วงเวลาหนึ่ง ฉันก็นั่งพักใต้ต้นไม้
สติเริ่มเลือนลาง
สารร่างเริ่มประท้วงด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้น ความทรงจำจากโลกก่อนก็ทะลักออกมา ผสมปนเปกับความทรงจำ 10 ปีที่ผ่านมาของชาตินี้
ตอนนี้ฉันเป็นใครกันแน่? แล้วเมื่อก่อนฉันเคยเป็นใครกัน ?
….ฉันจมดิ่งสู่ห้วงความคิดนั้น
เมื่อก่อน ฉันเคยเป็นคนแบบไหนกัน? เดี๋ยวนะ ฉันเคยถูกเรียกว่าอะไรนะ? หน้าตาล่ะ เป็นแบบไหน?
ไม่..
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่
สุดท้าย ฉันก็ไม่คิดอะไรอีกต่อไป นอกจากพยายามเดินต่อไปข้างหน้า
….หลังจากที่เดินต่อไปได้อีกราวๆ สองชั่วโมง พระอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้า หนทางเริ่มมองเห็นได้ลำบากมากขึ้น ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางทรุดตัวนั่งลง
วันนี้ควรหยุดแค่นี้มั้ย? หรือจะฝืนเดินต่อไปอีกหน่อยดี? ….ไม่ล่ะ นี่มันถึงลิมิทของฉันละ พลันความเจ็บปวดทั่วร่างก็สำแดงขึ้นมา ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างกับแผลทั่วตัวนี่ ไม่ดีแน่
“....เดี๋ยวนะ ฉันใช้ 『ปฐมรักษา*』ได้นี่นา ?....”
[*応急処置]
เนื่องด้วยการระลึกความทรงจำจากโลกเก่าที่ประทุขึ้นมา เลยทำให้ลืมไปชั่วครู่ แต่ เร็น สามารถใช้เวทย์มนต์ได้เล็กน้อย
หนึ่งในนั้นคือเวทย์มนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำทั้งหลาย ซึ่งนับเป็นเวทย์มนต์ไร้ธาตุ ที่แม้แต่คนที่ความสามารถทางเวทย์มนต์ต่ำก็ยังเรียนรู้ได้
จำพวก เสกน้ำปริมาณเล็กน้อย, จุดไฟ, ให้แสงสว่างส่องทางเดิน เป็นเวทย์มนต์ที่ให้ผล เฉกเดียวกับการใช้เครื่องไม้เครื่องมือขนาดเล็กทั้งหลาย
ในบรรดาเวทย์มนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งหลาย 『ปฐมรักษา』คือเวทย์มนต์ที่ใช้หยุดเลือด สมานแผลขนาดเล็ก และบรรเทาอาการปวด จะว่าไปแล้ว เวทย์มนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่ว่ากันว่าเรียนรู้ได้ยากที่สุดคือ 『ชำระล้าง*』ซึ่งใช้สำหรับชำระสิ่งสกปรกออกจากเนื้อตัวและเสื้อผ้า เอาจริงคือ ฉันใช้ไม่ได้หรอก ที่ฉันใช้ได้ตอนนี้คือ『ปฐมรักษา』และ『แสง**』 เท่านั้นเอง
[*洗浄] [**灯り]
...ว่าแต่ทำไมอยู่ๆ ถึงระลึกความรู้พวกนี้ขึ้นมาได้หนอ?
ช่างมันเถอะ นี่มันก็ความทรงจำของฉันเหมือนกันนี่นะ พลางส่ายหน้า
“『ปฐมรักษา』”
...อา ความเจ็บปวดค่อยๆ เบาลงจนอยู่ในจุดที่สามารถรับไหว แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ทำไมฉันรู้สึกว่าผลของมันถึงดีกว่า ที่เคยจำได้กันนะ
พอถึงตรงนี้ ความเจ็บลดลงจนถึงจุดที่น่าจะหลับลงแล้ว แต่ถ้ามีตัวอะไรเข้ามาใกล้ๆ ตอนที่หลับอยู่ ก็คงตายสถานเดียว
ปีนขึ้นไปนอนบนต้นไม้ดีมั้ย? แต่ด้วยสังขารแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้แหงๆ
สรุปคือ ฉันตัดสินใจที่จะนอนในเต๊นท์อย่างง่าย จากกิ่งไม้และผ้าห่ม แต่ถ้ามีตัวอะไรออกมาก็ค่อยว่ากัน...
สุดท้าย ฉันก็นอนไม่อิ่ม ทั้งจากความกังวลเอย และความเจ็บจากอาการบาดเจ็บเอย
Comments
Post a Comment