031 - ป้อน*ทั้งพี่ทั้งน้องเลยล่ะค่ะ




      [* 餌付け : แปลว่าการป้อน หรือให้อาหารเลยค่ะ ป้อนแบบคนให้กับสัตว์เลี้ยงตรงๆ เลย ไม่ใช่การป้อนข้าวที่คนมีให้กับคน]

   กู๊ดมอนิ่งค่ะทุกคน! วันนี้ก็จะพยายามให้เต็มที่ล่ะ~

   วันนี้ตอนที่นั่งลงกำลังจะทานข้าวเช้าที่แคนทีน ฉันมองเพียงแค่หางตาก็รู้แล้วล่ะค่ะว่ากำลังโดนจ้องเขม็งจากไอ้คุณพ่อครัว ประจำร้านอยู่ จากนั้นลิลลี่ก็ยกอาหารมาเสิร์ฟ


   “เมื่อวานขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”

   “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องคิดมากเลยค่า- ”


   จากนั้น เธอก็เริ่มอธิบายสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟัง

    เรื่องมันเริ่มมาจากอุด้งที่ฉันทำเมื่อสองวันก่อน มีลูกค้าในร้านเห็นเราสองคน คือฉันและลิลลี่นั่งทานอุด้งกัน พวกเขาเลยเดินไปถามหาจากในครัว
   และก็ตามสันดานคนน่ะนะ ไอ้คุณพ่อครัวนั่นก็เคลมออกมาว่า “ฉันเป็นคนทำเองน่ะ” แต่ไม่ว่ายังไง ในเย็นวันนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นอาหารชามนั้นเลย

   และก็ดูเหมือนว่า หลังจากที่ฉันขึ้นห้องไปแล้ว บรรดาลูกค้าก็เริ่มประนาม เริ่มต่อว่ากันเสียๆ หายๆ เริ่มมีคนบอกว่าอาหารที่ชื่อว่าอุด้งนั่น ฉันนี่แหละที่เป็นคนทำ และอาหารก่อนหน้าที่ใช้เนื้อออร์ค(คัตเลทแซนวิช) ก็ด้วย
   ซึ่งมันก็เหมือนกับทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นพ่อครัวโดนเหยียดหยาม และที่พ่นออกมาเมื่อวานก็คือ แค่อยากได้สูตรอาหารน่ะแหละ ซึ่งทั้งหมดนั่นก็คือแค่อยากได้คำชมเท่านั้นเอง แม้ว่าจะเป็นคำชมจากการก๊อปปี้แบบห่วยๆ ก็ตามที…….ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้ใส่ใจหรอก

   “หืมม อย่างนี้นี่เอง”

   “ดิฉันก็โกรธเหมือนกันนะคะ เพราะมันแท้ๆ  เลยจะไม่ได้ทานของที่คุณทำอีกแล้ว…...”

   อา คิดไว้ไม่ผิด โกรธเรื่องนี้นี่เอง เรื่องกินเรื่องใหญ่

   “ไม่ต้องกังวลไปค่ะ นี่กำลังหาทาง เอาไว้ถ้ามีโอกาสได้ทำอาหาร จะแบ่งมาให้คุณลิลลี่ทานอีกแน่ๆ ล่ะค่ะ”

   “เอ๋ จริงๆ นะคะ !?”

   “อื้อ แต่เบาเสียงลงหน่อยก็ดีนะคะ”

   “ข-ขอโทษด้วยค่า”

   “ก็ ถึงแม้จะไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้ แต่ไม่นานหรอกนะ”

   “ค่ะ! จะตั้งหน้าตั้งตารอเลยค่ะ!”

   ว่าแต่ จะุคุณเธอไม่คาดหวังสูงไปหน่อยเหรอ? อย่าวางเกณฑ์ไว้สูงขนาดนั้นเซ่!

   ฉันออกมาจากโรงแรม หลังจากที่นั่งคุยเรื่องสัพเพเหระกับลิลลี่ต่ออีกพักหนึ่ง วันนี้หวานดีจังเลยล่ะน้า-

   ขณะที่เดินอยู่ในเมืองมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองอยู่นั้นเอง ฉันก็หันไปมองโนรุนกับคุณลูกสาว ที่เดินขนาบมาคู่กัน วันนี้คุณแม่ดูอารมณ์ดีกว่าปกติ คงเป็นเพราะว่า ช่วงไม่กี่วันนี้ทักษะการล่าเหยื่อของเบลจังดีขึ้นมาก

   ซึ่งในที่นี้ก็คือผลของภูเขากองซากศพสัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นทุกวันๆ ขณะที่ฉันเก็บสมุนไพรอยู่สินะ?

   ระหว่างที่เดินผ่านหน้าที่ทำการกิลด์นักผจญภัย ก็พบเข้ากับเด็กสาวพนักงานต้อนรับคนหนึ่งกำลังกวาดพื้นทางเข้ากิลด์อยู่ คุณคนสวยที่ลงทะเบียนนักผจญภัยให้กับฉันนั่นเอง ว่าแล้วก็เดินเข้าไปกล่าวทักทายสักหน่อย

   “อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

   “อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้ก็จะมารับเควสเก็บสมุนไพรใช่มั้ยเอ่ย?”

   “ใช่ค่ะ เอิ่ม…...”

   จะว่าไปก็ยังไม่รู้ชื่อเธอเลยนี่นะ

   “......?”

   “......อ๊ะ ชื่อของดิฉันคือ ซาเลน่าค่ะ”

   “อา คุณซาเลน่า”

   ชื่อซาเลน่านี่เอง ต้องจำให้แม่นๆ ซะแล้วล่ะนะ

   “จะว่าไป เห็นว่าคุณสนิทกับน้องสาวของดิฉันมากเลยนะคะ”

   “น้องสาว?”

   “เธอเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่โรงแรม ที่ดิฉันคิดว่าคุณเข้าพักอยู่น่ะคะ?”

   “อ๊ะ หมายถึงคุณลิลลี่น่ะเหรอ?”

   “ใช่แล้ว ลิลลี่นั่นแหละค่ะ แต่เดิมก็เป็นเด็กพูดเยอะช่างจ้ออยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้เธอยิ่งเอ่ยถึงคุณไม่หยุดปากเลยล่ะค่ะ ว่าอาหารที่คุณทำให้เธอทานน่ะ อร่อยมาก”

   อา เพราะอาหารที่ฉันทำให้คุณน้องสาวทานมันอร่อยจน ไปบ่นถึงขนาดทำให้เธอรำคาญเลยสินะ ขอโทษด้วยละกันน้า
  ว่าแต่ ลิลลี่ กับ ซาเลน่าเหรอ…….หืม พี่น้องดอกลิลลี่สินะ1?
[1 百合姉妹 (Yurishimai) : แปลตรงตัวว่า พี่น้องดอกลิลลี่ค่ะ แต่ก็เป็นชื่อนิตยสารมังงะที่เน้นเนื้อหาไปที่ความรักระหว่างเพศหญิง-หญิง(ยูริ) ด้วย เอาจริงๆ นี่ก็ไม่เก็ตมุขนี้เหมือนกัน ว่าผู้แต่งจะสื่อ จะเล่นมุขอะไร]

   “ดูเหมือนอาหารที่ได้ทานจะเป็นอะไรที่ไม่เคยได้ทานมาก่อนล่ะมั้งคะ?”

   “ว่าแต่ อยากลองทานดูบ้างมั้ยล่ะคะ?”

   “เอ๋ นี่ชวนจริงๆ เหรอคะ!?”

   นี่ก็ยังมีอุด้งเหลืออยู่ เพราะอยากตีซี้กับลิลลี่ แล้วก็อยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่กิลด์ด้วย แต่เหนืออื่นใด เหตุผลหลักจริงๆ เลยก็คือเธออยู่ในสไตร์คโซนเป๊ะน่ะสิ เพราะงั้นแล้วก็เลยอยากสนิทให้มากขึ้นล่ะ

   พอตกลงกันเรียบร้อย ฉันก็ถูกพามาในห้องๆ หนึ่งในกิลด์ เป็นห้องที่เจ้าหน้าที่ของกิลด์ใช้กัน

   ดูเหมือนว่าคุณซาเลน่าจะทานข้าวเช้าไปแล้ว แต่ในเมื่อมันเป็นแค่อุด้ง ไม่ได้หนักท้องอะไร  ฉันจึงเรียกอุปกรณ์ออกมา และตักแบ่งให้เธอในปริมาณไม่มาก
 
   “น-นี่มัน…...”

   “ทานให้อร่อยนะคะ”

   ไหนๆก็ไหนๆ ฉันเลยตัดสินใจทานไปด้วยกันเลย ซู๊ด! อื้ม อร่อยจริงๆ น่ะแหละ

   “ฮุว๊าาาา-…...”

   สีหน้าท่าทางที่สื่อออกมาเหมือนน้องสาวของเธอ ลิลลี่ ไม่มีผิดเพี้ยน สองคนนี้เป็นพี่น้องกันไม่ผิดแน่

   ทั้งสองชามหมดลงไปอย่างรวดเร็วราวกับระเหิดออกไปหมด

   “ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ว่าแต่นี่มันอร่อยมากเลยล่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ทานอะไรแบบนี้เลยนะคะ…...”
 
   “ยังหรอกๆ นี่มันยังอร่อยได้มากกว่านี้อีกนะคะ”

   พอถึงตรงนี้ หัวหน้ากิลด์ก็เปิดประตูเข้ามาพอดี

   “โอ้? กลิ่นนี่มันอะไรกันเนี่ย? หอมดีจัง…...กินอะไรกันอยู่เหรอครับ?”

   “อา อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

   ซาเลน่ากล่าวทักทายหัวหน้ากิลด์ ในขณะที่ฉันใช้การผงกหัว

   “กินอะไรกันอยู่ล่ะเนี่ย? หืม เด็กผู้หญิงคนนั้น? อ่า จังหวะดีเลย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณหนูพอดี”

   “......เรื่องอะไรเหรอคะ?”

   หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หรือเรื่องอะไรแย่ๆ ใช่มั้ย?

   “อ่ะ ไม่ต้องแสดงท่าทางกังวลขนาดนั้นหรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมจะจับคุณหนูกินซักหน่อย”

   “ค่ะ”

   “เอาล่ะ จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ…...มันอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย เพราะงั้นจะขอพูดสั้นๆ นะครับ ทำไมเธอไม่ขายวัตถุดิบที่ได้จากสัตว์ประหลาดบ้างเลยล่ะครับ?”

   “......เอ๋?”

   ห้ะ? ความแตกแล้วเรอะ?

   “อ่าา หลอกผมไม่ได้หรอกนะครับ ผมรู้หรอกนะว่าคุณหนูน่ะ ล้มสัตว์ประหลาดไปเยอะเลยใช่มั้ยล่ะ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ สัตว์ในอาณัติของเธอสินะ
   มีหลายคนเห็นเหมือนกันว่า หมาป่าของคุณหนูน่ะล้มสัตว์ประหลาดไป ในขณะที่เธอก็เก็บสมุนไพรไป”

   “อ่า…...นั่นน่ะ อืม..ดิฉันขอโทษค่ะ”

   “ขอโทษขอโพยอะไรกัน ผมไม่ได้โกรธอะไรซักหน่อย ถึงจะมีกฏที่ว่าห้ามนักผจญภัยที่อายุต่ำกว่า 13 ปีรับงานปราบปรามสัตว์ประหลาดก็จริง แต่ก็ไม่ได้ห้ามที่จะป้องกันตัวซักหน่อย
   ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังได้ยินมาว่า ในกรณีของคุณหนูน่ะ สัตว์ในอาณัติเล็งแต่สัตว์ประหลาดที่ตั้งเป้าโจมตีคุณหนูขณะที่กำลังเก็บสมุนไพรเท่านั้นอีกด้วย
   ซึ่งนั่นน่ะไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องกังวลเลยครับ”

   “นั่นน่ะ…...ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอคะ?”

   “ใช่แล้วล่ะ แค่นั้นน่ะไม่เป็นไรหรอก สำหรับคุณหนูแล้ว ในเมื่อโดนโจมตีก่อน ก็นับเป็นการป้องกันตัวใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นเลยบอกไงว่าไม่ใช่ปัญหาเลย”

   อา งั้นเดี๋ยวคงต้องขอโทษคุณโนรุนสำหรับเรื่องที่เคยไปดุไว้แล้วล่ะสิ เพราะสรุปผลแล้วก็คือ ซากศพสัตว์ประหลาดที่กองเป็นภูเขานั่น เป็นผลจากการปกป้องฉันนี่เอง

   “ปัญหาก็คือ ถ้าเก็บวัตถุดิบพวกนั้นที่เป็นของเน่าเสียได้ไว้นานมันจะไม่ดี ทำไมไม่แค่เทขายให้กับทางกิลด์ไปซะล่ะครับ?”

   “เอ๋?”

   “อื้ม แค่ขายมันแบบธรรมดาน่ะ?”

   “แต่ดิฉันไม่ได้รับเควสปราบปรามเลยนะคะ แล้วอยู่ๆ นึกจะขาย ก็เข้ามาขายได้เลยงั้นเหรอ?”

   “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ก็ถ้าเก็บไว้เปล่าๆ มันก็เน่าเสียหมดนี่ครับ”

   “อย่างนี้นี่เอง……

   “ใช่แล้ว อย่างเช่นเนื้อออร์คน่ะ นับเป็นของหรูหราสำหรับคนธรรมดาเลยนะครับ จะได้กินก็ต่อเมื่อในโอกาสพิเศษเท่านั้น ถึงขนาดที่ของที่มีในตลาดไม่พอกับความต้องการเลยล่ะ เพราะงั้นแล้วมันน่าเสียดายน่ะครับ ถ้าจะปล่อยให้วัตถุดิบที่คุณหนูมีเน่าเสียไปซะเปล่าๆ”
   “อืมม...ดิฉันขอโทษด้วยนะคะ?”

   “ไม่ๆ ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ก็อย่างที่บอกไป ผมไม่ได้โกรธอะไรเลย แค่ดูจากที่เห็น เหมือนคุณหนูจะไม่ได้ขายวัตถุดิบจากสัตว์ประหลาดออกไปเลย เพราะไม่รู้ว่าสามารถขายได้ใช่มั้ยครับ?”

   “อืม ถูกเผงเลยค่ะ”

   “เพราะงั้นแล้ว ผมเลยมาบอกนี่ล่ะครับ ว่าคุณหนูสามารถขายได้”

   …...อย่างนี้นี่เอง ขายได้สินะ

   “เอ้อ นั่นสินะ”

   “อะไรเหรอครับ?”

   “ดิฉันมีศพโอเกอร์อยู่ตัวนึง นั่นก็ขายได้ใช่มั้ยคะ?”

   “โอเกอร์ !?”

   โอ้ สงสัยไอ้นั่นท่าทางจะแพงเกินกว่าที่จะรับซื้อล่ะมั้งนะ?

   “เดี๋ยวนะครับ โอเกอร์งั้นเหรอ!? กี่ตัวนะครับ!?”

   “เอ๋? เอ๋? เอ๋? ”

   ดูเหมือนกับว่า โอเกอร์นั่น จะถูกจำแนกอยู่ในหมวดสัตว์ประหลาดที่ค่อนข้างอันตราย ระดับที่ต้องใช้นักผจญภัยแรงค์ D หลายคนเพื่อที่จะล้มโอเกอร์หนึ่งตน แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้น โอเกอร์มีพฤติกรรมที่จะอยู่กันเป็นฝูง ซึ่งถ้าเจอฝูงเข้าจริงๆ ก็ถึงขนาดที่ทางกิลด์ต้องรวบรวมปาร์ตี้แรงค์ C หลายคณะเข้าไปจัดการเลยทีเดียว

   ซึ่งการปรากฏตัวของโอเกอร์นับเป็นข่าวร้าย กระนั้นฉันเลยรีบอธิบายว่า ที่เจอมามีแค่ตัวเดียวเท่านั้น

   “ถ้าแค่ตัวเดียว…...มันก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าแค่หลงฝูงมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะประมาทแล้วก็มองข้ามได้ เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้คงต้องปิดป่าทางทิศใต้ของเมืองอย่างชั่วคราวไปก่อน แล้วก็ต้องจัดส่งทีมสำรวจเข้าไป”

   ดูร้ายแรงกว่าที่คิดแฮะ

   “ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้มาบอกก่อน”

   “ไม่เป็นไรครับ คุณหนูไม่ได้ทำอะไรผิด ยิ่งไปกว่านั้นการที่คุณหนูฆ่ามันได้ ยังนับเป็นการลดจำนวนผู้เคราะห์ร้ายลงอีกต่างหาก ว่าแต่มันก็หลายวันแล้วที่คุณหนูฆ่าโอเกอร์ไป และยังไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวจากฝูง เพราะงั้นคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันสำหรับการสำรวจล่ะนะ”

   ยังไงก็ได้อ่ะ อย่ามาลงโทษฉันเป็นพอ

   “ว่าแต่ว่า…...”

   “คะ?”

“ถ้ามานั่งคิดดูแล้ว การที่สัตว์ในอาณัติของคุณหนูแข็งแกร่งขนาดที่ล้มโอเกอร์ได้เนี่ย…...เรื่องต่างๆ มันก็จะมีความยุ่งยากขึ้นมากทีเดียวล่ะครับ”

   ง่าา...เค้าลางของความยุ่งยากมาแล้วสินะ?





TL : ..........ชื่อตอนนี่แบบ.........../มองบน

Comments

  1. พี่น้องลิลลี่ ทุ่งดอกลิลลี่~

    ReplyDelete

Post a Comment