010 - การฝึกของเด็กสาวภูติหิมะ





แปล : Ayumin3310




      “หนะะー หนาวชะมัดเลย หนาวววววววว! ”
      “อดทนไว้สิจ๊ะ ยูคิยะ”

   หลังจากที่ถูกบังคับพาตัวออกมาจากบ้าน สาวน้อยก็ถูกคุณแม่ที่จับมือไว้แน่น ลากถูลู่ถูกัง
   ไม่รู้อีกแล้วว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหน ไม่รู้กระทั่งจุดหมายปลายทาง
   สิ่งเดียวที่รู้ก็คือ ตอนนี้ถูกพาขึ้นมาบนภูเขา

      “ถึงแล้วล่ะ”

      “!?”

   รู้สึกตัวอีกทีพวกเราสองแม่ลูกก็อยู่ในจุดที่สามารถบอกได้แค่ว่า บนภูเขา แต่จะเป็นตำแหน่งไหนนั้นไม่อาจรู้ได้เลย
   รู้แต่ว่าอยู่สูงเอามากๆ
   ด้วยพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ วิสัยทัศน์รอบข้างจึงแทบจะเป็นศูนย์ สิ่งที่พอเห็นได้คือ เทือกเขาที่ชันมากจนหิมะไม่อาจเกาะได้ ทำให้เห็นเนื้อหินของภูเขา….ไม่มีต้นไม้อยู่รอบๆ เลย และเท่าที่สัมผัสได้ก็คืออากาศเบาบางมาก

      “ก-โกหกกันใช่มั๊ยเนี่ย….”

   ตอนนี้กำลังอยู่กลางหุบเขาเฮียวเซย์สินะ?
   หนึ่งในหุบเขาที่สูงที่สุด และปีนได้ยากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ นักปีนเขาหลายต่อหลายคนหายสาบสูญ หรือต่างเสียชีวิตกันบนภูเขานี้
   เดี๋ยว-เดี๋ยวนะ ทำไมเป็นที่นี่ล่ะ แล้วก็ นี่เพิ่งออกมาจากบ้านแค่ราวๆ สามสิบนาทีเองไม่ใช่เหรอ...

      “นานเลยนะ ที่ไม่ได้ออกมาข้างนอกกับยูคิยะแค่สองคนแบบนี้ แม่รอเวลาแบบนี้มานานเลยล่ะ”

      “อ-อย่างงั้นเหรอฮะ...คุณแม่...”

   ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็ยังคงรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคุณแม่
   แม้ว่าท่านจะเป็น ภูติหิมะ หรือไม่ก็ตาม คุณแม่ก็ยังเป็นคนแม่ที่งดงามอยู่เสมอ
 
   แต่ทำไมท่านต้องเอา「ผม」ขึ้นมาอยู่ในที่ๆ อันตรายแบบนี้ด้วยยยยย?

   โลกนี้ มันมีสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูด หรือตัวหนังสือได้อยู่ ซึ่งสถานการณ์ที่「ผม」กำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ตอนนี้ก็เป็นไปตามครรลองนั้น

      “ห-หนาว! ช่วยด้วย! ”

   คำว่า หนาวเข้ากระดูก อาจจะยังไม่พอที่จะบรรยายได้ดีพอ อาจจะต้องใช้คำว่า หนาวเข้าไปถึงจิตวิญญาณ จะดีกว่า
   เสียงลมหวีดหวิวดังลั่นมาจากทุกทิศทาง หิมะพัดแรงโหมกระหน่ำไปทั่ว จน「ผม」แทบจะถูกหิมะเคลือบไปทั้งตัว แม้แต่น้ำตาที่ซึมออกมาก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว
 
   ดินแดนรอบข้างกลายเป็นสีเงินระยิบระยับ

      “อากาศวันนี้ดีจังเลย เหมาะกับการฝึกพอดี หิมะก็ไม่มากเกินไป ตอนนี้ลูกสัมผัสถึงพลังของภูเขาได้ใช่มั๊ยจ๊ะ?”

   สัมผัสได้แน่นอน แต่เป็นความตายนะ

      “ตาย..ตายแน่ๆ! ”

   ความหนาวเย็นขนาดนี้ สิ่งเดียวที่สัมผัสได้คือความตายเท่านั้นล่ะ
   อุณหภูมิตอนนี้ ยังต่ำกว่าช่องแช่แข็งในตู้เย็นเสียอีก

      “อ-อยากกลับบ้าน! ”

   บ้านแสนอบอุ่น ที่เพิ่งจากมาไม่ถึงสามสิบนาทีก่อน

      “ไม่ได้จ๊ะ จนกว่ายูคิยะจะตื่นขึ้น และควบคุมพลังได้”

      “ไหงงั้นล่ะฮะ...! ”

      “แหมๆ…...นั่นไม่ได้ยากหรอกนะจ๊ะ แล้วก็ ลูกคุมพลังได้เมื่อไหร่ พวกเราก็จะกลับบ้านทันทีเลย”

      “เป็นไปไม่ได้หรอกนะฮะ”

   แย่แล้ว แย่มากๆ เลยด้วย เสียงเริ่มไม่ออกมาจากร่างกายแล้ว…...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังแข็งตายแน่ๆ

      “งั้น มาเริ่มกันเถอะนะจ๊ะ”

   คุณแม่ประสานมือเข้าหากันประหนึ่งนักบวชในโบสถ์ ท่ามกลางลมหนาวที่โหมอย่างไร้ความปราณี

      “จิตวิญญาณแห่งสายลมของหุบเขาเฮียวเซย์เอ๋ย โปรดประทานบททดสอบแก่หน่อเนื้อของข้า เพื่อปลุกพลังที่อยู่ในสายเลือดของเด็กคนนี้ขึ้นมาด้วยเถิด”

   (ขุ่นแม่ แค่นี้ยังหนาวไม่พอเหรอฮะ! อย่าไปขออะไรแบบนั้นสิ! )

      “อ๊าาาาาาาาา”

   สิ้นเสียงคำสวดร้องขอของผู้เป็นแม่ ลมหนาวพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงจากทุกทิศทาง ประหนึ่งพุ่งเป้ามาที่ตัวยูคิยะอย่างไงอย่างงั้น
   ม-ไม่ไหวแล้ว

      “ถ้าไม่รีบปลุกพลังให้ตื่นขึ้นมา ลูกจะตายเอานะ”

      “ต-ตายงั้นเหรอ! แล้วให้ปลุกอะไร ปลุกยังไงไม่เห็นรู้เรื่องเลย! ”

      “เลือดภูติหิมะที่อยู่ในตัวยูคิยะยังไงล่ะー  ”

      “ม-ม-ม-ไม่-ห-ห-เห็น...จ-จะเข้า-จ-ใจ-เล…………..”

   แม่แต่เสียงก็ไม่อาจเล็ดลอดออกมาจากปากได้แล้วในตอนนี้ ทั้งจากความหนาวเย็นที่เสียดแทงเข้าไปทั้งตัวและเสียงของลมที่กลบซุ่มเสียงของทุกสิ่ง

      “พยายามเข้า แล้วมองมาที่แม่นะ ”

   นอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่ดังก้องอยู่ในโสตประสาทแล้ว มีเพียงเสียงของผู้หญิงในกิโมโนสีขาวบางๆตรงหน้าที่แจ่มชัดกังวลอยู่ในหัว
   เหมือนหญิงสาวตรงหน้ากำลังยืนอยู่ทามกลางกลีบดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิก็มิปาน
   หากแต่ว่า ความจริงแล้ว ท่านกำลังยืนท่ามกลางพายุหิมะที่กรรโชกกลางภูเขาสูงต่างหาก
 
      “ลูกจะปลอดภัย ถ้าเลือดภูติหิมะของลูกตื่นขึ้นนะ”

      “ผ-ผม-ม-ม-ม-ไม่…..คิ-คิดว่า-จ-จ-จะทำได้-น……….”

   หิมะถูกพัดเป็นสาย รวมตัวกันจนเป็นรูปร่างแปลกๆ คล้ายมังกรสีขาวเริ่มปรากฏตัวขึ้น

      “กรี้ดดดดดดดดดด”

   อยู่ๆ ตัวของผมถูกมังกรสีขาวนั่น พัดลอยกระเด็นห่างออกไป
   กลิ้งตกลงจากเนินเขาที่ยืนอยู่เมื่อสักครู่

      “ให้ตายเถอะ…..ดูเหมือนว่า พ่อจ๋าจะโอ๋ยูคิยะเกินไปสินะ”

   ตัวผมที่ถูกพัดกระเด็นออกไป ตกลงในทุ่งกว้างสีขาว เหมือนก้อนน้ำแข็งที่ค้างอยู่บนหลังคาถูกกวาดตกลงมาบนพื้น
   ตอนนี้มีกองหิมะถมทับตัวอยู่ราวๆ หนึ่งเมตร จะเรียกว่าถูกฝังไว้ก็คงไม่ผิดนัก

      “ทีนี้ ลูกต้องควมคุมลมหนาวให้ได้อย่างใจคิดนะ... อึ้บ”

   เงยหน้าขึ้นก็พบว่าคุณแม่เข้ามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วหิ้วคอผมออกจากกองหิมะที่ทับอยู่
   อย่างไรก็ตาม….ท่านกำลังลอยเหนือเลียดๆ พื้นเหมือนกำลังบินอยู่

   ใช่ ท่านกำลังลอยอยู่ จริงๆ

   นี่คือไม่สนใจกฏฟิสิกส์โดยสมบูรณ์แบบเลยสินะ?

      “อุ…..หงึ….ห-หนาว”

      “ยูคิยะ ลูกต้องเป็นหนึ่งเดียวกับสายลมให้ได้นะ”

   「ผม」ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณแม่บอกเลยแม้แต่นิดเดียว--
   แล้วก็…...สติทำท่ากำลังจะหลุดออกไปอยู่แล้ว สิ่งที่เห็น กำลังลางเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ
   อา ทุ่งดอกไม้ข้างหน้า ช่างสวยงามเหลือเกิน...ไม่รู้หรอกว่า「ผม」กำลังเห็นทุ่งดอกไม้จริงๆหรือเปล่า แต่มันงดงามจริงๆ นะ

   ความทรงจำโผล่ เหมือนมีแสงสว่างวาบ
   จำได้ว่าตะกี้ยังกังวลถึงความหนาวและหิมะอยู่เลย เดี๋ยวนะ…..

   เฮ้ย! นี่「ผม」กำลังจะตายนี่หว่า….




Comments