012 - สาวน้อยภูติหิมะ ที่กำลังจะกลายเป็นนักเรียนสาวมัธยมต้น
แปล : Ayumin3310
“ที่รีบกลับมา เพราะจะได้รีบกลับมาดูแลพ่อบ้าคนนี้ ใช่มั้ยล่ะ?”
ประโยคระเบิดพลีชีพของพ่อ ทำให้「ผม」ทึ่งได้เสมอ
เอาจริงๆนะ ตอนที่อยู่บนเขาเฮียวเซย์ 「ผม」อดห่วงสภาพการณ์ของที่ร้านไม่ได้เลย เพราะจากที่ผ่านมามันบ่งชี้ว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะงั้นจึงดีใจมากที่ได้กลับมาที่บ้านเสียที และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ร้านยังคงอยู่ในสภาพที่ไร้ลูกค้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ให้ตายเถอะ…...”
ขณะนี้ แม้จะเป็นเวลาที่ควรจะมีคนเข้ามาทานมื้อเที่ยงกันหนาแน่นแล้ว แต่มองไปแล้วกลับไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว
หลังจากกลับมาจากการฝึกอันแสนโหดร้าย ก็ลงมาจมกับปัญหาเดิมของที่บ้านที่ไม่รู้จะแก้ยังไงต่อ
「ผม」บ่นงึมงำในใจ ว่าถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง สภาพการณ์ก็จะเลวร้ายอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
“โอ๋ มีเรื่องหงุดหงิดใจอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ยูคิยะจัง? ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกฮะ...”
เรื่องปัญหาสถานะของร้านนั่นก็เรื่องหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องที่กลุ้มใจอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนออกไปจากบ้านร่วมครึ่งเดือน แต่ตอนนี้มันตะหงิดๆ รู้สึกเหมือนกับว่าลืมอะไรที่สำคัญมากๆ ไปเรื่องหนึ่ง
“อ-เอ้อใช่…...ยูคิยะ กลับมาเวลาได้จังหวะดีเลย พ่อก็ลืมไปสนิทเลยด้วยล่ะ ว่าวันปิดเทอมภาคฤดูหนาวของลูกกำลังจะหมดแล้ว อีกไม่นานโรงเรียนก็จะเปิดเทอมแล้วสินะ”
คุณพ่อผู้ที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาจากขอบเหวของความตายลุกขึ้นนั่ง
“เอ๋?”
“อีกสามวันก็เปิดเทอมแล้วไม่ใช่เรอะ? ”
นั่นสินะ ในที่สุดก็นึกไอ้สิ่งที่ว่า สำคัญมากๆ เมื่อตะกี้ออก อ่า โรงเรียนนั่นเอง―
พลางรีบหันไปมองปฏิทินที่แขวนอยู่ในร้านโดยอัตโนมัติ
เพราะความโกลาหลเรื่องภูติหิมะ และคุณแม่ เลยทำให้ลืมไปสนิทใจ แต่ไม่ว่ายังไงชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อ อีกไม่นานวันหยุดฤดูหนาวที่ยาวนานกำลังจะสิ้นสุดลง คงเพราะปีนี้เล่นกระโดดข้ามทั้งคริสต์มาส และปีใหม่ไปเลย ซึ่งแต่เดิมมันก็ไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรกับบ้านของ「ผม」อยู่แล้วล่ะนะ
“เอ๊ะ...ด-เดี๋ยวนะ...แล้ว「ผม」กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ….”
เหมือนถูกลากกลับมาสู่ความเป็นจริงที่โหดร้าย
จริงๆ แล้ว「ผม」ก็แค่เด็กมัธยมต้นธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีสิ่งพิเศษอะไร สิ่งที่เหนือไปจากความดาษก็คือ เคยฝึกซอร์ฟเทนนิสแค่นั้นแหละ……
แล้วด้วยสังขารแบบนี้จะไปโรงเรียนได้ยังไงล่ะเนี่ย
“ก็ไปโรงเรียนตามปกติสิ ยังไงลูกก็ต้องจบการศึกษาภาคบังคับให้ได้ก่อนนา―”
“แล้วอยู่ๆ จะให้「ผม」จะอธิบายเรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ? ”
ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ ว่าการเรียน เป็นหนึ่งใน ภาวะผูกพันทั้งสามที่พึงปฏิบัติ1 และโดยส่วนตัวแล้ว ต่อให้ไม่ต้องอิงกับหลักการอะไร 「ผม」ก็ยังเห็นว่าความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่ว่า ตอนนี้กลายเป็นเด็กผู้หญิงไปแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะไปเข้าหน้ากับคนอื่นยังไงดี
[1 国民の三大義務 : ภาวะผูกพันทั้งสามที่พึงปฏิบัติของประชากร เป็นหลักแนวทางปฏิบัติของประชากรญี่ปุ่นค่ะ ข้อแรกคือเด็กต้องได้รับการปกป้อง และได้รับการศึกษาอย่างถูกต้อง ข้อที่สองคือต้องมีสิทธิ์ที่จะเลือกทำงาน และข้อสุดท้ายก็คือ จะต้องจ่ายภาษีและได้รับการปกป้องโดยกฏหมาย]
“ถ้าเรื่องที่โรงเรียนล่ะก็ พ่อจัดการให้หมดแล้วล่ะนะ”
“ห้ะ? ยังไงนะฮะ?”
“ก็ ทำเรื่องย้ายยูคิยะเข้ามาในโรงเรียนให้แล้วยังไงล่ะ”
“เอ๋? ไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็ในอนาคตลูกต้องไปทั้งโรงเรียน ทั้งฝึกการเป็นภูติหิมะกับแม่จ๋านี่นะ พ่อเลยจัดการให้หมดแล้วล่ะ เพราะงั้น ลูกก็ไม่ต้องกังวลอะไร ไปพิธีเปิดภาคเรียนได้เลยนะ”
“เดี๋ยวก่อนนะฮะ…..การฝึก ไม่ใช่ว่าจบไปแล้วเหรอฮะ? ”
เสียงกระแอมดังขึ้นจากหญิงสาวที่ใส่กิโมโนสีขาวข้างๆ
“ไม่มีทาง ลูกแค่ลอกเปลือกชั้นนอกออกเท่านั้นเองนะ ถ้าจะให้เปรียบสิ่งที่ลูกจะต้องเรียนรู้ กับความสูงของภูเขาเฮียวเซย์ทั้งหมดแล้ว ลูกเพิ่งขึ้นไปถึงแค่บึงน้ำนัยตาอสรพิษเท่านั้นเองหรอกนะจ๊ะ”
บึงน้ำนัยตาอสรพิษ เป็นจุดพักจุดแรกของเส้นทางเดินป่าของภูเขาเฮียวเซย์ เป็นแค่จุดเริ่มต้นของจุดเริ่มต้นจริงๆ
“คุณแม่ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย….”
นี่จะต้องกลับไปเจอกับการฝึกนรกนั่นอีกแล้วเหรอ?
“พยายามเข้านะจ๊ะ ยูคิยะ ไม่เป็นไรหรอก ลูกทำได้แน่นอน”
อยู่ๆ แรงก็หดหายไปจากขาทั้งสอง 「ผม」ทรุดลงตรงนั้นหลังจากสิ้นคำประกาศของคุณแม่ พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมหัว
“บ๊ะ อย่าเพิ่งใจฝ่อสิยูคิยะ….นี่ๆ ดูสิว่าพ่อเตรียมอะไรไว้ให้”
มองตามที่นิ้วของคุณพ่อชี้ไป ก็เห็นอะไรบางอย่างแขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น
ซึ่งสิ่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ว่า มันคือชุดเครื่องแบบนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนที่「ผม」เรียนอยู่ ปัญหาก็คือ มันคือชุดปกกระลาสีแสนน่ารักของนักเรียนหญิงน่ะสิ….
เป็นชุดเครื่องแบบฤดูหนาวสีดำ ที่มีผ้าพันคอสีน้ำเงินพันรอบคอปกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางมองผิดพลาดไปได้
“จะเตรียมพร้อมเกินไปแล้ว! ”
“แหม ชุดนักเรียนน่ารักจังเลยー ยอดไปเลยนะ ยูคิยะจัง ”
รู้สึกตัวอีกที มาคิดได้ว่าระหว่างที่ฝึกอยู่บนภูเขา ก็ถูกวัดสัดส่วนไปเรียบร้อยแล้ว โดยบอกแค่ว่า จะเตรียมชุดที่ขนาดเหมาะสมให้ ตอนนั้นสินะ…….
“คุณพ่อกับคุณแม่จะลั๊ลลากันเกินไปแล้ววววว! นี่น่ะ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของ「ผม」เลยนะ...”
คุณพ่อหน้าหนวดหัวเราะตอบกลับการโวยวาย ตกลงนี่เห็นเป็นเรื่องสนุกจริงๆ สินะ
“นี่แม่อิจฉายูคิยะจังจริงๆ นะเนี่ย ลูกน่ะเหมือนแม่สมัยยังไป เรียนที่วัด1 กับเด็กผู้หญิงข้างบ้านเลยล่ะ~”
[1 ยูคิโนะใช้ศัพท์ว่า 寺子屋 (terakoya) : เป็นการเรียนที่วัดแบบโบราณของญี่ปุ่นสมัยเอโดะ(ราวศตวรรษที่ 17) ]
หืมม? ตะกี้รู้สึกเหมือนกับว่าจะได้ยินคำศัพท์โบราณอะไรซักอย่างที่ฟังดูสุดยอดจากคุณแม่ใช่มั๊ยน่ะ แต่ก็นะ ถ้าถามอายุแม่ออกไปตรงๆ คงจะไม่ดี เพราะงั้นเงียบๆ ไว้ดีกว่าเนอะ
ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นะ ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมไป แต่ยอมรับตรงๆ คือ อยากไปโรงเรียนนะ
แต่ดูแล้ว「ผม」คงต้องไปโรงเรียนในฐานะของ ยูคิยะ เด็กผู้หญิง ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง
ส่วน ยูคิยะคนเดิม ก็ต้องกลายเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมต้นในโตเกียวแทน
“จะเตรียมพร้อมกันเกินไปแล้ว…...นี่ใช้วิธีไหนกันฮะเนี่ย? ”
มาลองคิดดูแล้ว พวกท่านจัดการเรื่องเอกสารทางราชการกันยังไงเนี่ย แล้วไหนจะเอกสารเรื่องการย้ายโอนโรงเรียนอีก
“บ๊ะ ไม่ต้องกังวลหรอกยูคิยะ พ่อน่ะไม่ได้ใช้เวลา 14 ปีไปเปล่าๆ ปลี้ๆ หรอกนะ ทางนี้น่ะ เตรียมตัวไว้ตั้งนานแล้ว เรื่องบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ ลูกเล่นแบบไหนพ่อก็เรียนรู้ไว้หมดนั่นล่ะ”
ลงทุนจังเลยน้า
โรงเรียนจะเปิดในอีกไม่นานแล้ว แล้วนี่จะจัดการชีวิตต่อจากนี้ได้มั้ย? แล้วไหนจะเรื่องเพื่อนๆ อีกล่ะ?
แล้วก็จะให้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับพวกเด็กผู้หญิงน่ะเหรอ...
ว่าแต่……..
ยูคิยะ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ย้ายโรงเรียนมาจากโตเกียว เพราะปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ที่ย้ายมานอกเมืองใหญ่เพราะอากาศดีกว่า ในขณะที่ยูคิยะก็ถูกย้ายสลับเปลี่ยนไปอยู่ในเมืองแทน
(สตอรี่มันทื่อๆ ไปมั้ยอ่ะ…...)
จะไปรอดมั้ยนะ―
ใช้ชีวิตในฐานะเด็กผู้หญิง แถมยังเป็นภูติหิมะ...สองบทบาทเลย แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
“น่ารักจังเลย― ชุดนี้เหมาะกับยูคิจังมากเลยล่ะ”
“โอ๊ พ่อเตรียมกระเป๋ากับรองเท้าใหม่ให้ด้วยนะ”
พวกท่านสองคนดูตื่นเต้นเอามากๆ
อ๊าาา ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย?
มีคุณแม่ที่สวยมากๆ ทั้งที ไหงท่านดันเป็นภูติหิมะไปซะได้
แต่ถึงจะกรีดร้องในใจไปมากแค่ไหนแต่ก็แค่นั้นแหละ
เพราะยังไง พวกท่านก็เป็นคนให้กำเนิด「ผม」มา
แต่ว่า...ชุดปกกระลาสีนี่น่ะ…...แล้วก็กระโปรงนั่น…...นี่คือต้องอยู่กับอะไรแบบนี้ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ
「ผม」หยิบชุดที่แขวนอยู่ออกมาจับดู
เอ๋ สองชิ้นนี้แขวนแยกกันอยู่หรอกเหรอ
ขณะที่กำลังดูเสื้ออยู่ ก็เห็นอะไรซักอย่างหล่นออกมา
เห็นไวๆ ว่าเป็นสายมีแผ่นกลมๆ รูปร่างเหมือนเปลือกหอยติดอยู่สองอัน
นี่มัน…..
…...
…...
…...
เสื้อชั้นใน
“มาจ๊ะ แม่ช่วยใส่ให้นะ”
หันไปก็พบกับรอยยิ้มของคุณแม่สุดสวยที่「ผม」จะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
ที่ตอนเล่ารายละเอียดการซิ้กแซก สำมะโนครัว ดันเล่าแบบลวกๆยัดใต้โต๊ะง่ายๆซะงั้น
ReplyDeleteพอเป็นเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนสลับตัว ก็ดันลวกๆพอๆกันให้คนโดนปวดหัวเล่น อืมม.. เนื้อเรื่องง่ายดีแท้ รายละเอียดแบบลวกๆ ไม่ก็อย่ารู้เลย(เพราะตูคิดไม่ออก ง่ายไว้ก่อน ถถถ+)