008 - คำพูด และ ความคิด





แปล : Ayumin3310



   หลังจากนั้น 「ผม」ก็เริ่มเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตให้คุณแม่ที่อยู่ตรงหน้าฟัง
   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อน การเรียน ชมรม ชีวิตในโรงเรียน และตัวตนของ「ผม」
   ดึงออกมาทั้งรูปถ่าย ยันไปจนถึงรูปสีเทียนที่วาดตั้งแต่ยังเด็กๆ
 
   “รูปเนี้ย วาดคุณแม่ตั้งแต่ตอนที่อยู่อนุบาลล่ะ”

   “อา ดีจังเลย”

   ตอนนี้ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากทำ โชว์ทุกอย่างที่อยากโชว์ให้กับคุณแม่ที่ไม่เคยนึกว่าจะได้เจอ เป็นสิ่งที่วาดฝันไว้แต่เด็กว่าอยากทำ แต่ไม่มีโอกาส

   “อา นี่มันรูปที่「ผม」กับโทมิโนริสมัย ป.5 ตอนที่กำลังจะไปโรงเรียน ตอนนั้น「ผม」อยู่ที่โรงเรียนรินคัน ส่วนเด็กในรูปคนนี้คือนัทสึมิ …. อ๊ะ นี่รูปตอนที่ชนะงานกีฬาสี ”

   「ผม」ทยอยเอารูปเก่าๆ ออกมา แล้วเอาให้ท่านดู เล่าเรื่องราวพื้นหลังที่อยู่ในนั้น คุณแม่นั่งฟังอย่างสนอกสนใจ
   ประหนึ่งอยากเติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไป

   “ยูคิยะ ลูกเจอเพื่อนดีๆ แล้วสินะ―”

   “ทั้งสองคนมาที่ร้านบ่อยๆ เอาไว้「ผม」จะแนะนำพวกเค้าให้คุณแม่รู้จักนะฮะ”

   ผู้เป็นแม่รับคำด้วยการพยักหน้า และส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้

   ถึงจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยอย่างแค่การพยักหน้าแล้วยิ้มให้ แต่กลับทำให้รู้สึกลิงโลด ดีใจเอามากๆ

   เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังจะเป็นจะตาย ตอนที่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นเด็กผู้หญิงอยู่เลย แต่อะไรพวกนั้นเทียบไม่ได้ กับการที่ได้คุณแม่กลับมาอยู่ตรงหน้าเลยซักนิด

   แม้แต่พ่อที่เป็นคนไม่ยี่หระอะไรต่อโลกใบนี้ ก็ดูเหมือนจะมีเรื่องที่อัดอยู่ในใจมากมายแต่ไม่เคยบ่นให้「ผม」ฟัง แต่พอเจอคุณแม่ก็เหมือนเขื่อนแตก เรื่องราวมากมายที่เก็บเอาไว้ทะลักทะลายออกมา

   เรื่องของร้านที่ท่านปกป้องมันมานาน การมาเปิดร้านในสถานที่ๆ ไม่คุ้นชิน ก็ลำบากมากพออยู่แล้ว ยังมีเรื่องบั่นทอนที่「ผม」ไม่เคยได้รู้มาก่อนมาซ้ำเติมอีก อย่างเช่น บรรดาญาติๆ ที่คอยกดดัน พร่ำบ่นบอกให้พ่อเลิกกิจการแล้วกลับบ้านเกิดที่โตเกียว

   “ชูจังก็ลำบากเหมือนกันนะ ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะคะ”

   “ขอบคุณนะ ยูคิโนะ”

   เวลาที่เจอเรื่องราวแย่ๆ คุณพ่อมักจะเอาไปลงกับเหล้า หรือปาจิงโกะ

   แต่จะไม่พูดเรื่องพวกนี้ออกไปหรอกนะ

   ถึงจะมีเข้าหาอบายมุขอยู่บ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่รู้คือ นับตั้งแต่จำความได้ ท่านไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเลย

   ตอนแรกก็แอบประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้วล่ะ

   14 ปีที่ผ่านมา ท่านเฝ้ารอคุณแม่กลับมานี่เอง

   และตอนนี้ทั้งสองก็ได้เจอกันแล้ว



   เวลาที่ขาดหายไปเกินสิบปี ย่อมไม่มีทางคุยจบได้ในวันเดียว

   เวลาผ่านไปในพริบตา พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว

   คุณแม่ไม่หายไปไหน คืนนี้จะอยู่กับพวกเราที่นี่

   พ่อลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบท เดินหายเข้าไปในครัว เหลือพวกเราสองแม่ลูก

   “นั่นสินะ ยูคิยะ เสร็จแล้วเดี๋ยวอาบน้ำกับแม่มั้ย !?”

   “อาบน้ำ !?”

   “สมัยก่อนแม่ก็อาบน้ำให้ลูกอยู่แล้วนี่นา อ๊ะ แต่ว่านั่นเป็นก่อนที่ลูกจะจำความได้นี่นะ...”

   “ม..ไม่เป็นไรฮะ 「ผม」อาบเองดีกว่า”

   พอพูดจบก็รีบลุกขึ้น ก่อนที่คุณแม่จะเอาจริง

   “「ผม」ขออาบก่อนนะฮะ”

   “แหม น่าเสียดายจัง เอาไว้วันหลังเนอะ”



   พอกลับมาอยู่กับตัวเองในห้องน้ำแล้ว ทำให้ได้ตระหนัก

   เงาสะท้อนในกระจก เป็นเด็กผู้หญิงคนที่เห็นเมื่อเช้า

   ตั้งแต่ที่เจอคุณแม่เมื่อเช้า ทุกสิ่งถูกปัดไปข้างๆ แต่ตอนนี้คือเวลาที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ปัดกองเอาไว้

   นั่นแหละ ตอนนี้ร่างกายของ「ผม」กลายเป็นเด็กผู้หญิงไปเรียบร้อยแล้ว…..

   「ผม」เอามือขึ้นทาบบนหน้าอกที่นูนออกมาของตัวเองอีกหน

   (อุ….ไม่ใช่ความฝันสินะ)

   เสื้อผ้าที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้าถูกถอดออกมากองทีละชิ้น

   พอเห็นร่างเปลือยเปล่าของตนเองเป็นครั้งแรก…..ความรู้สึกโหวง ไม่มั่นคงในจิตใจเอ่อล้นวูบขึ้นมา

   (นี่คือ…...ตัว「ผม」)

   พอสัมผัสได้ถึงใบหน้าร้อนผ่าว จึงรีบหันหลบไปโดยสัญชาตญาณ

   ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกำลังมองร่างกายตัวเองอยู่เลยสักนิด

   ก็นะ ใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายมาตลอด 14 ปี ย่อมต้องสนใจในร่างกายของเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว

   แต่ว่า นี่มันดันเป็นร่างกายตัวเอง…….แถมยังน่ารักอีกต่างหาก

   ขณะนี้ คำถามเชิงอัตตา และ ความกระหายใครรู้ กำลังคละคลุ้งฟุ้งซ่านอยู่ในหัวสมอง



   เมื่อตัดสินใจได้อดีตเด็กชายจึงหลับตาลง หยุดความคิดที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด คิดไปก็ปวดสมองเสียเปล่าๆ
   เด็กสาวรีบเปิดฝักบัวอาบน้ำทั้งๆ ที่หลับตา แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการหลับตาแบบคนลักไก่แอบมอง ตอนเล่นปิดตาคลำหา

   ยิ่งปิดตา ยิ่งสัมผัสได้ถึงความต่างของสายน้ำที่ไหลผ่านร่างกาย พอรูปทรงของร่างกายเปลี่ยน น้ำที่ไหลผ่านส่วนต่างๆ ก็เปลี่ยนไป สัมผัสแปลกประหลาดที่ไม่เคยได้รู้สึก ทั้งหน้าอก หน้าท้อง ก้นกบ ไปจนถึงหัวแม่เท้าก็ยังไม่เหมือนเดิม

   เข้าใจแหละว่าต้องรู้จักร่างกายตัวเอง ต้องรู้ว่าอะไรบ้างที่เปลี่ยนไป หนีไม่ได้ หลบไม่ได้ แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ขอหนีความจริงหน่อยเถอะ

   ก็มันมีเรื่องที่ต้องคิดเยอะแยะ อย่างน้อยก็เรื่องคุณแม่ ตอนนี้มีแม่เป็นของตัวเองแล้ว ผลัดวันประกันพรุ่งซักหน่อยคงไม่เป็นไรเนอะ?

 
  หลังจากที่อาบน้ำ และเช็ดตัวจนแห้งแล้ว ก็พบเข้ากับปัญหาใหม่อีกเรื่อง

   ไม่มีชุดที่ใส่พอดีตัว ซึ่งแหงล่ะ ก็มีแต่ชุดของเด็กผู้ชายนี่นา  ถึงจะเป็นชุดเดิมที่เคยใส่ไม่นาน แต่มันไม่เหมือนเดิม ตัวผอมลง เล็กลง ไม่แปลกที่มันจะหลวม แต่ทำไมตรงสะโพกดันคับล่ะน่ะ

   เปลี่ยนไปหมดทั้งตัวจริงๆ


   “เฮ้อ….”

   เผลอถอนหายใจออกมาล่ะ

   เหนื่อยชมัด ถ้าจะให้เปรียบเทียบ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็คงเหมือนนั่งโรลเลอโคสเตอร์ล่ะมั้ง

   แต่--บทพิสูจน์ถัดไปกำลังมาจ่อที่หน้าประตูแล้ว ทันทีที่ทรุดตัวลงนั่ง ท้องน้อยกลมแข็งก็ส่งสัญญาณประท้วง

   “ง่ะ….อีแบบนี้ น่าจะไม่ไหวแฮะ…...”

   พอจะเดาได้ ว่าสัญญาณที่ร่างกายร้องเตือนนี้คืออะไร….ปวดชิ้งฉ่องนั่นเอง

   ถึงความรู้สึกจะต่างจากตอนเป็นเด็กผู้ชายก็เถอะ ทั้งตำแหน่งที่เปลี่ยนไป ทั้งอาการประท้วงของร่างกาย
   ตำแหน่งที่ปวด อยู่ลึกเข้ามามากขึ้น และความสามารถในการอั้นที่น้อยกว่าเดิม

   “ทำไมเป็นงี้ล่ะ…”

   ถึงปากจะบ่น แต่ขาก็วิ่ง พาตัวมาเข้าห้องน้ำ

   ขณะทำธุระก็พยายามมองให้น้อยที่สุด พลางคิดหาเรื่องเบี่ยงเบนความคิดอกุศลไป

   (อ่า ตอนนี้แม่กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะงั้น…….)







Comments

Post a Comment